....Trogir เมืองเล็กๆแห่งนี้  ถูกค้นพบโดยนักล่าอาณานิคมชาวกรีกในศตวรรษที่ 3  ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา Trogir ถูกครอบครองโดยชาวโรมัน, ไบเซนไทน์, ฮังการี, Venetians และนโปเลียน 

....ที่ Trogir มีสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งคือ Romanesque City Core ซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพง ภายในมีปราสาทและหอคอยที่ถูกดูแลรักษาไว้อย่างดี  รายรอบด้วยวังและอาคารต่างๆจำนวนมากซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคโรมัน โกธิค และบาร็อค  ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนสถานที่แห่งนี้ไว้ว่าเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในยุคโรมันโกธิคที่ดีที่สุดในยุโรปกลาง

....ดิฉันจอดรถไว้ใกล้สะพานบนเกาะที่ไปพัก  เพียงแค่เดินข้ามสะพานก็ถึง Romanesque City Core (ขอเรียกว่าเมืองเก่า) ซึ่งรายรอบกำแพงที่ล้อมเมืองเอาไว้มีแต่ร้านค้าขายอาหารขายเครื่องดื่ม  นักท่องเที่ยวนั่งกันเต็มดูวิวท่าเรือดูคนเดินกันไปมา  ที่จริงเมืองเก่านี้ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆเกาะนึงที่เป็นติ่งยื่นออกมา 

....เดินเข้าไปดูในเมืองเก่าที่อยู่ภายในกำแพงล้อมรอบ  เป็นมืองเล็กๆแบบเมืองเก่าในยุโรปทั่วๆไป  มีบ้านเรือนขนาดเล็กตั้งติดๆกันตามถนนปูหินแบบโบราณที่มีขนาดพอรถม้าขนาดกลางวิ่งได้คันนึง  ปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ในเมืองเก่านี้  บางส่วนก็เอามาทำอพาร์ทเมนต์ให้เช่า

เมืองเก่า (Romanesque City Core) อยู่บนเกาะเล็กๆล้อมรอบด้วยกำแพงทั้งเมือง 

มีร้านอาหารรายรอบนอกกำแพง  จัดระเบียบร้านได้เป็นสวยงาม

มองไปทางไหนก็เป็นระเบียบเรียบร้อยน่าเดินน่ามองน่านั่ง

แม้รถราที่มาจอดก็มีระเบียบ  คุณภาพของคนดูได้จากการมีระเบียบวินัยที่ดี

ภายในเมืองเก่า  มีทั้งโบสถ์ วัง ป้อม และอาคารเก่าแก่  ไม่มีความสามารถอธิบายนะคะ  ดูรูปเอาแล้วหาอ่านกันเอาเองตามเน็ทนะคะ  ภายในเมืองเก่าก็มีร้านอาหาร  มีระเบียบเรียบร้อยสะอาดตา

โบสถ์เก่าแก่สมัยยุคโรมันเรืองอำนาจใเมืองเก่าที่ Trogir

บ้านเรือนผู้คนในเมืองเก่า Trogir ยังมีคนอาศัยอยู่  บ้างเป็นอพาร์ทเมนท์

สวยงามน่าอยู่ตามแบบฉบับเมืองเก่าโรมัน

กุหลาบเลื้อยสวยๆแบบนี้ปลูกทั่วไปในเมืองเก่า

ทางในเมืองเก่ามีขนาดเล็กๆแบบนี้ ถ้าเป็นทางหลักก็จะมีขนาดใหญ่กว่านี้หน่อย

....เห็นสมควรแก่เวลาเราก็ออกเดินทางต่อ....ตอนแรกตั้งใจว่าเราคงมาถึงเมือง Trogir แห่งนี้ตอนบ่ายๆของเมื่อวาน  แต่ก็กลายเป็นว่ามาถึงค่ำๆเพราะไปเจอเส้นทางบนเขาเลียบทะเล  อีกทั้งมากันแค่สองคนเลยปล่อยเวลาตามสบาย....วันนี้ก็ออกจากที่พักสายเพราะมัวแต่ชื่นชมธรรมชาติ  แล้วยังไปขับรถเล่นรอบเกาะ  อีกทั้งไปเสียเวลาช้อปปิ้งในเมืองเก่า Trogir อีก....ความตั้งใจที่จะขับรถไปเมือง Split  และเลยไป Dubrovnik  แล้ววกกลับขึ้นเพื่อจะไป Plitvice นั้น....คงเป็นไปไม่ได้แล้ว

....อ่านข้อมูลของ Split และ Dubrovnik แล้ว  สองคนแม่ลูกวินิจฉัยเข้าข้างตัวเองว่าก็คงมีแต่เมืองเก่าแบบที่เห็นๆกันมากับอาคารบ้านเรือนหลังคาสวยๆให้ดูเหมือนๆเมืองที่ผ่านมานั่นแหละ!  ส่วนธรรมชาติสวยๆประเภทตามเกาะแก่งต่างๆ หนนี้เห็นทีจะไม่สะดวก!  เอาว่าเที่ยวแบบสบายๆก็แล้วกัน....ตัดสินใจตัด Split และ Dubrovnik ออกจากกองมรดก  โอกาสหน้าถ้ามีค่อยว่ากัน!! 

....โอ้เอ้กันไปโอ้เอ้กันมากว่าจะออกจาก Trogir ก็จะบ่ายสองเข้าไปแล้ว  ตั้งค่าจีพีเอสไปที่ Plitvice แล้วก็ออกเดินทาง....

โทรเกียร์ในวงกลมสีน้ำเงินด้านล่าง  Split และ Dubrovnik ในสี่เหลี่ยมสี่น้ำเงิน  ส่วน Plitvice ในวงกลมสีน้ำเงินด้านบน

....การตัดสินใจไม่ไป Split และ Dubrovnik ในวันนี้หนนี้ตัดสินใจไม่ผิดเลยค่ะ  เพราะหนทางจาก Trogir ที่จะมุ่งหน้าไป Plitvice ไม่ราบเรียบอย่างที่คิด....เริ่มออกจาก Trogir ก็ต้องไต่เขากันแล้วค่ะ  รถวิ่งข้ามเขาทีละลูกไปเรื่อยๆ  จากลูกโน้นไปลูกนี้  ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับอย่างมาก  เพราะเป็นเขาสูงที่ต้องวิ่งเลาะขอบเขาบนถนนแคบๆไปเรื่อยๆอย่างน่าหวาดเสียว  แต่ตอนนี้เริ่มทำใจว่าไม่เท่าไรแล้วค่ะเพราะตั้งรับได้บ้างแล้ว....

....กว่าจะผ่านเขาแต่ละลูกออกมาถึง motor way หลัก  ก็ใช้เวลามากเอาการอยู่   อันที่จริงจาก Trogir ไป Plitvice ระยะทางแค่ไม่ถึง 200 กม. แต่การต้องตั้งใจขับรถอย่างมากในความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนนทำให้ต้องใช้เวลานานพอสมควร 

ทางน่าหวาดเสียวเหมือนเคย  มีแค่ที่กั้นนิดหน่อยไหล่ถนนเล็กๆ ชะโงกมองข้ามไปก็เป็นทะเล  หวาดเสียวก็จริงแต่ก็สวยมากค่ะ

ทางโค้งหักศอกแบบนี้มีเป็นร้อยโดยมีแค่ไหล่ถนนแคบๆ  ภูเขาที่เห็นข้างหน้าในรูปเป็นภูเขาที่อยู่ห่างออกไป

มีจุดจอดให้ชมวิว  ต้องขับดีๆถ้าตั้งใจขับมากจะเผลอขับเลยแล้วอดดูของดี  เลยแล้วเลยเลย  ถอยกลับไม่ได้เดี๋ยวตกเขาเอาง่ายๆ

วิวสวยๆแบบนี้มีเกือบตลอดทาง

แล้วถนนแบบนี้ก็มีเกือบตลอดทางเช่นกัน!!!

จาก main road ที่วิ่งอยู่บนยอดเขาต่างๆ  เมื่อใกล้จะเข้า motor way จะมีด่านผ่านทาง  ที่นี่เค้าเรียกว่า Cestarina เป็นภาษาเซอร์เบียน  (ที่โครเอเชียใช้ภาษาเซอร์เบียนกันค่ะ).............""ดิฉันขอเหมาเอาว่าด่านนี้เป็นด่านผ่านทางที่สวยและสูงที่สุดในโลกเท่าที่เคยเห็นมาเลยละค่ะ""..............  เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงมองลงไปเห็นทิวเขาเบื้องล่างอยู่ต่ำกว่ามากมาย

เข้า motor way ได้ก็รีบหาปั๊มน้ำมันเติมน้ำมันตุนเอาไว้ให้เต็มถังจะได้ขับรถสบายใจ  แต่ละปั๊มใหญ่โต  สะอาด  และสวยงาม  และอยู่ในภูมิประเทศที่งดงามยิ่งค่ะ

และไม่ลืมที่จะแวะเติมพลังให้ตัวเองด้วย....ที่ปั๊มน้ำมันนั่นแหละค่ะ

สลัดที่โครเอเชียไม่ว่าจะทานที่ไหนก็อร่อยมาก....

อิ่มแล้วก็เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศต่อ  วิวแบบนี้ขับรถมีความสุขจริงๆค่ะ

....ได้ขับรถสบายๆดูวิวสวยๆบน motor way ไม่กี่สิบกิโลเมตร  ก็ต้องเบี่ยงออก main road อีกแล้วเพื่อเข้าไปยังอุทยานแห่งชาติ Plitvice....ตอนนี้ดิฉันเริ่มตามใจและวางใจจีพีเอสแล้วค่ะ  จะพาไปทางไหนก็ไป  หลังจากผ่านทางทั้งหลายแหล่ที่จีพีเอสพาไปก่อนหน้านี้แล้ว  ต่อไปจะเจออะไรก็คงไม่เท่าไรแล้ว

....คิดยังไม่ทันหมดขั้นตอน  จีพีเอสก็เริ่มพาลุยไปยังถนนเล็กๆแคบๆ  ซึ่งทั้งเล็กและแคบกว่าปกติ  ขนาดไม่สามารถสวนกันบนสะพานได้  เหมือนถนนตามชนบทที่เคยเห็นตามภาคเหนือของเราน่ะค่ะ  บรรยากาศดีค่ะ รถสวนแทบจะนับไม่ได้เลย  เพราะไม่ค่อยมีรถวิ่งสวนมา  แต่ก็ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกกลัวแม้แต่นิด  อยู่โครเอเชียมาหลายวันก็เริ่มรู้ว่าบ้านเมืองนี้ความปลอดภัยสูงมาก

....วิ่่งลัดเลาะตามทางเล็กๆตามแต่จีพีเอสจะนำทางมาเรื่อยๆ  ใช้เวลาค่ะเพราะทางเก่าและเล็กของชนบทโครเอเชียใช้ความเร็วมากนักไม่ได้แต่ความสะดวกสบายรับประกันค่ะ 

ทางลัดเลาะตามถนนเล็กๆผ่านชนบทเพื่อจะไปยัง Plitvice

เห็นเขาสูงๆมีหิมะค้างบนยอดก็รู้สึกว่าเริ่มจะเข้าใกล้อุทยานแห่งชาติ Plitvice แล้ว

เริ่มคืบคลานเข้าเขตอุทยานมาเรื่อยๆ  ภูมิประเทศจะแตกต่างจาก Trogir ที่พึ่งจากมา

....ใกล้ถึง Plitvice ก็เริ่มมีบ้านเรือนต่างๆให้เห็น  พอเข้าเขต Plitvice จะมีชุมชนหนาแน่นขึ้น  Plitvice นั้นมีอาณาเขตกว้างขวาง  ดังนั้นอพาร์ทเมนท์และโรงแรมต่างๆสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวจึงมีเยอะมากและกระจายกันอยู่ไปทั่ว 

....ขับผ่านชุมชนไปถึงสองสามชุมชนแล้วก็ยังไม่ถึงที่พักเราสักที  เริ่มลุ้นแล้วค่ะว่าเราจะได้ไปอยู่ตรงจุดไหน....ในที่สุดจีพีเอสก็เริ่มบอกว่าใกล้ถึงที่พักที่เราจองเอาไว้แล้ว....เลี้ยวเข้าไปตามทางที่จีพีเอสนำ  มีอพาร์ทเมนท์ตั้งเรียงรายกันอยู่หลายหลัง 

ชุมชนแถบ Plitvice

....เรามาถึงก็เกือบทุ่มแล้วค่ะแต่ยังสว่างอยู่  พอขับเข้าไปเจ้าของอพาร์ทเมนต์หลังแรกๆเห็นรถเราก็เดินออกมาด้านหน้ากวักมือเรียกเพื่อให้เราไปแวะพักที่อพาร์ทเมนต์ของพวกเค้า  แต่เราจองมาเรียบร้อยแล้ว  ขับดุ่มๆตรงไหนมองหาบ้านเลขที่  คงต้องเป็นหนึ่งในอพาร์ทเมนท์ที่อยู่รายรอบบริเวณนั้น

....ในที่สุดก็มาถึงอพาร์ทเมนท์ที่จองเอาไว้  เจ้าของออกมายืนรอรับเราทันทีที่เห็นรถเราเลี้ยวเข้ามา....อพาร์ทเมนท์แถวนี้เหมือนบ้านตามชนบทที่อยู่กันเป็นกลุ่มๆ  โดยคนแถวนี้เอาบ้านมาทำเป็นอพาร์ทเมนต์กันเกือบทุกหลังเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาเที่ยวที่ Plitvice กันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี

....ที่อพาร์ทเมนต์แห่งนี้ไม่มีอาหารเย็นบริการ  ดังนั้นเราจึงต้องออกไปหาอะไรรองท้องกัน  สอบถามเจ้าของอพาร์ทเมนท์เธอแนะนำร้านอาหารทั้งร้านพิซซ่าเล็กๆและร้านอาหารใหญ่หน้าทางเข้าอุทยานแห่งชาติ Plitvice ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสิบกิโลเมตร 

....ถึงจะเริ่มค่ำแล้วแต่ที่นี่ฟ้ายังคงสว่าง  ดีเหมือนกันจะได้ออกไปสำรวจทางเข้าอุทยานแห่งชาติ Plitvice และศึกษาข้อมูลกันก่อนเพื่อความเข้าใจ....ไปถึงหน้าทางเข้าถึงค่ำแล้วยังคงมีคนหลงเหลือมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูล  ก็ที่นี่ปิดทุ่มนึงค่ะ  เข้าไปสอบถามข้อมูลซักซ้อมความเข้าใจเพื่อเตรียมเข้าอุทยานฯในวันรุ่งขึ้น  จนพอใจแล้วก็เข้าไปสำรวจร้านอาหาร

ยามค่ำหน้าศูนย์ข้อมูลบริการนักท่องเที่ยว  ที่ขายตั๋ว  ที่จอดรถ  และร้านค้าต่างๆ

....ร้านอาหารใหญ่โตค่ะ  สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากๆได้อย่างสบาย  แบ่งออกเป็นสามโซน  เป็นโซนคาเฟทีเรีย  โซน self service  และโซนภัตตาคาร....ไปเดินชะโงกดูอาหารโซน self service วันนี้เมนูยังไม่ค่อยถูกใจ  เลยชวนกันไปนั่งในโซนภัตตาคาร  เพื่อหาอาหารถูกปากรับประทาน

สี่ทุ่มกว่าแล้วหน้าทางเข้าที่พัก

....อิ่มอร่อยค่ะ....เรื่อง Plitvice มาว่ากันต่อทีหลัง....สวยหยดแบบห้ามพลาดเลยนะคะ....สวัสดีค่ะ

........................................................................