*/
<< | พฤศจิกายน 2020 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 |
หลังจากคณะกรรมการแข่งขันทางการค้ามีมติให้ซีพีควบรวมกิจการเทสโก้ โลตัสได้ โดยไม่ถือเป็นการผูกขาด และให้เงื่อนไข 7 ข้อที่ซีพีต้องปฏิบัติตาม แต่ก็ยังไม่ถูกใจหลายคน จึงต้องออกมาตั้งโต๊ะเสวนาวิพากษ์วิจารณ์กันต่อ
หากจะมองกันจริง ๆ ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของยักษ์ใหญ่ เวลาจะขยับตัวทำอะไรที ย่อมมีแรงสั่นสะเทือนมาก ซึ่งเรื่องนี้ถ้าไม่ใช่ซีพี อาจไม่เป็นประเด็นให้สนใจมากนัก และเพราะความเป็นยักษ์ใหญ่นี่เอง แรงกระเพื่อมทั้งบวกและลบจึงมีสูง แต่ทั้งสองด้านนั้น ก็ย่อมมีทั้งผู้ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์รวมอยู่ด้วยกัน
ในมุมของความกังวล ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความกลัวว่าจะเกิดการผูกขาด หรือการมีอำนาจเหนือตลาดที่สามารถกำหนดราคาสินค้าได้เอง จนไปถึงอาจมีการกีดกันทางการค้า แต่ในมุมของโอกาสกลับเห็นช่องทางที่หลากหลายจากความเป็นธุรกิจรายใหญ่ของซีพีนั่นเอง
นักวิชาการหลายท่านได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจ โดยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย มองว่า ธุรกิจค้าปลีกในปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ไม่ใช่แค่กับคู่แข่งในธุรกิจค้าปลีกรายเดิม ๆ แต่ตลาดใหม่ ๆ อย่าง การค้าปลีกออนไลน์ (e-commerce เช่น Shopee, Lazada) บริการส่งถึงบ้าน (Home Delivery: Grab, LineMan, Panda) ก็เป็นตัวแปรสำคัญมากในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค ตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่างเทสโก้ โลตัส และ บิ๊กซี ต่างต้องพลิกตำราหากลยุทธ์กันไม่หยุด เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงและความอยู่รอด แต่ก็ยังคงต้องใช้กลยุทธ์การแข่งขันกันลดราคาอยู่ดี ซึ่งดูยังไงผู้บริโภคก็ได้ประโยชน์ และหากกลุ่มซีพีมีวิธีการบริหารจัดการต้นทุน การกระจายสินค้า ที่ทำให้ต้นทุนการดำเนินการลดลง ราคาสินค้าอาจจะถึงมือผู้บริโภคในราคาที่ถูกลง จะผลักดันให้ตลาดค้าปลีกมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
ส่วนความกังวลที่ว่าจะไปกดดันซัพพลายเออร์นั้น ดร.ธนวรรธน์ มองว่า หากมีการใช้อำนาจกดดันซัพพลายเออร์ ทำให้ซัพพลายเออร์ล้มเหลวในการทำธุรกิจ ก็จะเป็นผลร้ายต่อบริษัทเอง อย่างน้อยก็จะไม่มีซัพพลายเออร์นำสินค้ามาขายให้ ซึ่งบริษัทไม่ได้ทำธุรกิจทุกอย่างได้เองทั้งหมด ในทางปฏิบัติ กลุ่มซีพีจึงไม่สามารถผูกขาดตลาดหรือมีอำนาจเหนือตลาดได้ และทุกบริษัทในเครือซีพีก็อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีการกำกับดูแลเรื่องความโปร่งใส และธรรมภิบาลในการดำเนินธุรกิจ
ด้านคณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ให้ความเห็นไว้ว่า ธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตสนับสนุนทั้งตลาดสินค้าและตลาดแรงงาน เปรียบเป็นเส้นเลือดใหญ่กระจายเลือดหล่อเลี้ยงอวัยวะทุกส่วน รวมถึงสนับสนุนเสาหลักของประเทศอย่างเกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อยรายใหญ่ ให้กระจายสินค้าไปทุกพื้นที่ของประเทศได้ ที่สำคัญยังส่งเสริมการจ้างงาน สร้างรายได้ ยิ่งดีลใหญ่ขนาดนี้ ซีพียิ่งต้องมีการจ้างงานในประเทศมากขึ้น ส่งเสริมสินค้าในประเทศไปวางขายในเทสโก้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์และทิศทางของเครือซีพีที่กำลังดำเนินการอยู่ กับการวางบทบาทของไฮเปอร์มาร์ทอย่าง เทสโก้ โลตัส ให้เข้ามาช่วยขยายภาคธุรกิจค้าปลีกของไทย ในฐานะช่องทางจำหน่ายสินค้าโอท็อป เอสเอ็มอี และขยายส่งสินค้าไปในต่างประเทศ
ทั้งนี้ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนของซีพี ยังสอดคล้องกับงานวิจัยของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ว่าการพัฒนาเศรษฐกิจไทยผ่านไฮเปอร์มาร์เก็ต ควรจะต้องส่งเสริมการเรียนรู้ด้านธุรกิจผสานสัมพันธ์ระหว่างชุมชน สังคมและธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่างความยั่งยืนมากขึ้น
นอกจากนี้ งานวิจัยก่อนหน้านี้ของฮาร์เวิร์ดยังบอกด้วยว่า ประเทศไทยควรมีองค์กรขนาดใหญ่เพื่อแข่งกับบริษัทระดับโลกได้ เช่น เกาหลีใต้มีซัมซุง แอลจี ฮุนได ญี่ปุ่นมีโตโยต้า ฮอนด้า และจีนมีหัวเว่ย อาลีบาบา เพื่อเป็นผู้เล่นระดับโลกไปเปิดตลาดต่างประเทศ ซึ่งหากไม่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีขนาดเพียงพอที่จะไปต่อรองในตลาดโลกและพารายเล็กไปขยายตลาด ก็ยากที่รายเล็กจะอยู่รอด เพราะในปัจจุบันถ้าเราไม่ออกไปบุกตลาดโลก ตลาดโลกก็มาบุกประเทศเราอยู่ดี
สรุปว่า ไม่ว่าซีพีจะได้เทสโก้ โลตัสไปหรือไม่ ตลาดค้าปลีกไทยก็ยังต้องเผชิญกับแรงสั่นสะเทือนอยู่ดี โดยเฉพาะจากผู้ค้าหน้าใหม่ของแพลตฟอร์มออนไลน์ และดิลิเวอรี่ ดังนั้น ความกังวลว่ารายย่อยหรือโชห่วยจะอยู่ไม่ได้เพราะซีพี จึงไม่ควรมีน้ำหนักมากนัก แต่การมีซีพีที่เป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่น่าจะเป็นเกาะคุ้มภัยให้กับธุรกิจรายเล็กของไทยได้อยู่รอดไปสู้กับธุรกิจออนไลน์ของต่างชาติที่เข้ามาบุกตลาดไทยได้มากกว่า
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |