ขณะที่ กังหันลม หมดท่า ถูก เจ้าเจทโด้ ซัดคนเดียว 2 ลูก ถึงจะพ่าย 1 – 2 แต่ถือว่า เนเธอร์แลนด์ หมดท่าจริงๆ เก็บไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว ในทัวร์นาเม้นท์นี้  โปรตุเกส เข้ารอบเป็นที่ 2 ไปพบกับ สาธารณรัฐเช็ค ในรอบ 8 ทีมต่อไป

ส่วนค่ำวันนี้ จะเป็นคิวของ กลุ่ม C แล้ว

สำหรับทีมเต็งแชมป์กลุ่มและทีมเต็งแชมป์ยูโรครั้งนี้ อย่าง ทีมชาติสเปน ผมอยากจะให้ลองมองดู ผู้เล่น 2 คน ที่ไม่ใช่ อันเดรส อินิเอสต้า ชาบี้ เอร์นันเดส เชส ฟาเบรกาส หรือแม้แต่ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ก็ตาม

ผมกำลังพูดถึงมิดฟิลด์ตัวรุกทางฝั่งซ้าย วัย 26 อย่าง ดาวิด ซิลบา ที่เพิ่งพา แมน ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี ด้วยฟอร์มที่โดดเด่น ประกอบกับการขาดหายไปของ ดาวิด บีญ่า ทำให้ ซิลบา กลายเป็นนักเตะแกนหลักของทีมแบบผูกขาดไปแล้ว ถ้าเทียบกับเมื่อฟุตบอลโลก 2010 ที่เขาเพียงแค่มีชื่ออยู่ในทีมชุดแชมป์เท่านั้น
 

ซิลบา ทั้งยิง ทั้งจ่าย แถมเดินเกมสร้างความปั่นป่วนให้กับกองหลังคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ถ้าขาด พ่อมด เมอร์ลิน อย่าง ซิลบา กระทิงดุ อาจถึงกับขาดใจได้เหมือนกัน

ส่วนดาวรุ่งอีกคน ก็เป็นแบ็คซ้าย วัย 23 จากสโมสร บาเลนเซีย ฆอร์ดี้ อัลบ้า คือชื่อของเขา อัลบ้า เคยเล่นประสานงานกับ ดาวิด ซิลบา มาก่อนในทีมบาเลนเซีย อาจเป็นด้วยเหตุนี้ ที่ทำให้เขาถูกเลือกลงเล่นในทัวร์นาเม้นท์นี้ ทั้งที่เพิ่งจะได้มีโอกาสลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่นัดแรก เมื่อปลายปีที่ผ่านนี้เอง



อัลบ้า สามารถแย่งตำแหน่งจาก โจน คัปเดบีญ่า ได้อย่างน่าทึ่ง แต่โชคดีกว่านั้น กลับเป็นของเขา เมื่อ การ์เลส ปูโยล บาดเจ็บ ทำให้ เซคิโอ รามอส ถูกหุบเข้าไปเล่นเซ็นเตอร์ เขาจึงได้โอกาสลงวาดลวดลาย และฟอร์มของเขาก็เตะตา 2 ทีมยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าให้อย่างจัง

อีกทีมที่ถูกคาดหมายว่าจะตามสเปน เข้ารอบต่อไปได้ แต่สถานการณ์ ณ วันนี้ จะเข้ารอบหรือไม่? ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลงานของทีมตัวเองเท่านั้น  อิตาลี่ จะต้องยิงชนะไอร์แลนด์ให้มีประตูได้มากๆ เข้าไว้ เผื่อว่าต้องไปนับลูกได้เสีย กรณี สเปน เสมอกับ โครเอเชีย 1-1 ซึ่งผลต่างจากนัดที่แต่ละทีมถลุงไอร์แลนด์ได้ จะเป็นตัวชี้ว่า ทีมไหนจะได้เข้ารอบบ้าง แต่ถ้า สเปน ฮั้วกับ โครเอเชีย ที่ ผลเสมอ 2 – 2 ขึ้นไป ไม่ว่าอิตาลี่จะชนะเท่าไร ก็ไม่มีประโยชน์ครับ ว่าไปแล้ว การตกรอบเพราะโดนฮั้วกัน อิตาลี่ก็เคยโดนมาแล้วนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีมาก่อน

ดาวเตะของอิตาลี่ในศึกครั้งนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธ อันเดรีย ปิร์โล่ ได้แน่นอน ปิร์โล่คือทุกสิ่งทุกอย่างของทีม ไม่ว่าจะเป็นจอมเตะลูกตั้งเตะ หรือแม้แต่ตัวผ่านบอลให้เพื่อนทำประตู


ปิร์โล่ ในวัย 33 ปี ยังคงความนิ่งและความเด็ดขาดในการเล่น ควบคุมจังหวะเกมได้ดี ฤดูกาลที่ผ่านมา ปิร์โล่ อิ่มตัวกับการเล่นให้ เอซี มิลาน จึงย้ายมาอยู่กับ ยูเวนตุส และก็นำทีมคว้าสคูเด็ตโต้ได้ในปีแรก ลูกฟรีคิกอันแม่นยำ ฉกาจฉกรรจ์ ยังคงมีพิษสง ที่ไม่สามารถจะมองข้ามไปได้เลย อายุเป็นเพียงตัวเลขสำหรับ ปิร์โล่ จริงๆ

อีกคนที่อยากให้ลองจับตา เป็นนักเตะหน้าใหม่ของทีม อัสซูรี่ นามว่า เอ็มมานูเอลเล่ ช้าคเครินี่  นักเตะคนนี้เพิ่งจะติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในยูโร 2012 และได้ลงประเดิมเกมเปิดสนามของกลุ่มกับสเปน หลายคนที่ได้เห็น ยังคงงงว่า เจ้าวิงแบ๊ค ทางด้านซ้ายเบอร์ 13 นี่เป็นใคร


ช้าคเครีนี่ แทบไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าในระดับ เซเรอา จนอายุจะย่างเข้า 26  เชาจึงได้ถูก ยูเวนตุส คว้าตัวมาร่วมทีมแบบเป็นเจ้าของร่วมคนละครึ่งกับทีมเชเซน่า เขาได้โอกาสลงสนามเพราะอาการบาดเจ็บของ เคลาดิโอ มาคิซิโอ้ และ อาร์ตูโร่ วิดาล ในช่วง เดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมาเป็นนัดแรก และก็ได้มีโอกาสลงเล่นบ่อยขึ้นจนพาทีมคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ได้สำเร็จ

ในระดับสโมสร เขาโชคดีเพราะนักเตะหลักบาดเจ็บ ทำให้เขาได้โอกาสลงเล่น แต่ในระดับชาติ เขากลับมีโชคยิ่งกว่า เมื่อ นักเตะแบ๊คซ้ายตัวหลักอย่าง โดเมนิโก้ คริสซิโต้ ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับการล้มบอล ทำให้ เซซาเร่ ปรันเดลลี่ ตัดสินใจ ถอดคริซิโต้ออกจากทีม และโอกาสก็เป็นของ เอ็มมานูเอลเล่ ช้าคเครินี่ แทน  ถ้า อิตาลี่ เกิดคว้าแชมป์ทัวร์นาเม้นท์นี้ได้จริงๆ  เจ้าหมอนี่ คงจะเป็น Lucky Guy ตัวจริงเลยล่ะครับ


ข้ามมาถึงทีม ตราหมากรุก โครเอเชีย บ้าง ผลงาน 2 นัดที่ผ่านมา ถือว่าทำได้ดีกว่าที่บรรดาเกจิคาดการณ์ไว้เลยล่ะครับ คืนนี้ โครเอเชีย อาจได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ เพื่อเชื่อมไมตรีจากกษัตริย์ ฆวน การ์ลอส ของสเปน ก็ได้ ใครจะไปรู้

นิกิช่า เยลาวิซ คือ นักเตะที่มีคนจับตามองค่อนข้างมาก ก่อนทัวร์นาเม้นท์นี้จะเริ่ม เพราะเขาย้ายไปโชว์ฟอร์มเด็ด ในสีเสื้อน้ำเงินเข้มของเอฟเวอร์ตั้น จนเข้าตาแฟนบอลเมืองผู้ดี ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะเห็นว่า เยลาวิซ จะเจ๋งจริงหรือเปล่า เมื่อต้องเผชิญกับ ทีมโคตรเขี้ยว 2 ทีมอย่าง อิตาลี่ และ สเปน


เยลาวิซ ในวัย 26 จะย่าง 27 ในเดือนสิงหาคม ได้ถูก กลาสโกว์ แรนเจอร์ส คว้าตัวมาร่วมทีมเมื่อ สิงหาคม 2010 และพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ในปีแรก เขาได้เหรียญรางวัล แชมป์สก๊อตติช พรีเมียร์ลีก และ แชมป์สก๊อตติช ลีกคัพ แต่เพียงปีถัดมา แรนเจอร์ส ก็จำต้องปล่อยตัวเขาออกเพราะสโมสรเกิดวิกฤตทางด้านการเงิน เยลาวิซ จึงได้ย้ายมาซบอก เดวิด มอยส์ และเอฟเวอร์ตั้น ในวันสุดท้ายก่อนจะปิดตลาดช่วงกลางฤดูกาล

ในช่วงเวลาเพียงแค่ 3 เดือนครึ่งที่มาอยู่กับ เอฟเวอร์ตั้น เยลาวิซ ลงเล่นรวม 16 นัด ทำได้ถึง 11 ประตู ทำลายสถิติเป็นนักเตะที่ใช้เวลาสั้นที่สุด ในการทำ 10 ประตูให้เอฟเวอร์ตั้น รวมทั้ง เป็นนักเตะที่ยิงประตูในเกมเยือนให้ทีมทอฟฟี่ได้ติดกัน 5 นัด แต่ที่ทำให้ผมช้ำใจคือ เยลาวิซ ยิง 2 ลูกในเกมเสมอกับปีศาจแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดแชมป์สมัยที่ 20 ไปในที่สุด ผลงานที่ยอดเยี่ยมนี้เอง ทำให้ เยลาวิช สามารถเบียดแย่งตำแหน่งศูนย์หน้าตัวหลักของโครเอเชียมาจาก อิวาน คลาสนิซ จนได้

ทีมโครเอเชีย มีผู้เล่นในแดนกลางเด่นๆ หลายคน ไม่ว่าจะเป็น ลูก้า โมลดริช  อิวาน ราคิติช และ ดาริโอ เซอร์น่า กัปตันทีม จึงทำให้ทีมสามารถต่อกรกับอิตาลี่ ได้อย่างใกล้เคียงทีเดียว แต่ในทัวร์นาเม้นท์นี้ กลับมี ศูนย์หน้าแจ้งเกิดขึ้นมาอีกคน เขาคือ มาริโอ มานด์ซูคิซ จาก โวล์ฟบวร์ก ในเยอรมัน

มานด์ซูคิซ ทำไป 3 ประตู นำเป็นดาวซัลโวร่วมอยู่ในขณะนี้ ถ้าคืนนี้ยิงได้สักลูก เขาก็จะขึ้นนำเดี่ยว เมื่อแข่งครบ 3 นัดเท่ากับ มาริโอ โกเมซ และ อลัน ซาโกเยฟ แต่ ซาโกเยฟ หมดโอกาสเพิ่มสกอร์ให้ตัวเองแล้ว


มานด์ซูคิซ เป็นศูนย์หน้าร่างใหญ่ ถนัดเล่นลูกโหม่ง ในช่วงปี 2007 – 2010 เขาโชว์ฟอร์มได้ดีกับ ดินาโม ซาเกร็บ จนทำให้สามารถจับจองตำแหน่งที่มั่นคงในทีมชาติไว้ได้ แม้จะยิงได้ไม่มาก แต่ความเป็นศูนย์หน้าตัวใหญ่ เก็บบอล บังบอลดี ทำให้เขามีส่วนร่วมกับทีมอย่างต่อเนื่องมาตลอด กับทีม โวล์ฟบวร์ก เขาก็ไม่ใช่กองหน้าที่ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำเช่นกัน มานด์ซูคิซ จึงถือเป็นหนึ่งในเซอร์ไพรซ์ของทัวร์นาเม้นท์นี้จริงๆ

คืนนี้ อย่าลืมนะครับ เราอาจจะได้เห็นการฮั้วกันของ สเปน กับ โครเอเชีย เพื่อขจัด อิตาลี่ ออกไปจากสารบบการลุ้นแชมป์ก็ได้


คลิกอ่านย้อนหลัง ดาวประดับยูโร 2012 (ตอน 2)
http://www.oknation.net/blog/mee104/2012/06/17/entry-1 

คลิกอ่านย้อนหลัง ดาวประดับยูโร 2012 (ตอน 3)
http://www.oknation.net/blog/mee104/2012/06/16/entry-1