ค่ำคืนนี้ที่ริโอ เป็นค่ำคืนแห่งการฉลองชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ ของทีมฟุตบอลเยอรมัน ซึ่งฟอร์มอันโดดเด่นของพวกเขามาจาก
ทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยม ซึ่งต้องยอมรับว่าเหนือกว่าทุกๆ ทีมในทัวร์นาเม้นท์นี้จริงๆ
ทีมชาติเยอรมัน สร้างประวัติศาสตร์ หลายๆ อย่างให้เกิดกับฟุตบอลโลกครั้งนี้

เยอรมัน เป็นชาติแรกจากทวีปยุโรป ที่มาผงาดคว้าแชมป์โลกในดินแดนอเมริกาใต้ได้สำเร็จ

เยอรมัน แม้จะเพิ่งติดดาวบนหน้าอกเป็นดวงที่ 4 ในค่ำคืนนี้ แต่พวกเขาก็ถล่ม ทีมเจ้าบ้านและแชมป์โลก 5 สมัยอย่างย่อยยับ
7 ประตูต่อ 1 ในรอบรองชนะเลิศ

มิโรสลาฟ โคลเซ่ กลายเป็น นักเตะที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แซงหน้า โรนัลโด้
ฮีโร่ของชาวบราซิล ไปด้วยจำนวน 16 ประตู

วินาทีประวัติศาสตร์ ที่ส่งให้ โคลเซ่ กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลก

สำหรับอาร์เจนติน่า ที่นำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี่ แม้จะไม่สามารถคว้าดาวประดับหน้าอกเพิ่มให้กับชาติบ้านเกิด
ของตัวเองได้ แต่ก็สามารถภาคภูมิในในผลงานของพวกเขาเอง ขณะที่ กัปตันเมสซี่ ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยม
หรือ Adidas Golden Ball ไปครอง ด้วยผลงานที่โดดเด่น และ 4 ประตูจากรอบแบ่งกลุ่ม

เมสซี่ Adidas Golden Ball player จับมือกับ มานูเอล นอยเออร์ Adidas Golden Glove keeper

มานูเอล นอยเออร์ นายประตูแชมป์โลก คว้ารางวัล ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม หรือ Adidas Golden Globe โดยเฉือน
โอชัว ของเม็กซิโก และ เคเลอร์ นาบาส ของ คอสตา ริก้า อีก 2 นายทวารที่ค่อนข้างโดดเด่นในทัวร์นาเม้นท์นี้
นอยเออร์ ไม่เพียงแต่ป้องกันประตูในช็อตจวนตัวได้หลายครั้ง แต่เขาได้โชว์ให้โลกเห็นถึง ความโดดเด่นในการ
ทะยานออกมาตัดบอล นอกกรอบประตู ราวกับตัวเองเป็น สวีปเปอร์ ได้อย่างต่อเนื่อง 4 ประตูที่เสียตลอด 7 เกม
ย่อมการันตีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

จังหวะพักอก แล้วกลับตัวยิงให้ โคลัมเบีย ขึ้นนำ อุรุกวัย อย่างสุดสวยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฮาเมส กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์เต็มตัวแล้ว

ดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นท์ ได้แก่ ฮาเมส โรดริเกวซ จาก โคลัมเบีย ซึ่งถือเป็นนักเตะที่ ฟอร์มโดดเด่น มากที่สุด
ในการแข่งขันครั้งนี้อีก 1 คน ฮาเมส หรือ เจมส์ ยิงได้ 6 ประตู แถมส่งให้เพื่อนทำได้ 2 ประตู จาก 399 นาทีที่ได้ลงเล่น
เขาเป็นคนที่พาทีมชาติโคลัมเบีย ไปได้ไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างแท้จริง ทั้งที่ไม่มี ดาวซัลโวประจำทีมอย่าง
ราดาเมล ฟัลเกา ร่วมทัพมาด้วย
ในความเห็นของผม ฮาเมส ควรจะได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมควบอีกตำแหน่ง แต่เป็นเพราะฟีฟ่า กำหนดให้
นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม ต้องเกิดหลังจาก 1 มกราคม 1993 เป็นต้นไป ฮาเมส ซึ่งเกิด 12 ก.ค. 1991 จึงหมดสิทธิ์
ไปโดยปริยาย

โคลัมเบีย ของ ฮาเมส โรดริเกวซ ยังได้เป็นทีม Fair Play ประจำการแข่งขันครั้งนี้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ค่อนข้างจะเหนือกว่า
คู่แข่งตลอด 5 เกมที่ลงเล่น จึงเสียใบเหลืองไปเพียง 5 ใบ แต่ต้องตกรอบด้วยน้ำมือเจ้าภาพ จากลูกตั้งเตะ 2 จังหวะ
โคลัมเบีย ดูจะขาดแคลนโชคเสียจริงๆ

พอล ป๊อกบ้า คว้าแชมป์ U-20 ที่ประเทศตุรกี เมื่อปีที่แล้ว พร้อมควบรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยม Adidas Golden Ball

รางวัลสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม เมื่อไม่มี ฮาเมส โรดริเกวซ เป็นกว้างขวางคอสักคน
พอล ป๊อกบ้า จึงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นมากสำหรับรางวัลนี้
พอล ป๊อกบา เป็นกัปตัน พาทีมชาติฝรั่งเศสชุด U-20 คว้าแชมป์โลกเมื่อปีที่แล้ว พร้อมกับคว้ารางวัล Golden Ball Award
เขายังโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นต่อเนื่องกับการเล่นให้ ยูเวนตุส ในอิตาลี่ เขาโชว์ฟอร์มได้ดีและเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมตราไก่
ช่วยให้ทีมตราไก่ สร้างโอกาสในการเข้าทำประตูได้หลากหลาย ทำได้ 1 ประตูในเกมกับไนจีเรีย และเป็น man of the match
ในเกมนั้น นี่คือ อีก 1 ดาวรุ่งที่จะกลายเป็น ซูปเปอร์สตาร์ ในอนาคตของโลกลูกหนังใบนี้

แม้ผมจะเชื่อมั่นมาตลอดจนถึงวันสุดท้ายของการแข่งขันว่า ทีมจากยุโรป จะไม่มีทางมาคว้าแชมป์โลกในทวีปอเมริกาใต้ได้
แต่สุดท้าย ทีมชาติเยอรมัน ก็ทำมันสำเร็จ และทำให้ ชาติยุโรป คว้าแชมป์โลกได้ 11 ครั้ง ทิ้งชาติจากอเมริกาใต้ ไป 2 ครั้ง
แล้ว
ถ้าจะถามว่าด้วยเหตุผลใด ผมคงต้องตอบว่า ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ทำให้ ชาติยุโรป ที่เจริญ และพัฒนาได้ดีและเร็วกว่า
ทิ้งห่างชาติจากอเมริกาใต้ ในเชิงฟุตบอลไปหลายขุมแล้วจริงๆ

Congratulations! Deutschland ist Weltmeister!