เวลาขึ้นรถเมล์ เรามักจะได้สัมผัสกับสิ่งที่เราคาดการณ์ล่วงหน้าไม่ออกหลายอย่าง โดยเฉพาะสีสัน ความมีชีวิตชีวาของผู้คนและเรื่องราวผ่านสองรายทาง ดังนั้น ยามเช้าที่ต้องเดินไปขึ้นรถเมล์ ก็มักจะทำให้ผมได้ตื่นตัวด้วยความสนุกนึก ก่อนลุกขึ้นเตรียมตัวเดินทางไปทำงาน ก็ไม่ลืมที่จะทำกิจกรรมที่ขอทำเป็นเพื่อนกัน ๒๕ วันของชาวโอเคเนชั่นที่ตอบรับการชวนเชิญของคุณ พร สิงห์มือซ้าย คือ ขึ้นรถเมล์และทำสมาธิทุกวัน การทำสมาธิก่อนไปขึ้นรถเมล์ หากไม่ใช้วิธีนั่ง ผมก็จะใช้การนอนแผ่ กำหนดสติและฐานอารมณ์ไปกับการหายใจเข้าออกใช้เวลาประมาณ ๑๐-๓๐ นาที หลายครั้งทีเดียว ที่การอยู่กับอริยาบทที่ตนเองกำลังทำเหล่านี้ ก็สามารถขยายไปสู่กิจกรรมอื่นๆอีก นับแต่การทำไประหว่างการเดินออกจากหมู่บ้าน ลัดเลาะไปตามถนนและข้ามสะพานลอยไปอีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อรอขึ้นรถเมล์ไปทำงาน รวมแล้วเกือบสองกิโลเมตร ไปจนถึงระหว่างทำงาน กระทั่งหลังเลิกงานกลับบ้าน ก็ได้นั่งหรือนอนทำสมาธิทบทวนตนเองเป็นรายวันก่อนนอน การนำเอาการขึ้นรถเมล์และทำสมาธิทุกวัน มาเป็นวิธีพิจารณาใคร่ครวญตนเองตามภารกิจสะดุดรักเพื่อเป็นเพื่อนกัน ๒๕ วันกับทุกท่านครั้งนี้ จึงทำให้ผมก็ได้อยู่กับตนเองมากขึ้น อีกทั้งเป็นโอกาสหนึ่งที่ทำให้ได้ซาบซึ้งและเห็นโลกรอบข้างในรายละเอียดหลายอย่าง มากกว่าที่เคยเป็น ผมขอนำมาเล่าแบ่งปันกัน ๗-๘ วันต่อหนึ่งครั้ง ในรอบ ๒๕ วันก็คงจะได้สักสามรอบ เหมือนกับการนำมารายงานเป็นรายสัปดาห์ ครั้งแรก ตอน : รถเมล์เพื่อชีวิต นำมาเล่าไว้ที่นี่แล้วครับ http://www.oknation.net/blog/moy/2009/05/05/entry-1 ครั้งนี้เป็นรอบ ๘ วันที่สอง ตอน : รถเมล์...พื้นที่เรียนรู้สังคมและพัฒนาความรักต่อส่วนรวม เมื่อ ๔-๕ ปีก่อน ผมเคยทำเวิร์คช็อประดมสมองให้คนทำงานรถเมล์จำนวนหนึ่งขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก ซึ่งก็ประกอบด้วยพนักงานขับรถ กระเป๋า นายตรวจ นายท่า และกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งรถเมล์และรถปรับอากาศ ในการพัฒนาคุณภาพการบริการและการทำงานให้มีความสุข สุขภาพและคุณภาพชีวิตดีตามอัตภาพ ผมจึงมีลูกศิษย์และเครือข่ายเรียนรู้ที่เป็นชาวรถเมล์ ขสมก อยู่หลายร้อยคนเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมาจากชนบท ผมจึงมีความสุขและภูมิใจมากที่ครั้งหนึ่งได้ร่วมมือกับกลุ่มคนชั้นแรงงานและกรรมาชีพ พัฒนาตนเองเพื่อดูแลบริการส่วนรวมให้แก่สังคม ประทับใจและยังจำได้ว่า ผู้ประสานงานระดับหัวหน้าคนหนึ่ง เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เหมือนผม อีกทั้งเป็นนักก๊ฬาเต้นรำลีลาศระดับชาติ และเคยเป็นครูสอนลีลาศให้กับชมรมลีลาศของมหาวิทยาลัยมหิดล บางอารมณ์ระหว่างเดินทางด้วยรถเมล์ จึงทำให้มีบรรยากาศได้รำลึกถึงสิ่งดีงามของผู้คน ที่ทำงานและทุ่มเทชีวิตอยู่เบื้องหลังความสุขและความสะดวกสบายของผู้อื่น รถเมล์เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์พัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะเมืองหลวงและสังคมเมือง ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อปี ๒๔๒๘ (๑) ในสมัยรัชกาลที่ ๕ (๒) โดยเริ่มจากเป็นรถลากเทียมม้า แต่ต่อมาอีกสองปี ก็มีการนำเอารถรางมาใช้ รถเมล์แบบเทียมม้าจึงเป็นอันต้องล้มเลิกกิจการไป กระทั่งในปี ๒๔๕๐ หรืออีก ๒๒ ปีต่อมา นายเลิศ เศรษฐบุตร หรือ พระยาภักดีนรเศรษฐ ก็รื้อฟื้นรถเมล์ประจำทางสาธารณะขึ้นมาอีก ทว่า ยังคงใช้รถลากเทียมม้า จนถึงปี ๒๔๕๖ จึงเริ่มนำเข้ารถยนต์มาทำเป็นรถเมล์แทนรถลากเทียมม้า ซึ่งเป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จอย่างสูง ต้องเพิ่มเส้นทางและขยายกิจการ จนถือเป็นต้นแบบกิจการรถเมล์ในประเทศไทย ซึ่งมักเรียกกันว่า รถเมล์ขาวนายเลิศ เพราะทา ตัวรถสีขาว และมี ตราสีแดง เป็นรูปกากบาทในวงกลม เมื่อแรกเข้ากรุงเทพฯนั้น ผมเองก็ยังทันได้เห็นอยู่ ต่อมาก็มีผู้ทำกิจการรถเมล์มากมาย จึงในปี ๒๕๑๘ รัฐบาลในยุค มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็เลยให้รวมกิจการเป็น บริษัทมหานครขนส่ง จำกัด ดำเนินการเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจซึ่งถือหุ้นร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับเอกชน และต่อมาในยุครัฐบาลของ มรว.เสนีย์ ปราโมช ก็ได้ออกพระราชกฤษฎีกากำกับดูแลองค์กรสาธารณูปโภค ให้บริษัทมหานครขนส่งจำกัดและกิจการรถโดยสารสาธารณะทั้งของรัฐวิสาหกิจและเอกชนทั้งหมด รวมกันเป็นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก สังกัดกระทรวงคมนาคม ล่วงมา ๕ รัชกาลถึงปี ๒๕๕๒ ในแผ่นดินรัชกาลที่ ๙ ในปัจจุบันแล้วนี้ รถเมล์จึงก่อเกิดในประเทศไทยได้ ๑๒๔ ปีแล้วครับ อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของ ขสมก ก็มักเป็นประเด็นเชิงนโยบายการเมืองและการบริหารระหว่างแนวคิดที่จะให้ ขสมก อยู่ในความดูแลของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลดี หรือ กทม ซึ่งเป็นองค์กรบริหารท้องถิ่นแบบพิเศษดี มาโดยตลอด กระทั่งปัจจุบัน ในช่วงที่เริ่มเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ กลุ่มพนักงานได้รวมตัวและจัดตั้งเป็นสหภาพ ซึ่งในอดีตนั้น จัดว่าเป็นสภาพแรงงาน ที่มีบทบาทนำการเคลื่อนไหว และมีอิทธิพลต่อรัฐบาลมากที่สุดองค์กรหนึ่ง ตามป้ายรถเมล์ ให้ความเป็นชีวิตจิตใจเหมือนกับเป็นนาฎการแห่งชีวิตในสังคมเมือง ที่ฉากและสภาพแวดล้อมจะอยู่กับที่ ทว่า ผู้คนและเรื่องราวจะหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านผสมผสาน บ้างเป็นกลุ่มคนที่มีวงจรแน่นอน บ้างเป็นเพียงคนสัญจรผ่านทาง ปัจจุบัน ป้ายรถเมล์ถือเป็นแหล่งสาธารณะและที่ชุมนุมชนที่คุ้มครองสุขภาพของคนไม่สูบบุหรี่ ใครสูบบุหรี่จะมีกฏหมายปรับเป็นเงิน ๒,๐๐๐ บาท บางแห่งเท่านั้นจึงจะมีการจัดบริเวณเฉพาะให้แก่คนยืนสูบบุหรี่ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ตามป้ายรถเมล์นั้น โดยมากมักเป็นการสูบรอรถเมล์และคาดหมายเวลาที่แน่นอนไม่ได้ ก้นบุหรี่ตามป้ายรถเมล์จึงมักแตกต่างจากที่อื่นๆ คือ มักเหลือยาว และมีไม่น้อยที่เกือบเต็มมวนเหมือนกับเพิ่งจุดและยังไม่ได้สูบ เพราะพอจุดบุหรี่ยังไม่ทันได้สูบรถเมล์ก็มาพอดี อีกทั้งมักเป็นก้นบุหรี่ที่ผู้สูบมักจิ้มปลายบุหรี่ดับในทรายอย่างเรียบร้อย ผมเคยสนทนากับคนขับแท๊กซี่รายหนึ่ง เขาเล่าให้ผมฟังว่า ตอนเย็นหรือกลางคืนหลังขับรถแท๊กซี่และก่อนกลับบ้าน เขามักถือโอกาสไปเดินเก็บรวบรวมก้นบุหรี่ตามป้ายรถเมล์ ทั้งเพื่อนำไปสูบเองและเก็บไปฝากญาติพี่น้องพรรคพวกเพื่อนฝูงที่บ้านนอกในชนบท ทั้งนี้ ก็เนื่องจากก้นบุหรี่ตามป้ายรถเมล์จะเหลือยาวนั่นเอง เมื่อเก็บไปและจะนำกลับมาสูบอีก เขาก็จะแกะก้นกรองและกระดาษมวนบุหรี่ออก หลังจากรวบรวมยาเส้นของบุหรี่ก้นกรองได้เป็นจำนวนมากแล้ว ก็จะแบ่งปันให้กับพรรคพวกเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง ให้ได้สูบยาแกแร็ตแทนยาเส้นราคาถูกที่ใครๆก็มีสูบ จึงจัดว่าเป็นของฝากติดมือชั้นดีของเขาจากกรุงเทพฯเมื่อกลับไปเยี่ยมเยือนบ้านนอกเลยทีเดียว อันที่จริง ด้านหนึ่ง ผมมีหน้าที่วิจัยและให้การเรียนรู้แก่สังคมเรื่องการปฏิบัติเพื่อสุขภาพด้วย ซึ่งรวมถึงเรื่องการสูบบุหรี่และบริโภคยาสูบ แต่เมื่อได้ฟังดังนี้แล้ว ผมไม่บังอาจแสดงความรู้และอวดวาทะเรื่องโทษภัยของบุหรี่แทรกขึ้นมาระหว่างการพูดคุยกันเลยสักแอะ เพราะมันดูเป็นการให้ความรู้แบบลดทอนการเห็นปัญหาและดูจะปัญญาอ่อนต่อเรื่องสังคม สิ่งแวดล้อม ที่กำหนดสุขภาพจากวิถีชีวิตของคนจน จนเกินไป การได้เห็นผู้คนขึ้นและลงรถเมล์ ก็ทำให้ผมได้สัมผัสชีวิตสังคมเหมือนกำลังอ่านความเป็นจริงทางสังคมเล่มใหญ่ หากเป็นตอนเช้าตรู่ ก็มักได้เห็นแม่ค้าพ่อค้าหาบคอนของไปขาย ได้เห็นทั้งความทุลักทุเลของผู้ทำมาหากินอย่างปากกัดตีนถึบ ได้เห็นความเอื้ออาทร ถ้อยทีถ้อยอาศัยของพนักงานรถเมล์และผู้โดยสารกับคนทำมาหากินที่ขึ้นและลงรถด้วยความยากลำบาก บางวัน ก็ได้เห็นป้าผู้สูงอายุซึ่งมีคนบอกว่าแกอายุมากกว่า ๗๐ ปีแล้ว ไปซื้อของที่ตลาดไกลออกไป ๕-๖ กิโลเมตร แล้วก็หาบคอนพะลุงพลังคนเดียวกลับไปขายในหมู่บ้าน บางวันเห็นหญิงสูงวัย เดินกะเผลก มือหนึ่งเกาะราวสะพานลอยและอีกมือหนึ่งก็หอบหิ้วของที่ซื้อมาทำของขายถุงใหญ่ จนคิดย้ำกับตนเองและอยากบอกกับคนเดินถนนด้วยกันว่า เวลาเห็นชาวบ้านร้านตลาดทำของขายตามหมู่บ้านหรือข้างถนนนั้น กินไปเถอะครับ มันคงจะไม่สะอาดและคุณภาพไม่ดีสำหรับเราเท่าไหร่ แต่กินเพื่ออยู่ด้วยกัน กินเพื่อเป็นพลังจุนเจือและขับเคลื่อนกิจกรรมชีวิต ให้คนอีกจำนวนหนึ่งพอดิ้นรนและอยู่รอดในสังคมไปด้วยกันได้ อยากให้ลูกหลานได้เรียนรู้สังคมและพัฒนาความรักส่วนรวม หรืออยากได้พลังและความบันดาลใจเพื่อการดำเนินชีวิตให้แก่ตนเองแล้วละก็ ต้องหาโอกาสขึ้นรถเมล์ครับ. ------------------------ (๑) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%A8 เมื่อ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๒ และ http://webboard.mthai.com/5/2008-01-28/366853.html เมื่อ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๒) (๒) ปี ๒๔๒๘ ร่วมสมัยกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของสังคมไทยและของสังคมโลกหลายเหตุการณ์ คือ (จาก http://guru.sanook.com/history/year/%E0%B8%9E.%E0%B8%A8.2428/ เมื่อ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๒)
........................................................................................................................................................... การเห็นแนวโน้มสังคมในเรื่องเดียวกับเรา : ด้านขวาของท่านผู้อ่าน ท่านจะเห็นกล่องโหวต หากท่านพอมีเวลา ก็เชิญคลิ๊กโหวตเลยนะครับ ในรอบ ๑ ชั่วโมง ท่านสามารถแสดงความเห็นได้ ๑ ครั้งครับ ผมจะพยายามพัฒนาประเด็น ที่มีแง่มุมชวนเรียนรู้ และสะท้อนพลังสร้างสรรค์ของทุกท่าน แล้วหมุนเวียนมาโยนให้ท่านลองทำให้เป็นบล๊อกโพลและการระดมความคิดของภาคพลเมือง เพื่อให้บล๊อกนี้เป็นเวทีเล็กๆ สำหรับมีส่วนร่วมสร้างสิ่งดีๆแก่สังคม ที่ทุกท่านสนใจและทำได้เอง ลองดูนะครับ เชิญครับ. |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | พฤษภาคม 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |