![]() ดอกบัวบานกลางทะเลทราย เธอเป็นสาวน้อยวัยงามราวกุหลาบสีชมพู วัยสาวของเธอช่างสะอาดและสดใส เธอเห็นดอกบัว สวยงามตา สัมผัสนุ่มนวล เธอเชื่อว่าพระเจ้าทรงสร้างมันขึ้นมา พระองค์ทรงสร้างงานที่บรรจง รูปทรงสวยงามตามวัย ทรงเรียงกลีบซ้อนสานอันวิจิตรและเหมาะเจาะ จากวัยเด็กที่น่าถนุถนอมแล้วแย้มบานร่วงโรยเหี่ยวเฉาไป ตามกฏเกณฑ์ที่พระเจ้าทรงวางไว้ มันมีเรื่องราวที่พระองค์ทรงประทานความรู้ แก่บ่าวของพระองค์ ให้รำลึกถึงรู้จักพระองค์ ด้วยการนำทาง ทางปัญญา และเธอจะรำลึกถึงพระองค์เสมอ ในธรรมชาติที่รายล้อมตัวเธอ ที่บอกเล่าเรื่องราวการมีอยู่ของพระองค์
ผู้สร้างอันทรงวิทยปัญญา เธอท่องจำคัมภีร์อัลกุรอานได้มาตั้งแต่เธออายุสิบขวบ จากครอบครัวนักวิชาการศาสนาอันแสนจะเคร่งครัด และให้เธอคลุมฮีญาบตามที่คัมภีร์ได้บัญญัติไว้เมื่อเธอเข้าสู่วัยสาว และเธอปกป้องทุกส่วนในเรือนร่างของเธอให้มิดชิดเป็นอย่างดี ทุกดำรัสของพระเจ้าในคัมภีร์ เธอจดจำได้ ล่องลอย อยู่ในบ้านเธอ ตลอดทั้งวัน จากการนมัสการพระเจ้า
จากบทสนทนา จากคำอุทาน ฯ เธอสาบานได้ว่า ..คัมภีร์อัลกุรอานนั้นช่างใช้ภาษาที่ไพเราะยิ่ง แม้เธอจะอ่านบทกวีอาหรับมามากมาย แต่อัลกุรอานเป็นภาษาอาหรับชั้นสูงแต่โบราณ สวยงาม น่าสะพรึงกลัวแม้แต่ในน้ำหนักของภาษา ในคำสั่ง คำขู่คำปลอบ ของพระเจ้าอันน่ามหัศจรรย์ในการใช้ภาษา จบเรื่องราวด้วยคำสัญญาใน คำพิพากษามนุษย์หลังความตายอย่างยุติธรรม ตามกฎหมายที่ตราไว้ในคัมภีร์ด้วยพระองค์เอง มันจะเป็นความยุติธรรมที่ชัดเจนจนผู้ที่ถูกตัดสิน ต้องยอมจำนนด้วยหลักฐานอันชัดแจ้ง โดยไม่มีข้อโต้แย้ง .ใช่เธอเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยลยว่า อัลกุรอานที่ศาสดามูฮัมนำมานั้น เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาโดยแท้ หัวใจเธอนั้นศิโรราบต่อพระเจ้า เธอกราบไหว้พระเจ้าของเธออย่างนอบน้อม รำลึกในบุญคุณของพระเจ้า ที่ทำให้เธอรู้จักความศรัทธา ที่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ วันนั้นเธอเดินผ่านสุสานเพื่อไปตลาด เป็นสุสานบรรดาสหายคนสำคัญของท่านศาสดา ที่เคยสร้างวีรกรรมสงครามอันห้าวหาญหลายท่าน เพื่อรักษาศาสนาอิสลามไว้ด้วยชีวิต..เมื่อพันปีที่แล้ว หลายหลุมนั้นได้ ก่อเป็นโดมแบบมัสยิดสวยงาม หลังใหญ่บ้างเล็กบ้าง มีดอกไม้เครื่องบูชาที่คนนำมาประดับประดาสักการะสวยงาม แต่ละคนต่างก็ทำพิธีกรรมบนบาน วิงวอน ขอหลายสิ่งมากมายจากหลุมศพเหล่านั้น มีคนคอยดูแลจัดการเก็บกวาดแต่ละหลุมต้อนรับคนที่มาเยี่ยมหลุมศพ นั่นหมายความว่าข้าวของเงินทองตกเป็นของพวกเขาในนามของวีรบุรุษที่นอนอยู่ในหลุม เธอเดินผ่านมาอีกซักพักเธอพบต้นไม้ใหญ่มีคนเอา เอาผ้ามห่มไว้ที่กลางต้น และผู้คนก็เอาดอกไม้สิ่งของบูชาและทำพิธีกรรมแปลกๆ ในนามของศาสนาอิสลาม พวกเขาก็วิงวอน ขอสิ่งนั้นสิ่งนี้ ต่อพระเจ้าผ่านต้นไม้ใหญ่นั้นราวกับมันจะได้ยิน เธอแปลกในที่พวกเขาเป็นคนอาหรับ และหลายคนก็อยู่ในวัยชราแล้ว พวกเขารู้ความหมายในคัมภีร์ดี ว่าสิ่งเหล่านี้ มันเป็นการตั้งภาคีต่อพระเจ้า อันเป็นบาปใหญ่ที่สุด ถึงขั้นตกศาสนา ตายไปพระเจ้าจะไม่รับเขาว่าเขาเป็นอิสลามเพราะเขามิได้นับถือพระเจ้าองค์เดียว และพวกเขาก็จะมิได้เข้าสวรรค์อีกเลย...และอยู่ในนรกตลอดกาลมันช่างเป็นบาปที่รุนแรง และพระเจ้าสัญญาว่าจะไม่ให้อภัย ไม่เหมือนบาปอื่นๆที่พวกเขายังมีหวัง พ้นจากนรกหลังจากที่เขาได้รับการตอบแทนอันทุกข์ทรมาน ชดใช้ความผิด แล้วพวกเขาก็จะได้กลับมาขึ้นสวรรค์ อันแสนสุขสบาย ซึ่งเธอไฝ่ฝันถึงเสมอ ทีจะไปที่นั่นตามที่พระเจ้าสัญญา สำหรับเธอนรกไม่ใช่สิ่งที่น่าทดลอง เพราะมันช่างโหดร้าย เกินจินตานการของเธอยิ่งนัก เธอกลัวนรกที่พระเจ้าทรงขู่ไว้ในคัมภีร์ จนรู้สึกว่า หากความตายในโลกนี้แลกกับการไม่ต้องไปชดใช้บาปในนรก แม้แต่พริบตาเดียวได้ เธอก็ยินดีที่จะเอาชีวิตเธอเข้าแลกทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด เธอเดินลัดเลาะผ่านมาถึงย่านตลาดคนพรุกพร่าน ชายหญิงเดินเกาะเกี่ยวแขนกัน มีหลายคนไม่คลุมฮีญาบ หรือบางทีก็คลุมแบบหยาบๆมิได้ตั้งใจปกปิดสำรวมตนให้เป็นไปตามบทบัญญัติ พวกเธอนั้นกำลังเพิ่มพูนบาปที่ถูกจดบันทึก
ณ.ที่พระเจ้าอย่างไม่รู้ตัว ผู้คนในตลาดที่รายล้อมเธอกำลังตื่นกับฝรั่งที่เข้ามาล่าอาณานิคมไปทั่วในดินแดนแถบนี้ พวกเขารู้ว่าพวกอัลกฤษนั้นยึดดินแดนของเราและกำลังจะทำลาย วัฒนะธรรมอิสลาม อันสวยงามของเรา แทนที่พวกเขาจะยึดมั่นอยู่ในศรัทธา เพราะอย่างน้อย ศรัทธา ก็เป็นสิ่งเดียวอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงให้เป็นของเรา โดยไม่มีนักล่าอาณานิคมคนใด
แย่งมันจากเราไปได้ แต่พวกเขากลับทำตามพวกตะวันอย่างน่าอาย.. เธอมองไปรอบๆ บางคนอาจหาญทักทายคำว่า เฮลโล แทนคำว่า อัสลามมุอาลัยกุม ที่ท่านศาสดามูฮัมหมัด ขอพระเจ้าทรงพระทานพร ได้สอนถึงวัฒนธรรมการทักทาย แบบอิสลาม ผ่านมาเพียงพันปี พวกเขากลับไม่ใส่ใจกับศาสนา แม้แต่เรื่องเล็กๆที่พวกเขาทำได้ไม่ยาก ที่พระเจ้าเตรียมที่จะบันทึกผลบุญแก่เขา
เพิ่มพูนเตรียมไว้เป็นเสบียงแก่เขาในโลกหน้า พวกเขาช่างไม่รู้คุณค่าของความเมตตาของพระเจ้าเลย..เธอคิดในใจ อย่างเป็นห่วง นี่นะหรือ....ดินแดนที่ท่านศาสดาประกาศศาสนา สู้อุตสาห์นำคัมภีร์ของพระเจ้ามาให้ทุกดำรัสอันชัดแจ้ง ผ่านมาเพียงพันปี แม้คัมภีร์อัลกุรอานพระเจ้ายังคงรักษา ทุกอักษรไว้จนถึงพวกเขาอย่างไม่มีข้อสงสัย แต่ก็ไม่มีความหมายใดในทางปฏิบัติ ทั้งๆที่พวกเขามั่นใจนักหนาว่า มาจากพระเจ้าแน่ๆ หรือวันสิ้นโลกกำลังจะใกล้เข้ามาหรือเปล่าหนอ เนื่องจากผู้คนเริ่มทิ้งศาสนาตามที่พระเจ้าขู่เอาไว้ ...ยังซิ..เธอคัดค้านตัวเอง เพราะในคัมภีร์และวัจนะของท่านศาสดากล่าวว่าสัญญาณใหญ่ จะเกิดก่อน เช่นพระอาทิตย์กลับทิศโคจร
จะขึ้นจากทิศตะวันตกไปตกทิศตะวันออก ถ้าวันนั้นมาถึงพระเจ้าจะไม่รับการกลับตัวสำนึกผิดของใครอีก มันช่างเป็นสัญญาณแห่งสัญญาที่น่ากลัวอะไรเช่นนั้น เพราะหากพระเจ้าไม่ให้อภัยแล้ว มนุษย์คงสิ้นหวังในวิถีชีวิตอันสงบเป็นแน่...โชคดีนะที่วันนั้นยังไม่มาปรากฏ หรือมันจะเป็นอุปมาอุปมัย ว่าชาวตะวันตกจะยึดครองโลกตะวันออกไปทั่ว อย่างที่เกิดอยู่ตอนนี้ก็ไม่รู้....เธอลองคิดในอีกแบบหนึ่งของการตีความ ดูซิแม้แต่แผ่นดินเกิดของท่านศาสดา และวิหารบ้านของพระเจ้า ยังตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษเลย...เธอคิดในใจในขณะที่สายตาเหลือบไปเห็น ชายหญิงวัยรุ่นสองคน หัวเราะหยอกล่อ กันอย่างน่าละอาย พวกเขาก็รู้ว่ามันบาป เพราะเขาทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน
แต่จะว่าเด็กๆก็ไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่ก็ใช่ว่าจะสนใจในศาสนา ทุกคนละเลยเรื่องศาสนา การคบชู้ผิดประเวณีทั้งชายหญิง ก็มีกันไปทั่ว และไม่มีใครใช้กฏหมายกฎหมายอิสลามที่มีในคัมภีร์จัดการ พวกเขาก็รู้ว่า พวกเขาต้องถูกเฆี่ยนร้อยที หรือต้องถูกข้วางให้ตายด้วยหินทั้งชายหญิง สำหรับผู้ที่ผ่านการแต่งงานแล้ว โทษฐานผิดประเวณีตามที่พระเจ้าบัญญัติไว้ในคัมภีร์ แต่ก็ไม่มีใครนำมาใช้ เพราะตะวันตกบอกว่าโหดร้าย ป่าเถื่อน และความรักนั้นสวยงาม แม้แต่บรรเจ้าชายเจ้าเมืองแค้วนต่างๆหลายแคว้นในทะเลทรายแห่งนี้ ก็ทำผิดกับเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น ทั้งสิ่งมินเมาและผิดประเวณี จนไม่กล้าจะใช้กฎหมายของพระเจ้าเพราะกลัวจะเข้าตัว ถ้ากฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ถูกบัญญัติไว้ในคัมภีร์พวกเขาแล้วละก็ พวกเขาก็คงจะร่วม
ประนามว่าเป็นกฏหมายอันป่าเถื่อนไปกับพวกตะวันตกไปด้วยเป็นแน่ ดูเหมือนพวกเขาอยากจะทำตัวให้เป็นแบบตะวันตกซะจริงๆทั้งๆที่พวกนั้น กดขี่ดูถูกเราทั้งชาติพันธุ์ความเชื่อศาสนาของเรา อย่างน่าโมโห คงจริงอย่างที่ อิบนุล ค็อลดูน ปราชญ์ด้านประวัติศาสตร์ของอิสลามที่เธอเคยอ่านเจอ ในตำรับตำราที่บ้านเธอที่กล่าวว่าผู้แพ้นั้นมักชอบทำตามผู้ชนะเสมอ เธอจ่ายเงินและซื้อเครื่องประดับบางชิ้น เป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอมาตลาด ..ทันใดนั้นเธอนึกว่าเธอมานานแล้ว เธออยากกลับบ้านไปให้ทันเวลานมัสการพระเจ้าตามเวลายามเย็น เธอหันออกจากร้านเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน..เธอก็ชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง หน้าอกเธอชนเข้ากับสวนลิ้มปี่ของเขา หน้าผากเธอโขกเข้ากับจมูกของเขา แม้เธอจะคลุมศรีษะและแต่งตัวมิดชิด แต่การชนที่ไม่แรงนักนั้น ทำให้เขาและเธอหยุดนิ่ง ..ความรู้สึกแบบชายหญิงเข้ามาแทรก เขาและเธอถอยห่างจากกัน เขามองหน้าเธอและยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ในตากลมโตและฟันที่เรียงกันเป็นระเบียบนั้น ผ่านเข้าประตูหัวใจของเธอ ไม่เคยมีชายใดที่เคยแนบชิดตัวเธอมาก่อน เธอหวั่นไหวกับความรู้สึกนี้ เขาขอโทษเธอ และพยายามจะเข้ามาใกล้เธอเพื่อถามไถ่ว่าเป็นอะไรไม๊ ดูเขาช่างคล่องแคล่วและสุภาพ ในแบบที่คนตะวันตกเขาทำกัน แต่เธอถอยห่างเขา เพราะไม่ถูกต้องที่ชายหญิงจะใกล้กัน เธอยกมือห้ามเขาเข้ามาใกล้ ส่ายหน้าเพื่อบอกเขาว่าเธอไม่เป็นไร และเธอได้กล่าว คำสำนึกผิดต่อพระเจ้า ให้อภัยเธอ ก่อนจะเดินแยกจากเขา |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
อันดามัน7 | ||
![]() |
||
ท่องเที่ยวอันดามัน2550 |
||
View All ![]() |
<< | มกราคม 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |