คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เปิดเผยถึงโครงการพัฒนาสถานที่ประสูติของพระพุทธเข้าที่ประเทศเนปาล ซึ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเนปาลและคณะกรรมการมรดกโลกมาแล้วว่า ตนมีโอกาสได้ไปประเทศเนปาลโดยที่ไม่รู้ว่าสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้านั้นอยู่ในประเทศเนปาล แต่เมื่อได้ไปไหว้ก็เกิดความปิติ เพราะตนไม่ได้เป็นคนเข้าวัดเข้าวาอะไร แต่มันร็สึกอิ่มมันรู้สึกเต็ม แต่รู้สึกเอะใจว่าสถานที่นี้ไม่ได้รับการพัฒนา ตรงสถานที่ประสูติก็มีเสากั้นไว้ ซึ่งตนได้ถามพระถึงสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เพราะวัดที่อยู่บ้านนอกของประเทศเรายังดูดีกว่าเสียอีก โดยพระท่านบอกว่ามันลำบาก เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวนั้นเป็นมรดกโลก ดังนั้นการจะขอทำอะไรจึงยาก ที่ผ่านมารัฐมนตรีของเขาขอพัฒนาพื้นที่ก็ยังไม่ได้ แต่ท่านได้บอกกับตนว่า ถ้าอยากทำจริงๆให้ลองตั้งจิตอธิฐานดู ตนก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า อยากทำเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นเมื่อเดินทางกลับมาตนก็เร่งดำเนินการขออนุญาตเพื่อเข้าไปพัฒนา และก็ได้รับการติดต่อกลับมาว่าสนใจที่จะให้เราทำ ตนจึงได้ขอความเห็นจากอาจารย์คณะสถาปัตย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้ช่วยดำเนินการออกแบบให้ “ พระผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ดีใจ เพราะเขาขอมาตั้งหลายปีแล้วก็ยังไม่มีโอกาสได้ทำ ซึ่งถือว่าเป็นพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทำให้พี่ได้มีโอกาสได้ทำถวาย เพราะได้นั่งสมาธิตั้งจิตตรงนี้ ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับตัวโมเดลเดิมนั้นไม่มีอะไรเลย แต่สิ่งที่เราจะทำเช่น จุดที่เป็นสถานที่สรงน้ำ หรือจุดที่เป็นสถานที่ประสูตินั้นจะมีป้ายบอกรายละเอียด นอกจากนี้ยังจะมีการทำพื้นที่ลานกว้างซึ่งจะจุคนได้ประมาณ 200 คนสำหรับนั่งสมาธิ และทำลานกว้างขนาดใหญ่บริเวณต้นศรีมหาโพธิ์ จุคนได้ประมาณ 500 คน รวมทั้งจะทำห้องน้ำ ศาลาพักสำหรับผู้ที่ไปแสวงบุญ และทางเดินทั้งหมดด้วยบนพื้นที่ 6,000 ไร่ โดยขณะนี้ตนได้รับใบอนุญาตแล้ว แต่จะแถลงข่าวในวันที่ 20 มกราคม 2554 ที่วัดสระเกศ ทั้งนี้สมเด็จเกี่ยวทรงเป็นประธานที่ปรึกษาฝ่ายสงฆ์ และนายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประธานที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาส จึงอยากจะเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันสร้างมหากุศลเพื่อเป็นพลังไม่ไห้เกิดความแตกแยก อย่างไรก็ตาม งานนี้คนที่ไม่มีโอกาสที่จะได้ไปประเทศเนปาลก็อยากให้ได้ไปด้วย คือจะทำบุญด้วยเงิน 5 บาทก็ได้หรือจะทำกี่บาทก็ได้ แต่ขอให้ร่วมกันทำบุญ