สีสัน 'ประชาธิปไตย' ต้องสู้กันด้วย 'ความรัก' มิใช่ 'ความเกลียดชัง' เหตุคนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องรวม ๘ จุดใน ๔ อำเภอของจังหวัดนราธิวาส โดยมีธนาคารตกเป็นเป้าถึง ๖ แห่ง ผ่านพ้นไปอย่างเงียบๆ และจนถึงขณะนี้ชาวนราธิวาส หรือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจหลงลืมไปแล้วด้วยซ้ำ และมีบ้างที่มองเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเสียแล้ว ทั้งนี้เพราะช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ได้เกิดเหตุระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ชายแดนใต้ หรือใจกลางเมืองหลวง ซึ่งก่อนหน้าได้เกิดเหตุวางระเบิดธนาคารรวม ๕ จุด ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยพุ่งเป้าไปที่ธนาคารกรุงเทพฯ และสถาบันการเงินอื่นๆ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัว รวมกว่า ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้บ้างตั้งสมมติฐานว่า เหตุระเบิดเป็นเพราะผลต่อเนื่องจากประเด็นเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที ๒๐๐ ซึ่งการทดสอบที่ดำเนินการโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบุชัดเจนว่า 'ไร้ประสิทธิภาพ' จนก่อแรงสะเทือนต่อกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ และส่งผลถึงความไม่มั่นใจของประชาชนในพื้นที่ บ้างก็ว่าเป็นผลพวงจากเกมการเมือง ซึ่งว่าไปแล้วในพื้นที่ชายแดนใต้เองไม่ค่อยปรากฏกลุ่มเสื้อเหลือง-เสื้อแดง อย่างเด่นชัด เพราะต่างต้องเผชิญชะตากรรมในพื้นที่มากกว่า แต่กลับมีการตั้งข้อสังเกต ถึงความเกี่ยวพันของการก่อเหตุสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ที่พุ่งเป้าไปสู่ภาพกว้างระดับประเทศ ถึงขนาด ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า แม้นเจ้าหน้าที่พยายามทำงานอย่างเต็มที่แล้ว แต่ผู้ก่อความไม่สงบยังฉวยโอกาสก่อเหตุ โดยมีเจตนาให้เป็นข่าวใหญ่มากกว่ามุ่งทำให้คนบาดเจ็บและเสียชีวิต และเจตนาของผู้ก่อเหตุคือการมุ่ง 'ดิสเครดิต' รัฐบาล เพราะในเมื่อกรุงเทพฯ มีเรื่อง 'การเมือง' ภาคใต้ก็อาจจะมีเรื่อง 'การเมือง' เกิดขึ้นได้ !! ขณะที่ พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค ๔ ส่วนหน้า เปิดเผยว่าเหตุระเบิดใน จ.นราธิวาส เป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มุ่งทำลายระบบการเงินการธนาคารพร้อมกันหลายจุด โดยหวังให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง ๓ วัน เมื่อเปิดทำการวันแรกจะมีประชาชนใช้บริการที่ธนาคารจำนวนมาก และเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ป่วนเมืองในกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด ประกอบกับในห้วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานเชิงรุกมากขึ้น โดยการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ และเกิดการปะทะกับผู้ก่อเหตุหลายครั้ง ทำให้ผู้ก่อเหตุระเบิดระดับแกนนำปฏิบัติการเสียชีวิต จึงอาจเป็นไปได้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามก่อเหตุระเบิดเพื่อหวังแก้แค้น พร้อมกับแสดงศักยภาพของกลุ่มตน แม้ว่าแกนนำคนสำคัญจะได้เสียชีวิตไปแล้วก็ตาม เงื่อนปมหนึ่งที่น่าสนใจคือ การที่ โฆษก กอ.รมน.ภาค ๔ ส่วนหน้า ตั้งสังเกตว่า นับแต่วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ภายหลังคณะรัฐมนตรีรับทราบผลการทดสอบเครื่องตรวจมวลสารระยะไกล (จีที ๒๐๐) ได้มีการก่อเหตุระเบิดมาแล้ว ๒๗ ครั้ง เฉลี่ยวันละประมาณเกือบ ๒ ครั้ง แยกเป็นเหตุระเบิด ๑๗ ครั้ง และสามารถเก็บกู้ทำลายได้ ๑๐ ครั้ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น ๔๘ ราย แยกเป็นทหาร ๒๕ นาย ตำรวจ ๓ นาย และประชาชนทั่วไป ๒๐ ราย 'ศรัทธา' และ 'การกระทำ' ที่มั่นคง ไม่ว่าจะในหลักศาสนาใด จึ่งจะนำมาซึ่ง 'รักแท้' มิใช่เพียง 'พูดพร่ำเพ้อ' เป็น 'วลี' ในมวลอากาศ มี 'มืด' และ 'สว่าง' ทั้งทางโลกและ 'ทางธรรม' สิ่งที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ ทำให้ผู้คนพาลสงสัยว่า บ้านนี้เมืองนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นถึงได้มีการวางระเบิดถึงใจกลางเมืองได้เป็นว่าเล่น มีการก่อ 'อาชญากรรม' โดยใช้ 'อาวุธสงคราม' และ 'ระเบิด' แทบไม่เว้นแต่ละวัน ว่ากันเฉพาะในพื้นที่ชายแดนใต้ จากพฤติกรรมและวิธีการวางระเบิดครั้งนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมถึงได้กระทำการง่ายดายเช่นนี้ ถึงขั้นคนร้ายสามารถประกอบระเบิดใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หรือกระป๋องเครื่องดื่มน้ำอัดลม แล้วจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่รัฐตรวจตราแทบทุกจุด ทุกเส้นทางสำคัญ ส่วนในเมืองก็มีกองกำลังชาวบ้านที่ช่วยสังเกตการณ์สิ่งผิดปกติให้เจ้าหน้าที่อีกแรงหนึ่ง นั่นทำให้ช่วยไม่ได้ ที่จะมีการย้อนกลับมาตั้งข้อสังเกตโดยพิเคราะห์ไปที่เรื่อง "โครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด" หรือ 'ซีซีทีวี' ในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับอนุมัติงบประมาณตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ (ปี ๒๕๔๙-๒๕๕๐) แต่กลับไม่มีความคืบหน้า จนกระทรวงมหาดไทยต้องบอกเลิกสัญญา และเป็นข่าวครึกโครมอยู่ระยะหนึ่งแล้วเงียบหายไปอีกครั้ง 'ลั่นทม' (ลีลาวดี) หน้าทำเนียบรัฐบาล บานดอกเพื่อแต้มโลกให้สวยงาม ไม่ใช่เพื่อให้ผู้คน 'ทุกข์ระทม' (รอยร้าววดี) กระทั่งเมื่อเกิดเหตุระเบิดใจกลางเมืองนราธิวาสอีกคำรบแล้ว ให้หลังเพียง ๑ วัน ขวัญชัย วงศ์นิติกร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ จึงได้เผยแพร่เอกสารแถลงความคืบหน้าการดำเนินงาน ระบุว่า เดิมที่กระทรวงมหาดไทยได้ทำสัญญาจัดซื้อพร้อมติดตั้งกล้องกับ บริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด แต่บริษัทไม่สามารถดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามกำหนดในสัญญา เมื่อครบกำหนดส่งมอบอุปกรณ์ตามสัญญาในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ก็ไม่สามารถส่งมอบได้ ทางราชการจึงได้เร่งรัดดำเนินงาน จนสามารถส่งมอบอุปกรณ์ได้ในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๒ แต่เป็นการส่งมอบเฉพาะที่ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งไม่ถูกต้องตามงวดงาน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ขอให้แก้ไขการดำเนินการให้ถูกต้อง แต่บริษัทกลับมีหนังสือบอกเลิกสัญญาในวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ต่อมา คณะกรรมการพิจารณาบอกเลิกสัญญาโครงการของกระทรวง ได้พิจารณาและมีความเห็นว่าบริษัทไม่อาจบอกเลิกสัญญาได้ จึงมีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท.๐๒๐๓.๔/๑๕๔๘๖ ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๒ บอกเลิกสัญญาจัดซื้อต่อ บริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด พร้อมเรียกค่าเสียหายอันอาจเกิดขึ้นในภายหลัง รวมทั้งมีหนังสือแจ้งการริบหลักประกันสัญญา และเรียกคืนเงินล่วงหน้าจากธนาคาร โดยขณะนี้เงินที่เรียกคืนได้แล้ว ประกอบด้วยเงินประกันสัญญา ๔๘ ล้านบาท และค่าจ้างล่วงหน้า ๑๔๕ ล้านบาท และสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เห็นชอบให้จัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๒ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาอนุมัติงบประมาณจากสำนักงบประมาณ ซึ่งก็ให้บังเอิญได้ข่าวแว่วๆ จากคนที่ได้ติดตามเรื่องนี้ว่า บริษัทผู้รับจ้างรายใหม่ที่เข้ามาดำเนินโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปเกี่ยวพันโยงใยกับเครือข่ายนักการเมืองอีก 'เรืออับปาง' เพียงภาวนามิให้ 'ประเทศ' ต้องอับปางเช่นลำเรือ ด้วยผลพวงจาก ระเบิด กลาง (การ) เมือง ในระยะนี้ จึงล้วนสะท้อนปมปัญหาบางอย่างที่เริ่มส่งแรงปะทุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อกันว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้นไปตามสภาวการณ์และแรงกดดันที่แปรเปลี่ยนแทบจะนาทีต่อนาที ทั้งในพื้นที่ชายแดนใต้+ใจกลางเมืองหลวง เพียงขอให้ทุกฝ่ายได้โปรดจับตามอง และติดตามอย่างใกล้ชิด !! ไทยทุกคนสำนึกใน 'ความนี้' แต่จักมีสักกี่การกระทำที่สอดคล้องกับ 'นัยสำคัญ' นี้ คอลัมน์ : เกาะติดวิกฤติไฟใต้ (ฉบับทุกวันศุกร์) นสพ. : สยามรัฐรายวัน http://www.siamrath.co.th/UIFont/ArticleDetail.aspx?acid=5303 |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
แสงและเงาที่พรุโต๊ะแดง นราธิวาส | ||
![]() |
||
เพริศไปตามจินตนาการแห่งแสงสีของป่าพรุ |
||
View All ![]() |
เหมือนสายลม | ||
![]() |
||
บทเพลงประกอบหนังสือจิตวิญญาณระหว่างขุนเขา บูโด-สันกาลาคีรี โดยชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ |
||
View All ![]() |
<< | มีนาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |