ลุงๆ ไปพายเรือให้ในหลวงต๊ะ (๑) พระองค์ท่านจะเสด็จลงเรือชมบึงบากง ผู้ใหญ่สุดใจ แสงมณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๖ บ้านบากง ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เดินทางมาเรียกนายนุช อนันตรานนท์ ขณะกำลังก่อสร้างบ้านอยู่ใกล้กับแยกทางหลวงสายรือเสาะ-ศรีสาคร ซึ่งจากจุดแยกนี้เข้าไปเพียงประมาณ ๒๐๐ เมตร ก็จะถึงบริเวณของหนองบัวบากง นายนุช อนันตรานนท์ ราษฎรบ้านบากง ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ละจากงานหันมามองหน้าผู้พูดด้วยไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่ใจพูดจริงหรือไม่ หรือว่าตัวเองหูฝาดไปเอง จึงถามผู้ใหญ่ใจเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ผู้ใหญ่ใจจึงกล่าวซ้ำ ไปพายเรือให้ในหลวงประทับ พระองค์ท่านต้องการชมบรรยากาศในบึง ให้คนอื่นพายเดี๋ยวพายกันเขลอะๆ (๒) เรือล่มแล้วจะแย่กันไปหมด หลังจากใช้เวลาสนทนาสอบถามรายละเอียดต่างๆ จนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว นายนุช มองหน้าผู้ใหญ่ใจอีกครั้ง ละมือจากงานทั้งหมด พร้อมกับค่อยๆ ยืนขึ้นแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่สดใสไร้เมฆหมอก แล้วขยับเสื้อผ้าให้เรียบร้อย พร้อมกับเริ่มเดินออกไปข้างหน้าด้วยใจมุ่งมั่น... เป็นที่รับทราบกันว่าในบรรดาชาวบ้านในบ้านบากงนั้น ฝีมือการพายเรือไม่ว่าจะเป็นเรือประเภทใด คงไม่มีใครจะพายได้ชำนาญเท่านายนุช เพราะตลอดชีวิตล้วนผูกพันกับสายน้ำอย่างแนบแน่น โดยเฉพาะพื้นที่กว่า ๑๕๐ ไร่ในหนองน้ำธรรมชาติรูปวงรีที่มีน้ำขังตลอดปี และชาวบ้านเรียกกันแต่โบร่ำโบราณมาว่า พรุบากง เพราะพื้นที่มีลักษณะเหมือนที่พรุโต๊ะแดง ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น หนองบัวบากง ในภายหลัง เป็นพื้นที่ที่นายนุชผูกพันมาตั้งแต่สมัยเยาว์วัยเป็นวัยรุ่นกระทง ออกหาปูหาปลา หาพืชผักมาเป็นอาหารของครอบครัว กระทั่งอายุลุล่วงได้ ๖๖ ปี ก่อนหน้านี้นายนุช มีอาชีพเป็นคนคัดท้ายเรือบรรทุกข้าวสารที่วิ่งขึ้นล่องจากนครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร อยู่หลายปี จนฝีมือในการพายเรือและคัดท้ายเรือนั้นว่ากันว่าเป็นที่เลื่องลือนัก ก่อนจะตัดสินใจย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านบากง กระทั่งวันที่ผู้ใหญ่ใจเดินทางมาบอกภารกิจอันยิ่งใหญ่ของชีวิต ที่ไม่คาดคิดว่าตัวเองมีโชควาสนาและโอกาสสูงสุดในชีวิตที่จะได้พายเรือให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเพื่อชมทัศนียภาพในบึงบากง เหตุการณ์วันนั้นเกิดเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๗ ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จมาเยี่ยมราษฎรที่หนองบัวบากง ขณะเดินไปยังจุดหมายที่บึงบากง นายนุชดีใจจนบอกไม่ถูก มีอาการตื่นเต้นพอควร ในความทรงจำที่จดจำได้ไม่ลืมเลือนคือขณะค่อยๆ เดินเข้าใกล้พระองค์ท่าน ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกำลังทอดพระเนตรแผนที่ก่อนลงเรือ หลังจากทอดพระเนตรแผนที่เสร็จแล้ว ยังแว่วได้ยินเสียงสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงทูลขอกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ขอตามเสด็จลงเรือเพื่อชมบึงบากงด้วย เพียงไม่นานต่อมา เรือลำน้อยก็ลอยล่องอยู่กลางบึงบัวโดยมีผู้โดยสารที่เป็นที่เทิดทูนของคนไทยทั้งชาติ ๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ประทับอยู่ในลำเรือ ส่วนผู้พายเรืออยู่ตรงท้ายคนเดียวเป็นชายชาวบ้านสูงอายุ ผมสีดอกเลา ใบหน้าอิ่มเอิบ เรือน้อยค่อยๆ ลอยล่องตามแรงพายของฝีพายผู้ชำนาญการ ผ่านกอกก กอหญ้า และทอดตัวอยู่เบื้องหน้าแทบจะตลอดรายทางคือกลุ่มบัวหลวงดอกใหญ่อาบสีชมพูที่แทงดอกบานสะพรั่งเหนือผิวน้ำใส ตัดกับเขียวใบบัวที่แผ่ใบห่มคลุมเหนือผิวน้ำเป็นวงๆ โดยมีฉากเบื้องหลังคือฟากฟ้าและทิวเขาที่ทอดตัวนิ่งสงบ นุช อนันตรานนท์ รำลึกความหลังในคราครั้งนั้นว่า ขณะพายเรือล่องไปในลำน้ำ พระองค์ท่านตรัสถามหลายเรื่องๆ ไม่ว่าเรื่องอายุ เรื่องครอบครัว หรือความเป็นอยู่ของชาวบ้านในแถบนี้ พระองค์ท่านถามถึงอายุอานามผม ถามว่าอายุเท่าไหร่แล้ว พอผมบอกอายุ พระองค์ท่านก็บอกว่าแก่กว่าผม ๑๐ ปี หลังจากนั้นพระองค์ท่านก็ถามผมเกี่ยวกับต้นไม้พรรณไม้ในบึงบากงที่ผ่านไปทอดพระเนตรเห็น ถามหมดทุกอย่าง เช่น ทรงถามว่าหญ้าในบึงนี้เป็นหญ้าอะไร ต้นไม้แต่ละต้นเรียกว่าอะไรบ้าง พอผมอธิบายต้มไม้อะไรต่อมิอะไร บอกท่านหมด ท่านก็ตรัสว่า ดี รู้จักพรรณไม้มาก เวลาพูดกับพระองค์ท่านผมก็พูดธรรมดาอย่างนี้ ผมพูดใต้ ท่านฟังออกบอกให้พูดไปเถอะ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็ทรงตรัสว่าพูดอะไรก็พูดไปเถอะ พระองค์ท่านฟังออกทั้งนั้น ห้วงขณะที่ทั้งสองพระองค์ทรงประทับในเรือนี่เอง ที่ต่อมาได้ปรากฏภาพขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงประทับในเรือ โดยมีนายนุชเป็นฝีพายอยู่ข้างท้ายลำเรือ โดยผู้ถ่ายภาพก็คือ นายเคลื่อน เล็มมณี ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประถมศึกษาจังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ภาพขณะเรือน้อยกำลังกลับเข้าฝั่งหลังจากเสด็จไปทอดพระเนตรบึงบากงเป็นเวลากว่า ๑ ชั่วโมง ได้รับการเผยแพร่เป็นประจำตามสื่อหลากหลายประเภท โดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหวในสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ หลังจากทอดพระเนตบรรยากาศโดยรอบบึงบากงจนทั่วแล้ว ทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จขึ้นจากเรือขึ้นไปยังศาลาหลังเก่าเรียกกันว่า ศาลาเสด็จหนองบัว ซึ่งปัจจุบันถูกรื้อไปหมดแล้ว และมีการก่อสร้าง ศาลาทรงงานหนองบัวบากง แทน เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ลักษณะเป็นศาลาอาคารไม้ เสาไม้หลายโอน หลังคามุงด้วยกระเบื้องดิน ขนาดกว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๒๕ เมตร ตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ ตอนนั้นพอผมพายมาถึงใกล้ๆ ฝั่งแล้วพระองค์ท่านขึ้นฝั่งแล้ว เหลือผมนั่งในเรืออยู่เพียงคนเดียว สมเด็จพระนางเจ้าฯ บอกว่า ส่งมือมาๆ แล้วจับมือผมลากขึ้นจากเรือ ตอนอยู่ในวัดก็เหมือนกัน มือข้างขวาของผมจะสั่นอยู่บ่อยๆ ราชินีเห็นก็เดินมาจับคลำดู แล้วบอกไปให้หมอตรวจรักษา นั่นเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ นายนุช ได้กระทำหน้าที่สำคัญครั้งสำคัญของชีวิต ถึงขนาดกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า ความรู้สึกผมที่ได้รับใช้ใกล้ชิดพระองค์ท่าน ผมพูดอะไรไม่ออก รู้สึกดีใจ ตื้นตันใจจนบอกไม่ถูก ในชีวิตหนึ่งที่ได้พายเรือให้พระองค์ท่านประทับรู้สึกว่าเป็นบุญวาสนาสูงสุดสำหรับชีวิตเราแล้ว หมายเหตุ : ขอไว้อาลัยแด่การเสียชีวิตของ 'ลุงนุช' นายนุช อนันตรานนท์ ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อคืนวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๓ ขณะอายุได้ ๙๓ ปี ด้วยงานเขียนชิ้นนี้ซึ่งเคยเผยแพร่ครั้งแรกในหนังสือ 'สายฝนเหนือปากน้ำบางนรา' ในชื่อ 'บึงน้อย บัวหลวง และบ้านบากง' (แบ่งปัณณ์สำนักพิมพ์, ๒๕๔๖) (๑) คำว่า 'ต๊ะ' เป็นภาษาท้องถิ่นภาคใต้ มีความหมายเท่ากับ "ไป...เถอะ" (๒) คำว่า 'เขลอะๆ' เป็นภาษาท้องถิ่นภาคใต้ มีความหมายเท่ากับ "ไม่ได้เรื่องได้ราว" |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
แสงและเงาที่พรุโต๊ะแดง นราธิวาส | ||
![]() |
||
เพริศไปตามจินตนาการแห่งแสงสีของป่าพรุ |
||
View All ![]() |
เหมือนสายลม | ||
![]() |
||
บทเพลงประกอบหนังสือจิตวิญญาณระหว่างขุนเขา บูโด-สันกาลาคีรี โดยชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ |
||
View All ![]() |
<< | มีนาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |