'บันนังสตา' ในท่ามกลาง 'กฎแห่งความเงียบ' (สนใจเรื่องราวของ 'กฎแห่งความเงียบ' อ่านได้ใน : ซุมเปาะห์ - โอเมอร์ตา กฎแห่งความเงียบ อันน่าสะพึงกลัว) http://www.oknation.net/blog/narapong-sak/2008/05/05/entry-1 ด้วยระยะทางไม่ใกล้ไม่ไกลนับได้เพียงประมาณ ๓๐ กิโลเมตรจากใจกลางเมืองยะลา แต่เวลานี้พลันที่ผู้คนได้ยินชื่อเรียกขานว่า บันนังสตา ต่างแทบสะดุ้งเฮือกด้วยเกรงกลัวภยันตรายที่อาจพร้อมปะทุได้ทุกเวลานาที โดยเฉพาะภายหลังการสูญเสีย จ่าเพียร-วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ดูเหมือนว่าบรรยากาศในพื้นที่แห่งนี้ยิ่งอยู่ในภาวะที่ถูกฉาบทาไปด้วยความสุดอึมครึม ในรอบ ๔-๕ ปีมานี้ เราเสียเพื่อนตำรวจไปกับเหตุการณ์รวมแล้ว ๙ คน จ่าเพียรเป็นคนที่ ๘ และ ด.ต.โสภณ อินทรบวร คนขับรถของจ่าเพียร เป็นคนที่ ๙ และยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นรายต่อไป เพื่อนตำรวจที่ สภ.บันนังสตา สะท้อนความรู้สึก ขณะที่ผู้เขียนสังเกตเห็นซองเหน็บปืนสั้นคู่กายอยู่ในสภาพ พร้อมใช้ หากถูกโจมตีจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เพราะห้วงเวลานี้ดูเหมือนว่าข่าวลือเรื่องการ บุกโรงพัก จะเกิดขึ้นเป็นระลอกๆ หลังสิ้นจ่าเพียร สภ.บันนังสตา : สถานีแห่งความเปลี่ยนแปลง จดหมายแสดงความเสียใจกับการจากไปของ 'จ่าเพียร' บนบอร์ดภายใน สภ.บันนังสตา หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศ "พอแกไม่อยู่แล้ว ก็กลัวเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาอีก เพราะเหมือนไม่มีคนมาช่วยคุ้มภัยให้" เสียงจากแม่ค้าไก่ทอดข้าง สภ.บันนังสตา กลัวนะ แต่ไม่รู้จะทำยังไงได้ จะให้ย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่ไปแน่นอน ถ้าตายก็ขอตายที่นี่แหละ เสียงสะท้อนจากชาวไทยพุทธในบันนังสตา มีข่าวมาตลอดว่า เร็วๆ นี้จะมีการตามล่าชีวิตเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นอีก เสียงสะท้อนก้องซ่อนนัยสำคัญ ขณะดวงตาตำรวจหนุ่มเฝ้าสอดส่องระแวดระวังภัยรอบด้านอย่างชวนให้ตึงเครียดในอารมณ์ เวลาแกอยู่นะ ๒-๓ ทุ่มยังเดินไปโน่นนี่ ตรวจนั่นตรวจนี่ เดินทักทายแม่ค้าหรือประชาชนไปตามรายทางที่เดินผ่าน พอแกไม่อยู่แล้ว ก็กลัวเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาอีก เพราะเหมือนไม่มีคนมาช่วยคุ้มภัยให้ แม่ค้ามุสลิมขายไก่ทอดข้าง สภ.บันนังสตา ซึ่งมีลูกสาวเคยเรียนชั้นเดียวกันกับ ชุมพล เอกสมญา บุตรชายคนโตของ จ่าเพียร ที่โรงเรียนบันนังสตา บอกเล่า พร้อมกับฝากคำปลอบโยนแสดงความเสียใจไปถึงครอบครัวผู้สูญเสีย กลัวนะ แต่ไม่รู้จะทำยังไงได้ จะให้ย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่ไปแน่นอน ถ้าตายก็ขอตายที่นี่แหละ แม่ค้าชาวไทยพุทธ เจ้าของร้านน้ำชาฝั่งตรงกันข้าม สภ.บันนังสตา ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านที่ จ่าเพียร มักไปนั่งพูดคุยขณะยังมีชีวิต กล่าวคำสั้นๆ แล้วเงียบไป ขณะมือก็ทอดกล้วยแขกไปด้วย และบางเวลากลับทอดสายตาต่ำมองพื้นถนนรอบข้าง จากข้อมูลเชิงลึกของหน่วยงานความมั่นคง มีตัวเลขบ่งชี้ว่า ผลจากการก่อความไม่สงบ ทำให้ราษฎรไทยพุทธได้อพยพออกจากพื้นที่อำภอบันนังสตาไปเป็นจำนวนมาก เช่นในปี ๒๕๕๐ มีคนไทยพุทธอาศัยอยู่ที่บันนังสตา ๑๐,๓๒๓ คน แต่ให้หลังเพียงหนึ่งปี คือปี ๒๕๕๑ เหลือคนไทยพุทธเพียง ๕,๙๐๐ คน และปัจจุบันนับว่าเหลือน้อยยิ่งนัก ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี แห่งศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) สถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ มอ.ปัตตานี สะท้อนข้อมูลใน "สรุปหกปีไฟใต้ : พลวัตการก่อความไม่สงบกับการสร้างจินตกรรมของการก่อความรุนแรง" อย่างชวนสนใจว่า เหตุการณ์ความไม่สงบตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๔๗ ถึงมกราคม ๒๕๕๓ ชี้ให้เห็นว่า มีเหตุการณ์ความไม่สงบรวม ๙,๔๔๖ ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๔,๑๐๐ ราย บาดเจ็บ ๖,๕๐๙ ราย รวมเหยื่อของเหตุการณ์ทั้งตายและบาดเจ็บ ๑๐,๖๐๙ ราย หากนับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมีคนในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากความสูญเสียดังกล่าวด้วย ประมาณว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงอีกประมาณ ๕๓,๐๔๕ คน น่าสนใจด้วยว่า เหยื่อผู้สูญเสียทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บจากความรุนแรง ประกอบด้วยภูมิหลังแตกต่างกัน มีทั้งพี่น้องมุสลิมและไทยพุทธ โดยกลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิมมากกว่าพุทธ ส่วนกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นคนพุทธมากกว่ามุสลิม ดังจะเห็นได้จากกลุ่มผู้ตายเป็นคนมุสลิม ร้อยละ ๕๘.๙๕ (๒,๔๑๗ คน) คนพุทธร้อยละ ๓๘.๐๒ (๑,๕๕๙ คน) กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นคนพุทธร้อยละ ๕๙.๘๒ (๓,๘๙๔ คน) คนมุสลิมร้อยละ ๓๒.๑๗ (๒,๐๙๔ คน) 'ห้างทองหวั่งหลี' ร้านค้าของคนไทยเชื้อสายจีนในบันนังสตา เสื้อผ้าแพรพรรณในร้านค้า, มีให้เลือกซื้อหาตาม 'อำเภอใจ' เมื่อพิจารณาพลวัตพื้นที่ของการก่อความรุนแรง สถิติโดยภาพรวมแสดงว่า นราธิวาส มีเหตุการณ์ความไม่สงบสูงสุด รองลงมาคือ ยะลา และปัตตานี แต่พลวัตการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ที่น่าสนใจก็คือ ช่วงปี ๒๕๔๗-๒๕๔๘ จังหวัดนราธิวาสเป็นพื้นที่ซึ่งมีความรุนแรงสูงสุด แต่ต่อมาช่วงปี ๒๕๕๐-๒๕๕๑ จังหวัดยะลากลายเป็นพื้นที่ซึ่งมีระดับความรุนแรงสูงสุด น่าสังเกตว่า ความถี่ของเหตุการณ์ลดลงทุกจังหวัด นับตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ แต่ปี ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา จังหวัดปัตตานี กลับกลายเป็นพื้นที่ความรุนแรงสูงสุด กระทั่งเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปัตตานีก็ยังคงมีเหตุการณ์ความรุนแรงสูงสุด ขณะที่ระดับความรุนแรงของการก่อความไม่สงบ และพลวัตของสถานการณ์ในระดับจังหวัด วิเคราะห์ได้จากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์รายอำเภอและตำบลของแต่ละจังหวัด หากพิจารณาระดับหน่วยย่อยสุด คือ ระดับตำบล เห็นได้ว่า ตำบลที่มีระดับความรุนแรงสูงสุด ๙ ลำดับแรก ก็คือ ตำบลบันนังสตา (อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา) ตำบลรือเสาะ (อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส) ตำบลปะลุรู (อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส) ตำบลจวบ (อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส) ตำบลปะแต (อำเภอยะหา จังหวัดยะลา) ตำบลบ้านแหร (อำเภอธารโต จังหวัดยะลา) ตำบลสะเตงนอก (อำเภอเมือง จังหวัดยะลา) ตำบลตันหยงลิมอ (อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส) และตำบลเมาะมาวี (อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี) พลวัตการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ เมื่อดูข้อมูลรายเดือน ตำบลบันนังสตา และตำบลรือเสาะ แย่งสลับกันเป็นอันดับหนึ่งและลำดับสองในการเป็นพื้นที่ก่อเหตุความไม่สงบรุนแรงนับตั้งแต่ปี ๒๕๔๗-๒๕๕๐ ถึงปี ๒๕๕๐ ตำบลรือเสาะ มีเหตุการณ์สูงสุด ๖๖ เหตุการณ์ในปีเดียว ซึ่งเป็นการทำสถิติสูงที่สุดในรอบหกปีของเหตุการณ์ในระดับตำบลทั้งหมด ในขณะที่ปี ๒๕๔๙ ตำบลบันนังสตา มีเหตุการณ์สูงสุด ๖๑ เหตุการณ์ นับเป็นสถิติระดับตำบลสูงสุดในลำดับสองในรอบหกปี แต่ทั้งสองตำบลดังกล่าวมีสถิติลดลงอย่างมากนับตั้งแต่ปลายปี ๒๕๕๐ โดยเฉพาะช่วงหลังจากเดือนสิงหาคม-กันยายน-ตุลาคม เพราะผลการปฏิบัติการยุทธการปิดล้อมตรวจค้นอย่างหนัก พื้นที่ที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งก็คือตำบลปะแต อำเภอยะหา ยะลา และตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง นราธิวาส เหตุการณ์ที่ตำบลปะแตถึงจุดสูงสุดในปี ๒๕๕๐ (เหมือนกับที่อื่นๆ) ปี ๒๕๕๐ ตำบลปะแตมีความรุนแรงสูงมากจนนับเป็นลำดับสามรองลงมาจากรือเสาะและบันนังสตา แต่ปี ๒๕๕๑ ทุกพื้นที่มีสถิติลดลงมากเหมือนกัน แต่ปะแตกลายเป็นตำบลที่มีสถิติการเกิดเหตุความไม่สงบสูงที่สุดเมื่อเทียบกับตำบลอื่นๆ ทั้งหมด ห้อง ผกก.สภ.บันนังสตา ชั้น ๒ ของ สภ.บันนังสตา ในวันที่ไร้ชื่อ 'พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา' โต๊ะทำงานอันว่างเปล่าของ 'จ่าเพียร-วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด' บรรยากาศริมถนนสาย ๔๑๐ ในพื้นที่บันนังสตา : มุมมองจากห้อง 'ผกก.สภ.บันนังสตา' อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ หลังสิ้นเสียงระเบิดที่คร่าชีวิต จ่าเพียร เสียงสะท้อนจาก บันนังสตา ดูเหมือนจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างที่ชวนติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลันที่ป้ายชื่อ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ถูกปลดออกจากประตูหน้าห้อง ผกก.สภ.บันนังสตา และในห้องเหลือเพียง ความว่างเปล่า ไม่แน่นักว่าจนถึงขณะนี้ กฎแห่งความเงียบ กำลังทำงานกดดันเพื่อสร้าง อาณาจักรแห่งความกลัว ให้ประทับอยู่ในใจทุกผู้คนอีกครั้ง และจักยิ่งอันตรายมากขึ้น หากผู้รับผิดชอบไม่เร่งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขร่วมกันโดย 'เร่งด่วน' !! เสื้อตัวสุดท้ายที่ได้สวมใส่, ก่อนลาจากเป็นนิรันดร พร้อมรอยเปื้อนเลือดที่ประทับตราจุดด่างดำในแวดวงตำรวจไทย เสียงสะท้อนจาก 'บันนังสตา' http://www.siamrath.co.th/uifont/ArticleDetail.aspx?acid=5439 นสพ.สยามรัฐรายวัน ฉบับวันศุกร์ที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๓ (หน้า ๓) |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
แสงและเงาที่พรุโต๊ะแดง นราธิวาส | ||
![]() |
||
เพริศไปตามจินตนาการแห่งแสงสีของป่าพรุ |
||
View All ![]() |
เหมือนสายลม | ||
![]() |
||
บทเพลงประกอบหนังสือจิตวิญญาณระหว่างขุนเขา บูโด-สันกาลาคีรี โดยชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ |
||
View All ![]() |
<< | มีนาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |