วันหนึ่งของปี ๒๕๔๗ ข้าพเจ้ามีโอกาสนั่งเรือลอยล่องขึ้นไปตามแม่น้ำบางนรา เพื่อซึมซับสัมผัสบรรยากาศริมน้ำที่ก่อให้เกิดอารมณ์สงบสุขอีกรูปแบบหนึ่งภายใต้สถานการณ์รุ่มร้อนในพื้นที่ชายแดนใต้ ครั้งนี้เองที่ข้าพเจ้าได้ซึมซับเรื่องราวที่ทำให้คนไทยทั้งปวง เมื่อได้รับรู้รับฟังแล้ว ย่อมยิ่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันมากล้นที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า อย่างเท่าเทียม ไม่เลือกชาติพันธุ์ หรือวรรณะศาสนา ............................................................. กล่าวได้ว่าแทบทุกปีที่เสด็จพระราชดำเนินมายังพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มักจะประทับเรือเพื่อชมทัศนียภาพในแม่น้ำบางนราอยู่เสมอ โดยเฉพาะปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จไปถึงบ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑ บ้านบางปอ เพื่อพระราชทานสิ่งของให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ แม่น้ำบางนรานั้น เป็นสายเลือดเส้นใหญ่ของชาวบ้านในอำเภอตากใบ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอเจาะไอร้อง ได้ใช้ประกอบเลี้ยงชีพทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราษฎรในเขตตำบลกะลุวอเหนือ ตำบลกะลุวอ ตำบลลำภู และตำบลบางปอ ประการสำคัญ แม่น้ำบางนราเป็นแม่น้ำสายหนึ่งที่มีระบบนิเวศวิทยาที่น่าศึกษาเพราะมีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์หลากหลายชนิดที่พึ่งพาอาศัยลำน้ำและป่าไม้ตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำ ระหว่างล่องเรือตามรอยเสด็จฯ ข้าพเจ้าและทีมงานได้พูดคุยกับชาวบ้านที่กำลังกู้ตาข่ายที่วางดักปลาไว้ตั้งแต่คืนวาน ปรากฏว่าได้ปลามามากมาย แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในลำน้ำสายนี้ กระทั่งใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมงจากเรือขนาดเล็กที่โดยสาร จึงได้ขึ้นฝั่งบริเวณศาลารับเสด็จ หมู่ที่ ๑ บ้านยารอ เขตตำบลบางปอ ซึ่งศาลารับเสด็จนี้สร้างขึ้นเพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่เสด็จมาที่บ้านบางปอนั่นเอง ในศาลายามนี้มีชายฉกรรจ์อยู่ ๓-๔ คนแต่งชุดทหารเต็มยศกำลังพูดคุยอยู่กับชาวบ้านคนหนึ่ง ข้าพเจ้าได้พูดคุยด้วยทราบว่ามาต้อนรับคณะทหารที่เดินทางมาทางน้ำเช่นเดียวกัน ถึงตอนนี้จากการสอบถามชาวบ้านที่มาทำธุระอยู่บริเวณนั้นว่าบ้านของ นายอารง อาแว อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑ ซึ่งเป็นบ้านที่ในหลวงเคยเสด็จฯ อยู่อีกไกลหรือไม่ ไม่ไกลมากหรอก อยู่ตรงนั้นไงที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ริมถนนนะ ชาวบ้านตอบพร้อมกับชี้มือประกอบด้วย ซึ่งคำว่าไม่ไกลของชาวบ้าน สำหรับข้าพเจ้าจากระยะทางที่คะเนด้วยสายตาก็ไกลมากโขอยู่ แต่โชคดียิ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่มากน้ำใจ ขันอาสาขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปส่งถึงที่หมาย ไม่นานต่อมาข้าพเจ้าและทีมงานก็มานั่งอยู่ ณ บ้านเลขที่ ๑ หมู่ที่ ๑ ตำบลบางปอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยได้พบกับ นางสีตีแลขอ ดอเลาะยะแก ภรรยาของนายอารง ซึ่งออกมาต้อนรับคณะของเราด้วยความดีใจ พร้อมกับสั่งให้ลูกสาวและหลานที่อยู่ด้วยลำเลียงน้ำท่ามาให้ดื่มกิน นายอารงเสียชีวิตไปหลายปีมาแล้ว นางสีตีแลขอตอบคำถามหลังจากข้าพเจ้าถามหาสามีของเธอ จากนั้นเธอได้เล่าถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ว่า เรื่องที่ในหลวงทรงเคยเสด็จฯ มาเยี่ยมเยือนถึงที่บ้านเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้วขณะที่สามียังเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ โดยเวลานั้นไม่มีใครทราบมาก่อนเลย เวลาประมาณ ๖ โมงเย็น กำลังตักข้าวใส่จานเตรียมจะกินข้าวเปิดปอซอกับครอบครัวซึ่งอยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ และลูกๆ อีก ๕ คน พอทราบว่าในหลวงเสด็จมาจึงทิ้งจานไว้ ไม่รู้สึกหิวข้าวกันแล้ว มัวตื่นเต้นที่จะได้ไปรับเสด็จในหลวง ตอนนั้นสามีอยู่หน้าบ้านตรงที่เป็นดินโคลนมีถุงปุ๋ยอยู่ พอในหลวงเสด็จมาทรงยืนพูดคุยกับสามีของฉัน ส่วนราชินีเสด็จฯ เข้ามาพร้อมกับลูกสาว มาพูดคุยกับฉันและลูกๆ โดยพอมาถึงพระองค์ท่านเดินไปดูในครัวจากด้านนอก เห็นครัวทำด้วยไม้ไผ่ พระองค์ท่านทรงถามว่า ทำจากอะไร ฉันบอกว่าทำจากไม้ไผ่ เอาไม้ไผ่มาตีเป็นฝา ส่วนพื้นที่หน้าบ้านในเวลานั้นก็เป็นเหมือนที่อยู่ปัจจุบันนี้แหละเป็นพื้นดินเฉอะแฉะ นางสีตีแลขอ อาแว 'บ้าน' ของชาวบ้านมุสลิมหลังที่ 'ในหลวง' เคยเสด็จฯ จนเจ้าของบ้านถึงกับเอ่ยคำ "นาเซะบายด์ : รู้สึกว่าเป็นบุญมาก ที่ในหลวงเสด็จมาที่บ้าน" ลูกหลานและอาคันตุกะ ร่วมชักภาพเป็นที่ระลึก ผ้าห่มที่นางสีตีแลขอ ได้รับพระราชทานจากพระหัตถ์ ยังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี เวลานั้นปรากฏว่ามีราษฎรเดินทางมาต้อนรับกันเป็นจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เวลาเยี่ยมเยือนและพูดคุยกับราษฎรประมาณ ๑ ชั่วโมง พร้อมกับพระราชทานเสื้อ ผ้าห่ม ฯลฯ ให้แก่ชาวบ้าน โดยผ้าห่มที่นางสีตีแลขอได้รับพระราชทานจากพระหัตถ์นั้น ยังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีภายในบ้านจนทุกวันนี้ ตอนนั้นหน้าบ้านพื้นถนนแฉะเหมือนปัจจุบัน ทางเจ้าหน้าที่ทำไม้รองเป็นทางเดินไว้ แต่ในหลวงก็ไม่ทรงยอมเดินบนทางเดินไม้ แต่ทรงเดินลุยโคลนบนพื้นชื้นแฉะเช่นเดียวกับชาวบ้านทั่วไปทำให้เปรอะเปื้อนไปหมด ตอนในหลวงมาทุกคนดีใจมาก อิ่มเอิบใจมีความสุข พอในหลวงจะเสด็จกลับ เราเดินไปส่งถึงรถยนต์พระที่นั่ง เพราะตอนมาเราไม่ได้ออกไปต้อนรับ มีการถ่ายทอดออกโทรทัศน์ด้วยนะ ลูกๆ หลานๆ ได้ดูกันหมด นางสีตีแลขอ เล่าเป็นภาษามลายูถิ่นหรือยาวี ด้วยดวงตาเป็นประกาย โดยมีหลานชายและ พงศ์ นราฯ คอยแปลคำยากๆ ที่ข้าพเจ้าไม่ค่อยเข้าใจให้ฟังอีกทอดหนึ่ง หลังจากพูดคุยกันพอสมควรแล้ว ข้าพเจ้าถามคำถามสุดท้ายก่อนเราจะลาจากกันว่า "รู้สึกอย่างไรบ้างที่ในหลวงเสด็จมา" "นาเซะบายด์" นางตอบ พร้อมด้วยแววตาที่พริ้มพราย และรอยยิ้มอันเปี่ยมสุข หากจะแปลภาษามลายูถิ่นเป็นภาษาไทย ประโยคนี้มีความหมายยิ่งว่า "รู้สึกว่าเป็นบุญมากที่ในหลวงเสด็จฯ มาที่บ้าน" |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
แสงและเงาที่พรุโต๊ะแดง นราธิวาส | ||
![]() |
||
เพริศไปตามจินตนาการแห่งแสงสีของป่าพรุ |
||
View All ![]() |
เหมือนสายลม | ||
![]() |
||
บทเพลงประกอบหนังสือจิตวิญญาณระหว่างขุนเขา บูโด-สันกาลาคีรี โดยชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ |
||
View All ![]() |
<< | พฤษภาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |