ร่วมขับขานบทกวี-เล่นดนตรี บนเวทีกลางสายน้ำบางนรา "เพชรพลอยแผ่นดินคือศิลปะ ไหว้พระไหว้ธาตุทิพย์สถาน สะท้อนทิพย์แห่งใจในโบราณ เนิ่นนานเยี่ยงนั้นนิรันดร์ไป เช้าเสาร์ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๓ ห้วงขณะพื้นที่ชายแดนใต้บางส่วนยังคงระงมด้วยเสียงปืน เสียงระเบิด และเสียงร่ำไห้ แต่สมุดลงนามเยี่ยมของพิพิธภัณฑ์วัดชลธาราสิงเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ศูนย์รวมศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวไทยที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอตากใบ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะการเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ จนได้รับสมญานามว่า 'วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย' กลับปรากฏเนื้อความอันเป็นผลพวงจากการต่อกลอนของ ๒ ศิลปินเอกอุแห่ง 'แผ่นดินรัตนโกสินทร์' ที่มีความหมายยิ่ง ลายเส้นตวัดสวยงามนั้น หนึ่งคือลายมือของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ผู้ได้รับฉายา กวีรัตนโกสินทร์ จากผลงานการเขียนที่หลากหลาย งานกวี เพียงความเคลื่อนไหว ได้รับรางวัลซีไรท์ปี ๒๕๒๓ และปี ๒๕๓๓-๒๕๓๖ เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อเขียนบทกวีบันทึกเรื่องราวของทุกจังหวัดไว้ในผลงานชุด เขียนแผ่นดิน จนนับเป็นผลงานเอกที่ส่งผลให้ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ เมื่อปี ๒๕๓๖ อีกหนึ่งนั้นคือ สถาพร ศรีสัจจัง หรือ 'พนม นันทพฤกษ์' ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ กวีและนักเขียนที่สร้างผลงานหลายประเภท ทั้งเรื่องสั้น บทกวี ร้อยแก้ว และวรรณกรรมเยาวชน ผลงานหลายเรื่องได้รับการยกย่อง ได้รับรางวัล และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ เป็นกวีและนักเขียนที่เป็นนักคิด นักอุดมคติ และนักต่อสู้เพื่อสังคม ผลงานวรรณศิลป์ผูกติดอยู่กับความเคลื่อนไหวและความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ๒ กวีเดินทางจากต่างที่ แต่เป้าหมายเดียวกัน คือ มุ่งสู่แผ่นดินปลายด้ามขวาน 'นราธิวาส' เพื่อร่วมงาน 'ของดีเมืองนรา' แสดงดนตรี-อ่านบทกวีหน้าพระที่นั่ง บนเวทีกลางสายน้ำบางนรา ช่วงการแสดง แสง เสียง และสื่อผสม ซึ่งประกอบด้วย ๒ ศิลปินแห่งชาติ ๒ กวีซีไรต์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สถาพร ศรีสัจจัง ไพวรินทร์ ขาวงาม รวมถึงสมาชิกวงคันนายาว ประกอบด้วย รังสิต จงฌาณสิทโธ (ป่อง ต้นกล้า) ชูเกียรติ ฉาไธสง และ นัช หาญพาณิชย์พันธ์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งเพิ่งได้รับเชิญจาก สำนักหัวใจเดียวกัน เพื่ออ่านบทกวีและเล่นดนตรีในงาน เขียนแผ่นดินด้วยหัวใจเดียวกัน ที่นราธิวาสเมื่อไม่นานมานี้ มาเยือนแผ่นดินคนดีอีกคราเพื่อร่วมแสดงในงาน แสง เสียง และสื่อผสม ประจำปี ๒๕๕๓ กล่าวในรายการ ผู้ว่าฯ พบประชาชน ร่วมกับ ธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่า เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้เดินทางลงพื้นที่ชายแดนใต้ รู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นที่สุด โดยเฉพาะการร่วมงาน ที่มีการนำแผ่นดิน แผ่นฟ้า และแผ่นน้ำ มาเชื่อมต่อกันกับการแสดงในวันพระจันทร์เต็มดวง ทำให้เพิ่มความสวยงามได้มาก เปรียบเสมือน พระจันทร์อาบน้ำบางนรา เพิ่มเสน่ห์สายน้ำบางนราให้ดูขรึมขลังสวยงามมากยิ่งขึ้น สำหรับจังหวัดนราธิวาสโดยความหมายแล้วก็คือที่อยู่ของคนดี โดยเฉพาะคำว่ารายอที่ชาวมุสลิมในพื้นที่เรียกกัน ก็คือผู้นำความยินดีมาสู่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมามีการเสด็จลงพื้นที่เป็นประจำ อีกทั้งมีการพระราชทานนามของพระพี่นางฯ ให้กับสถานที่สำคัญ เป็นเครื่องยืนยันว่าชาวนรานั้นมีความสัมพันธ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า ชีวิตของประชาชนในพื้นที่นราธิวาสเป็นวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ สวยงาม ทั้งภูมิปัญญาพื้นบ้านและภูมิทัศน์ของประชาชน โดยเฉพาะความหมายที่แปลว่า ที่อยู่ของคนดี ชาวนราธิวาสถือว่ามีวัฒนธรรมที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องธำรงไว้อย่าให้เสื่อมหาย และเมื่อพูดถึงวิถีมุสลิม ถือว่าในพื้นที่มีความโดดเด่นมาก สามารถนำไปอวดใครๆ ได้ แม้แต่ประเทศมาเลเซียเองยังคงชื่นชมวิถีมุสลิมหรือวีถีมาลายูของประชาชนในพื้นที่ ขณะที่ ไพวรินทร์ ขาวงาม กวีซีไรต์จากกวีนิพนธ์ ม้าก้านกล้วย สะท้อนนัยสำคัญว่า ถ้าจะสำบัดสำนวนเล่นสักหน่อยก็ต้องว่า ชีวิตเหมือนฝัน ฝันพบตัวเองเดินอยู่ในวัด ชลธาราสิงเห วัดเก่าสมัยปลายรัชกาลที่ ๔ ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ชายแดนใต้ไกลโพ้นสำหรับคนอีสานหรือคนภาคอื่นที่รู้สึกถึงความไกลและความน่ากลัว เพียงแค่ชื่อ ตากใบ หลายคนก็รู้สึกยากเกินฝันแล้ว ทว่าในความเป็นจริง ผมมิได้ฝันไป ความสะดวกทางวิทยาศาสตร์ของโลก ทำให้ตอนเช้าอยู่ขอนแก่น ตอนสายอยู่กรุงเทพฯ ตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ อยู่นราธิวาส ทั้งได้ไปเที่ยวอำเภอตากใบ ดินแดนที่เคยได้ยินแต่ข่าวคราวความเป็นความตายที่น่าสลดใจ ไพวินทร์ ขาวงาม บอกเล่าว่า มิตรภาพแห่งบทกวีและดนตรี ทำให้การเดินทางระหว่างความน่ากลัวของเรากลายเป็นการเดินทางที่น่าประทับใจ... ผมรู้สึกชีวิตภายในของตัวเองเปลี่ยนไปในทางที่ดีอีกหลายชั้น เมื่อพบว่าตลอดสี่ทิวาและสามราตรีที่บางนรา ในใจผมไม่ได้กลัวเหมือนที่เคยคิดกลัวไปเองก่อนหน้านี้ แม้สภาพความเป็นจริงที่ต้องยอมรับก็คือ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่พิเศษ เราเห็นทหารถือปืนยืนเฝ้าระวังอยู่หลายมุมเมือง อาจารย์ชาวมุสลิมท่านหนึ่ง เราคุยกันทางเฟซบุ๊คก่อนที่ผมจะเดินทาง เขาว่านราธิวาสปกติดี อย่าเชื่อตามภาพข่าวเพียงด้านเดียว เมื่อได้ไปจริงๆ เสน่ห์ของเมืองนี้ก็ทำให้เกิดความรู้สึกดีอย่างยิ่ง บ่ายวันที่ ๒๓-๒๔ กันยายน ห้วงเวลาที่ได้นั่งกินดื่มกันในร้านอาหารชื่อ มังกรทอง ริมแม่น้ำบางนรา ขณะมีการแข่งเรือกอและ เรือยาว และเรือยอกอง เพื่อคัดเลือกเรือเข้าชิงถ้วยพระราชทานวันที่ ๒๕ กันยายน ไพวรินทร์เล่าว่า เราต่างปรารภกันถึงความรู้สึกภายใน ทั้งกับเพื่อนร่วมทางและผู้ให้การต้อนรับ เราต่างรู้สึกดีใจที่ตัดสินใจรับงานนี้ ในคณะของเรา น่าจะมีผมคนเดียวที่เพิ่งเคยไปนราธิวาส รู้สึกตื่นเต้นกับอะไรต่ออะไรสารพัด เห็นอะไรก็มองและถ่ายรูปไว้เรื่อยๆ เพลงแรกที่ผมได้ยินจากชาวบ้านที่มาลุ้นเรือแข่งของพวกเขาคือ จังซี่มันต้องถอน ของ ปอยฝ้าย มาลัยพร ตามด้วยเพลงร่วมสมัยอีกมากมาย ด้วยภาพและเสียงเฉพาะหน้าที่คล้ายๆ เคยได้เห็นได้ฟังมาแล้วในที่อื่นๆ เสียงประทัด เสียงโห่ร้องแห่งความสนุกสนานของชาวบ้าน ทำให้เราเกิดอารมณ์ร่วมไปด้วย เสียงพูดภาษายาวีดังก้องกังวาน พร้อมเมื่อดูลักษณะใบหน้าผิวพรรณของพี่น้องแถวนั้นแล้ว ผมอดคิดถึงคนแถวสุรินทร์บ้านตัวเองไม่ได้ (คอลัมน์ คมเคียวคมปากกาเยือนบางนรากับ คันนายาว คม ชัด ลึก ฉบับ ๑ ต.ค.๒๕๕๓) การเดินทางของศิลปิน-กวี จบลงด้วยความประทับใจ เป็นไปตามแนวคิดสร้างสรรค์ของ สายัณห์ อินทรภักดิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนราธิวาส ในฐานะประธานคัดเลือกภาคเอกชนบริหารส่วนการแสดงแสง เสียง และสื่อผสม โดยเป็นครั้งแรกที่คนนรา โดย 'พงศ์ นราฯ' แห่งพงศ์นราแกลเลอรี่ เป็นผู้รับผิดชอบ ทำให้รูปแบบเกิดความแปลกแตกต่างจากเดิม กวี เดินทางไกลและฝากรอยประทับใจไว้ให้แก่ผืนแผ่นดิน นราธิวาส ท่ามกลางแสงสีเสียงอันตระการตา ผู้ชมมากมายที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ และพระจันทร์เด่นดวงเหนือผืนน้ำบางนรา เชื่อว่าการผลิบานของคีตการ ศิลปะการแสดง ฯลฯ ของมากผู้คน โดยเฉพาะเหล่า เยาวชน จักเบ่งบานไปตราบนานเท่านาน เพื่อสะท้อนว่า ไฟสงคราม จักมอดดับได้ด้วยพลังแห่ง ทุนวัฒนธรรม ที่ยังคงดำรงอยู่อย่างมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้เวลานี้ ลายมือของ ๒ กวีเอก เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และ สถาพร ศรีสัจจัง (พนม นันทพฤกษ์) มาดเท่ห์ของศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ 'สถาพร ศรีสัจจัง' ณ ริมน้ำตากใบ ธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ครั้งให้สัมภาษณ์ 'นายหัวไทร' เรื่องการจัดงาน 'ของดีเมืองนรา' มุจรินทร์ ทองนวล ประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส ขณะร่วมสัมภาษณ์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีรัตนโกสินทร์ และ ธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส คราเยือนแผ่นดินบางนราเป็นหนที่ ๔ เพื่อร่วมงานแสง เสียง และสื่อผสม ประจำปี ๒๕๕๓ นาวาตรีหญิง โนสมา หลีเส็น นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ และผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส รับหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ร่วมรับประทานอาหารร้านมังกรทอง ภายใต้การดูแลเป็นอย่างดีของ อาหมาน หมัดอาดัม ผอ.ททท.นราธิวาส ไพวรินทร์ ขาวงาม กวีซีไรต์จาก 'ม้าก้านกล้วย' นอกจากเชี่ยวชาญเชิงกวีแล้ว ยังชมชอบ 'เขียนด้วยแสง' จนได้ภาพชวนประทับใจมากมาย ลิ้มรสอาหาร และดื่มด่ำบรรยากาศแข่งขันเรือกอและฯ หน้าพระที่นั่ง ริมเขื่อนท่าพระยาสาย สถาพร ศรีสัจจัง และ กิตติ กาญจนสถิตย์ (กิตติ กีตาร์ปืน) คราเป็นแขกสำคัญเยี่ยมเยือน 'เมืองคนดี-นราธิวาส' ชักภาพเป็นที่ระลึก, ในร้านขายของที่ระลึก เก็บภาพที่วัดพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล หรือ 'วัดเขากง' ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส บรรยากาศสนทนาธรรมกันในวัดเขากง เดินทางสู่วัดชลธาราสิงเห (วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย) อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สายัณห์ อินทรภักดิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนราธิวาส (ขวาสุด) ผู้จุดประกายการแสดงดนตรีกลางสายน้ำบางนรา รับหน้าที่ดูแลคณะกวี-ศิลปิน ตลอดทริปด้วยความประทับใจยิ่ง ป่อง ต้นกล้า และ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สถาพร ศรีสัจจัง สายัณห์ อินทรภักดิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนราธิวาส และป่อง ต้นกล้า ขับขานคีตกวีกลางสายน้ำบางนรา "นั่งอยู่ริมน้ำ ฉันเห็นสายน้ำไหลผ่านไป เบื้องหน้าคือขุนเขาใหญ่ เงาไม้พลิ้วไหวตามแรงลม..." (บทเพลง 'เหมือนสายลม' โดย...ปราณชลี ที่ดาลใจจากภาพขุนเขาตันหยง 'บ้านของพระราชา') |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
แสงและเงาที่พรุโต๊ะแดง นราธิวาส | ||
![]() |
||
เพริศไปตามจินตนาการแห่งแสงสีของป่าพรุ |
||
View All ![]() |
เหมือนสายลม | ||
![]() |
||
บทเพลงประกอบหนังสือจิตวิญญาณระหว่างขุนเขา บูโด-สันกาลาคีรี โดยชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ |
||
View All ![]() |
<< | ตุลาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |