*/
เชียงใหม่/กพ.55 | ||
![]() |
||
ดอกไม้เชียงใหม่ |
||
View All ![]() |
<< | สิงหาคม 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |
วานนี้ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ผมนำเอาบทความเรื่อง หลัง “ตัดกิ่ง-แต่งใบ” ต้นไม้ที่ชื่อทักษิณ เสร็จสิ้นลงแล้ว คสช.ก็ลงมือ “ตัดรากแก้ว – รากฝอย” ทันที ! เป็น บทความที่ผมสนับสนุนนโยบายของ คณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน (ครสช.) เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ใช่ครับผมพิมพ์ ๒๕๕๗ ไม่ผิด หลังนำบทความโพสต์ลงในเฟซบุ๊กภาณุมาศ ทักษณา ได้มีมิตรรักแฝนเพจนามว่า คุณแม่ น้องเพลง โพสต์ความเห็นว่า “เอา แบบจริง ๆ ทุกวันนี้ชาวบ้านยังเรียกร้องหาทักษิณอยู่ คือเขาไม่ต้องคิดอะไรมากเขาบอกว่ารัฐบาลนี้เงินถึงมือยาก ไม่เหมือน ทักษิณ -ยิ่งลักษณ์ ขอ อะไรก็ได้ ฟังมาด้วยตัวเองจากคนใกล้ชิดที่บ้าน” อ่านความเห็นนั้นแล้ว ผมนึกถึงคำเปรียบเปรยวลีหนึ่ง ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็คงจะเคยได้ยิน นั่นคือ “นักการเมืองให้ปลา พระราชาให้เบ็ด” เป็นคำเปรียบเปรยที่ทำให้เห็นความจริงของสังคมได้อย่างชัดเจนยิ่ง เพราะรัฐบาลที่มาจากนักการเมืองในอดีตนั้น ขยันแต่ “ให้ปลา” จนชาวบ้านไม่สนใจ คิดที่จะหาปลากินกันเอง หลายครอบครัวแทบจะกลายเป็นขอทานหรือคนพิการที่ง่อยเปลี้ยเสียขาเพราะทำอะไรไม่เป็นไปแล้ว ทั้ง ที่ในอดีตอันยาวนาน ในหลวงทรงพระราชทานแนวพระราชดำริที่ไม่ต่างไปจากเครื่องมือในการทำมาหากิน เอาไว้ให้ชาวบ้านตาม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งผมอยากจะบอกว่านั่นคือ “เบ็ดของพระราชา” แต่ทวา ไม่เคยมีรัฐบาลที่มาจากนักการเมืองรัฐบาลไหน ให้ความสนใจที่จะนำเครื่องมือในการทำมาหากินซึ่งคือ “เบ็ดของพระราชา” ไปสอนชาวบ้านให้รู้จัก “หาปลา-จับปลา” อย่างจริง ๆ จัง ๆ จวบ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เข้ามายึดอำนาจในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ นั่นแหละ สังคมจึงถูกจัดระเบียบใหม่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ใน ด้านสังคมนั้น นอกเหนือจากรัฐบาลจะตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มาพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่แล้ว ภาคเอกชนเองก็ยังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือรัฐบาล ด้วยการช่วยแก้บางปัญหาที่อยู่ในความสามารถจะทำได้ เหมือน เมื่อต้นปีนี้ ๒๕๕๙ นี้ ได้มีองค์กรอิสระที่มิได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล คือ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ สำนักงาน ก.ป.ร. ที่ดูแล ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ร่วมกับ มูลนิธิมั่นพัฒนา มูลนิธิยุวสถิรคุณ และ มูลนิธิบุคคลพอเพียง ในความอุปถัมภ์ของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมี ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็น ผู้อำนวยการ ได้ ร่วมกันคิดหาวิธีที่จะสอนให้ชาวบ้านใช้เบ็ดหาปลา โดยมอบหมายให้ ชมรมคนรักในหลวง ที่มูลนิธิบุคคลพอเพียง ดูแลอยู่ คัดเลือกสมาชิกจากทั่วประเทศ จังหวัดละ ๔ คนมาเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมผู้นำแห่งยุคเพื่อความสุขที่ยั่งยืนขึ้น ๔ องค์อิสระดังกล่าวได้จัดเตรียมผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่าง ๆ มาร่วมหารือเพื่อกำหนดหลักสูตรดังกล่าว เพื่อใช้ตัวแทนเกษตรกรให้มี “ภาวะผู้นำ” ให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองและชุมชน จะได้ ไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากนักการเมืองอีก จาก การที่ผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับการอบรมโครงการผู้นำแห่งยุคเพื่อความสุขที่ ยั่งยืน ที่องค์กรอิสระทั้ง ๔ ต่างร่วมแรงร่วมใจกันทำงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นมานั้น ผม พบว่า วิชาการต่าง ๆ ที่คณะวิทยากรนำไปถ่ายทอดและทดสอบตัวแทนเกษตรกรจากชมรมคนรักในหลวงทั่ว ประเทศนั้น มีองค์ความรู้ที่ประกอบด้วยสาระสำคัญจาก ๓ ศาสตร์ คำว่า ๓ ศาสตร์ที่ ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ กล่าว ให้ผู้ร่วมอบรมได้ยินนั้น ท่านขยายความว่า ประกอบด้วย ศาสตร์สากล ศาสตร์ภูมิปัญญาชาวบ้าน และ ศาสตร์ของพระราชา อันได้แก่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเอง โดย เฉพาะ ศาสตร์ของพระราชานั้น ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่ง ที่คณะวิทยากรจาก มูลนิธิมั่นพัฒนา และมูลนิธิยุวสถิรคุณ ทุ่มเทให้กับตัวแทนเกษตรกรที่เข้ารับการอบรมอย่างเต็มที่ ทำให้ผมกล้าที่เปรียบเทียบว่า วิทยากรเหล่านั้น กำลังสอนให้ชาวบ้านรู้จัการใช้ “เบ็ดของพระราชาหาปลามาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวให้รอดพ้นจากความอดอยากนั่นเอง สิ่ง ที่เห็นจากการไปสังเกตการณ์ ทำให้ผมก็มั่นใจว่า หลังการปฏิรูปประเทศของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านไปแล้วตามโรดแมปที่วางเอาไว้ เกษตรกร ไทยในชนบทที่เคยตกเป็นเบี้ยล่างของนักการเมืองที่จ้องจะเข้ามาใช้คนไทยเป็น เครื่องมือ คงจะสามารถยืนอยู่บนขาตัวเองได้ และคงจะไม่ยอมให้นักการเมืองหลอกใช้อีกต่อไปครับ ! |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |