*/
เชียงใหม่/กพ.55 | ||
![]() |
||
ดอกไม้เชียงใหม่ |
||
View All ![]() |
<< | ตุลาคม 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |
ภาณุมาศ ทักษณา ค่ำวานนี้ มีเพื่อนในเฟซบุ๊กภาณุมาศ ทักษณา ถามผมทางกล่องข้อความว่า “อาจารย์เคยผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ไหม อยากให้อาจารย์เล่าถึงเหตุการณ์นั้นบ้างครับ” ผมตอบมิตรรักแฟนเพจในกล่องฝากข้อความ ว่า ผมผ่านเหตุการณ์ทั้ง 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 ถ้าจะให้ผมเขียนถึง ผมอาจเขียนต่างจากคนอื่นที่ต่างก็มีอารมณ์อาลัยอาวรณ์นะ เขาบอกว่า เขียนเถอะครับอาจารย์ อยากรู้ความรู้สึกจริงๆ ของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ครับ…. และต่อไปนี้คือ คำบอกเล่าของคนที่เคยผ่านเหตุการณ์ในเดือนตุลาคม ทั้งสองครั้ง …ก่อนเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ในวิทยาลัยพณิชยการธนบุรี แล้วถ้าถามว่า ผมมีความตื่นตัวในทางการเมืองไหม คงตอบได้ว่า ผมไม่มีความรู้อะไรเลย ยุค นั้น คนหนุ่มสาวรุ่นผมอยู่ใต้กะลาของความสนุกสนานและคึกคะนองครับ ซึ่งก็คงไม่ต่างไปจากหนุ่มสาวยุคนี้ ที่ส่วนใหญ่มักจะแสวงหาสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ยกเว้นบางคน “ที่ถูกลัทธิทางการเมืองครอบ” แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมี ก็คือความกล้าในการแสดงออก เพราะผมไม่ได้เรียนหนังสืออย่างต่อเนื่อง ผมจบ ม.ศ.3 แล้วไปทำงาน แล้วจึงเข้าเรียนต่อระดับ ปวช.- จบ ปวช.ผมก็ทำงานอีก แล้วจึงไปเข้าเรียน ปวส. เมื่อเข้าเรียนที่วิทยาลัยพณิชยการธนบุรีในปี 2516 ผมจึง “กล้า” ที่จะแสดงออกในทุกด้าน ต่างจากเพื่อนส่วนใหญ่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ชีวิต เพราะต่างก็เรียนชั้นต่อชั้น ระดับต่อระดับมาตลอด พูดแล้วน่าอาย แต่ก็ต้องพูดว่า ผม ได้ตั้งตัวเองเป็นหัวโจกในกลุ่มเพื่อน ด้วยการชักชวนเพื่อนๆ ตั้ง ชมรมสื่อสารการแสดง เพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ เหมือนนิสิตนักศึกษายุคนั้น ซึ่งเป็นยุคที่ทหารปกครองบ้านเมือง คล้ายๆ กับยุค คสช.นี่แหละครับ หากจะต่างกันก็ตรงที่ยุคนั้นคนไทยไม่แยกเป็นเสื้อสีต่าง ๆ แต่เป็นยุคที่ลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังแผ่อิทธิพลเข้ามา ลัทธิดังกล่าวมีทั้งคอมมิวนิสต์สายจีน และสายรัสเซีย โดยผู้นำลัทธินั้นเข้าเผยแพร่ได้แทรกซึมเข้าไปในกลุ่มนักวิชาการ นิสิตนักศึกษา ผู้นำแรงงาน และสื่อมวลชนบางคน เป้าหมายของลัทธิคอมมิวนิสต์ทั้ง 2 สายก็คือ ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยไปเป็นลัทธิคอมมิวนิสต์เหมือนที่ประเทศเพื่อนบ้านถูกเปลี่ยนไปแล้ว วิธีการของลัทธิดังกล่าวคือ แสดงให้คนไทยเห็นความแตกต่างระหว่างการเป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขกับลัทธิคอมมิวนิสต์ที่คนมีความเสมอภาคกัน โดยผู้เผยแพร่ได้แสวงหาเป้าหมายที่มีลักษณะ ผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำทางวิชาการ ผู้นำนิสิตนักศึกษา ผู้นำผู้ใช้แรงงาน และผู้นำในวงการสื่อสารมวลชน แม้ ว่าในขณะนั้นผมจะถูกมองว่าเป็นนักกิจกรรมคนหนึ่งในหมู่นักศึกษา แต่กิจกรรมส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามชื่อคือ ชมรมสื่อสารการแสดง จึงไม่อยู่ในเป้าหมายที่ถูกมองในขณะนั้น จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุการณ์วันที่ 14 ตุลา 2516 นั่นแหละ กิจกรรมของชมรมฯ จึงเริ่มเปลี่ยนไป – ผมเริ่มเข้าไปร่วมฟังคำปราศรัยที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฟัง ผู้นำนิสิตนักศึกษาในยุคนั้นที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาด่ารัฐบาลไทย ที่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้ประเทศสหรัฐอเมริกา ยอมให้อเมริกาตั้งฐานทัพและส่งทหารไปร่วมรบ ฯลฯ รวม ไปถึงการเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศใช้รัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้งไปสู่ ความเป็นประชาธิปไตยเหมือนประเทศอื่นๆ ซึ่งข้อเรียกร้องในเรื่องนี้ทำให้ผู้คนเริ่มเห็นคล้อยตามมากขึ้น ผมยอมรับอย่างไม่อายว่า ผมไม่รู้หรอกว่าจริง ๆ แล้วประชาธิปไตยเป็นอย่างไร รู้แต่เพียงว่าประชาธิปไตยคือจะต้องมีรัฐธรรมนูญและมีการเลือกตั้ง ซึ่งคงจะเหมือนยุคนี้นั่นแหละ และ ถึงแม้ว่าจะไปร่วมฟังการปราศรัยทุกเย็น แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจความเป็นประชาธิปไตยอยู่ดี เพราะในห้วงเวลานั้น ไม่ใช่เวลาที่จะสอนประชาธิปไตย แต่ผู้นำนิสิตนักศึกษาด่ารัฐบาลเป็นหลัก หากจะเปรียบเทียบกับยุคนี้ที่มีการชุมนุมก็ไม่ต่างกัน… นั่นคือขุดคุ้ยความผิดพลาดความบกร่องของรัฐบาลมาให้ประชาชนรับรู้ว่าเลวร้ายอย่างไร โกงกินอย่างไร เล่นพรรคเล่นพวกอย่างไร เป้า หมายในการพูดหรือปราศรัยของผู้นำนิสิตนักศึกษาในยุคนั้น ก็เหมือนกับแกนนำม็อบในยุคนี้ ก็คือชักชวนให้คนฟังร่วมเดินขบวนขับไล่รัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่ – ไม่ต่างกันเลย และ ถึงแม้ว่าผมจะผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 มาแล้วโดยไม่ได้อะไรเลย นั่นคือเคยใช้ชีวิตอย่างไร ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นเหมือนชาวบ้านคนอื่น จน กระทั่งมาถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 บรรยากาศของสังคมและการเมืองไทยก็ไม่ต่างกัน นั่นคือปลุกระดมเพื่อโค่นล้มผู้มีอำนาจของคนกลุ่มหนึ่ง โดยอาศัยประชาชนเป็นเครื่องมือ และ หากจะว่าไปแล้วการไล่โค่นล้มกันในทางการเมืองไม่ด้วยวิธีการใด ๆ ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือการปฏิวัติรัฐประหาร เป้าหมายก็ไม่ต่างกันนั่นคือการก้าวเข้ากุมอำนาจรัฐนั่นเอง คำถามคือ เมื่อได้อำนาจรัฐไว้ในมือแล้ว ผู้คุมอำนาจรัฐในแต่ละยุค ได้ใช้อำนาจนั้นเพื่อตัวเอง พวกพ้อง หรือเพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศ ต่างหากเล่า ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่เคยอาลัยอาวรณ์เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 และมาสำนึกได้ว่าผมคือเหยื่อที่ถูกกระแสการเมืองดูดเข้าไป ต่างจาก “บางคน –บางกลุ่ม” ที่ยังถวิลหาเหตุการณ์เดือนตุลา เพราะว่าพวกมันยังไม่บรรลุเป้าหมายที่มันต้องการ ซึ่งนั่นก็คือ “อำนาจทางการเมือง” นั่นเอง ! |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |