ก่อนหน้านี้ผมได้เขียนถึงโฆษณาของไทยประกันชีวิตกันไปแล้ว ซึ่งผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่ได้ชมโฆษณาชิ้นนี้น่าจะเรียกน้ำตากันได้ไม่น้อยทีเดียว แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีโฆษณาอีกชิ้นที่น่าจะเรียกน้ำตาจากท่านผู้ชมได้เช่นกันครับ และวันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับโฆษณาชิ้นนี้กัน โฆษณานั้นก็คือ โฆษณา Dtac 3G ชุด รักแม่ โฆษณาชิ้นนี้มีความยาวประมาณ 2 นาที ซึ่งถือว่าเป็นปกติของโฆษณาที่ต้องการให้ผู้ชมรับรู้ถึงความรู้สึกที่จะสื่อออกไปจากโฆษณา โดยมากแล้วโฆษณาแบบนี้มักใช้เวลานานกว่าโฆษณาปกติทั่วไป เรามาเริ่มกันที่เนื้อเรื่องก่อนเลย เนื้อเรื่องนั้นพระเอกของเราในเรื่องนี้คือน้องต้น ต้นนั้นจัดว่าเป็นเด็กประเภททำได้ทุกเรื่องไม่ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะหลุดโลกแค่ไหนก็ตาม แต่พอเป็นเรื่องของครอบครัว ต้นซึ่งน่าจะเป็นเหมือนกับเด็กผู้ชายหลาย ๆ คนที่มักจะไม่ค่อยแสดงออกในเรื่องความรักที่มีกับครอบครัวอย่างตรงไปตรงมา แค่จะจับมือแม่ก็ยังเขิน แต่ต้นก็มีวิธีการแสดงออกในเรื่องของความรักในแบบของตัวเอง เช่น คุณแม่ของต้นนั้นถูกแพทย์สั่งให้ทานแป้งน้อย ๆ ดังนั้นเวลาจะตักข้าวให้แม่ก็จะตักให้น้อย ๆ เป็นต้น และแล้วในที่สุดพระเอกของเราก็ต้องจากที่บ้านเพื่อไปเรียนต่อ และที่สนามบินนั้นเอง ดูเหมือนว่าจะเป็นการบอกลากันง่าย ๆ โดยพระเอกของเราหลังจากบอกลาน้องสาวแล้วก็ยกมือไหว้พร้อมกับบอกว่า ไปแล้วครับแม่ ช่วงที่เดินจากแม่และน้องมานั้น ต้นก็กดโทรศัพท์เพื่อส่ง Clip Video ไปให้น้องสาว เมื่อน้องสาวเปิดดูก็ตกใจและเรียกแม่มาดูด้วย ในคลิปนั้นเป็นฉากของต้นนั่งอยู่ในห้องของตัวเอง แล้วก็พูดว่า แม่.... ต้นไม่อยู่แม่ดูแลตัวเองด้วยนะครับ อย่ากินหวานให้มันมาก ลดแป้ง กินยาให้มันตรงเวลา ก่อนนอนก็ห่มผ้า ใส่ถุงเท้าอุ่น ๆ ................... มาถึงตรงนี้น้ำตาจากผู้เป็นแม่ก็ไหล ต้นรักแม่ครับ..... และเมื่อแม่ของต้นหันหลังกลับไปก็เจอกับลูกชายของตัวเองพร้อมกับการกอดกันระหว่างแม่และลูก และโฆษณาชิ้นนี้ก็จบลงด้วยคำพูดที่บอกว่า ที่สุดของเทคโนโลยีคือการเชื่อมความรู้สึกถึงกันอย่างราบรื่น Dtac 3G โฆษณาชุดนี้น่าจะทำให้ท่านผู้ชมหลาย ๆ ท่านถึงกับน้ำตาซึมกันไปเลยครับ ด้วย Mood & Tone ของหนังที่ดูแล้วแสดงให้เห็นถึงการแสดงออกของความรักในครอบครัว อย่างไรก็ตามด้วยโทนของหนังที่แสดงให้เห็นถึงฉากดราม่า นั้นอาจจะทำให้ท่านผู้ชมหลาย ๆ ท่านนำโฆษณาชุดนี้ไปเปรียบเทียบกับโฆษณาของไทยประกันชีวิต ผมคิดว่าเราคงบอกไม่ได้ว่าโฆษณาตัวไหนเศร้ากว่ากัน และการเศร้าหรือไม่เศร้ามันดีหรือไม่ เรื่องของดีกรีความโศกเศร้านั้นท่านผู้อ่านคงต้องลองประเมินเอานะครับว่า หนังทั้งสองชุดนั้นเป็นอย่างไร แต่ประเด็นที่ผมอยากจะพูดถึงไม่ใช่เรื่องของความเศร้าของหนังชุดนี้แต่อย่างใด สิ่งที่ผมอยากจะคุยกับท่านผู้อ่านก็คือหนังโฆษณาของ Dtac นั้นมีความแตกต่างกับหนังโฆษณาของไทยประกันชีวิต โฆษณาของไทยประกันชีวิตนั้นเป็นลักษณะของหนังประเภท Brand Talk ซึ่งหมายถึงโทนของหนังจะพยายามสื่อให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ของตัวเอง ดังนั้นหนังทุกชุดของไทยประกันชีวิตก็จำเป็นที่จะต้องรักษาโทนของหนังให้เป็นแบบนี้ต่อไป แตกต่างจากหนังของ Dtac ในชุดนี้ซึ่งเป็นลักษณะของหนังประเภท Product Talk คำว่า Product Talk นั้นหมายถึงตัวของหนังโฆษณานั้นจะเน้นในเรื่องของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก และโดยมากมักจะใช้กับการออกสินค้าใหม่ เป็นต้น อย่างเช่นหนังของ Dtac ชุดรักแม่ นั้น Key Message เพียงอย่างเดียวที่ต้องการสื่อก็คือ Dtac นั้นมีบริการ 3G แล้ว แต่การจะประกาศว่ามีสินค้าใหม่ นั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราต้องหาทางทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับสินค้าของเรา และนั่นก็คือที่มาของโจทย์ของนักการตลาดว่าเราต้องหาจุดเชื่อมต่อระหว่างสินค้าของเรากับผู้บริโภคให้ได้ (Linkage) ซึ่งในที่นี้ทาง Dtac นำเรื่องของ ความรู้สึก เอามาเชื่อมต่อโดยใช้ความผูกพันระหว่างแม่ลูกเป็นตัวตั้ง และแน่นอนว่า Linkage ที่ Dtac ใช้ในโฆษณาชุดนี้ก็คือ ความรู้สึกระหว่างแม่กับลูกนั้นก็ถูกเชื่อมต่อโดยผ่าน Dtac 3G นั้นเอง โดยปกติแล้วการมีสินค้าใหม่นั้น สิ่งสำคัญสำหรับนักการตลาดก็คือเราต้องหาทางทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์ของเรา (Involvement) ดังนั้นแทนที่จะบอกเฉย ๆ ว่าเรามี 3G แล้วทาง Dtac จึงสื่อสารออกมาว่า ความรู้สึกถูกเชื่อมโยงกันได้โดยใช้ Dtac 3G แทน จากที่ผมได้กล่าวมาจะเห็นได้ว่าโจทย์ของไทยประกันชีวิตกับโจทย์ของ Dtac นั้นต่างกัน โฆษณาของ Dtac นั้นไม่ได้เน้นไปที่การสร้างแบรนด์ แต่เป็นลักษณะของการสื่อสารว่ามีสินค้าใหม่มากกว่า ในขณะที่ไทยประกันชีวิตนั้นจะเน้นในเรื่องของการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์เป็นหลัก (Brand Identity) แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โฆษณา Dtac ชุดรักแม่นั้น ถือได้ว่าเป็นโฆษณาที่ดีและเป็นตัวอย่างของการสร้าง linkage ระหว่างสินค้าและผู้บริโภคได้อย่างน่าชื่นชมครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการชมโฆษณานะครับ ช่วงนี้เป็นช่วงของการประกวด Thailand Blog Award 2011 ท่านผู้อ่านอย่าลืมโหวตให้กำลังใจกันได้ที่ http://www.thailandblogaward.com/blogs/show/46 ตอนนี้อันดับอยู่ประมาณ 10 บ้าง 11 บ้าง ต้องอยู่ที่ท่านผู้อ่านจะกรุณานะครับ ขอบคุณทุกท่านนะครับ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | สิงหาคม 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |