ขออภัยท่านผู้อ่านจริง ๆ ครับ เนื่องจากว่าตอนแรกนั้นตั้งใจจะเขียน Entry นี้เพื่อตอบคำถามเรื่องตุ๊กกี๊กับอั้ม ตามที่ท่านผู้อ่านถามผมมาทาง e-mail แต่พอมาเจอเรื่องนี้ผมจึงขออนุญาตเขียนก่อนแล้ว Entry ต่อไปจะมาตอบให้นะครับ เรื่องที่ผมจะเขียนนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอดีตนายกของเรา คุณอภิสิทธิ์ ที่ขึ้นปราศรัยโดยใส่เสื้อแดง สัญลักษณ์ของชาวเสื้อแดง ก่อนจะเขียนต่อไปผมขอบอกก่อนนะครับว่า บทความต่อไปนี้ผมเขียนขึ้นเพื่อใช้เป็นกรณีศึกษาด้านการตลาดผ่านตัวอย่างของเรื่องการเมืองเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเขียนขึ้นเพื่อสื่อในเรื่องการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ผมเคยบอกไว้ใน Blog ของผมหลายครั้งว่า การเมืองกับการตลาดนั้นเป็นเรื่องเดียวกัน เราไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ท่านผู้อ่านที่ติดตามอ่าน Blog ของผมน่าจะพอทราบว่าผมได้เขียนเรื่องของการตลาดการเมืองหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยเลือกตั้งหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ ผมบอกตรง ๆ ว่าช่วงหลัง ๆ ที่เราเห็นการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่บุกไปหลายที่มาก ๆ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ พรบ.ปรองดอง ผมรู้สึกเลยว่า ประชาธิปัตย์ กำลังมาถูกทางแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาถ้าใครที่ติดตาม Blog ของผม ผมจะพูดอยู่เสมอว่าจุดอ่อนของแบรนด์ประชาธิปัตย์คือเรื่องของการสื่อสาร ดังนั้นสิ่งที่แบรนด์นี้ต้องเร่งทำก็คือ การกระจายการรับรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าแบรนด์ประชาธิปัตย์นั้นจะเดินหน้าปราศรัยหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สะใจเท่ากับการที่ได้เห็นคุณอภิสิทธิ์ สวมเสื้อสีแดงและขึ้นเวที เรื่องที่ผมได้เล่ามานั้นถือได้ว่าเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการตลาดเป็นอย่างมากครับ คนที่ซื้อสินค้าของเรา เราจะเรียกเค้าว่าเป็น ลูกค้า แต่ถ้าลูกค้าเหล่านั้นชอบสินค้าเราและซื้อทุกครั้งเป็นประจำ ลูกค้าเหล่านั้นจะพัฒนาไปอีกขึ้นเป็น ลูกค้าผู้ภักดีต่อแบรนด์ ลูกค้าพวกนี้เป็นลูกค้าที่ดีมาก ๆ ครับ เพราะมักจะใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อน้อยมาก เนื่องจากมี แบรนด์อยู่ในใจอยู่แล้ว (Top of Mind) ดังนั้น พอเดินเข้ามาเจอสินค้าก็จะคว้าทันที และอัตราการซื้อซ้ำจะสูงมากครับ แต่ว่าก็มีลูกค้าบางรายที่พัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งตรงนี้ผมขอเรียกว่า สาวกผู้ภักดีต่อแบรนด์ อันนี้ถือว่าเป็นขั้นสูงสุดครับ เพราะลูกค้าประเภทนี้ถือว่าเป็นลูกค้าชั้นเทพ เรีย่กได้ว่าแบรนด์นี้ออกสินค้าอะไรมาก็ดีไปซะทุกอย่าง พร้อมจะเป็นกระบอกเสียงของแบรนด์เรา แบรนด์ไหนก็ตามที่มีลูกค้าประเภทนี้เยอะ ๆ มักเป็นแบรนด์ที่ดังระดับโลกครับ ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ แบรนด์ของแอปเปิ้ล แบรนด์นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีสาวกมากที่สุดในโลก ลูกค้าที่กลายเป็นสาวกของแอปเปิ้ลแล้ว ไม่ว่าคู่แข่งจะออกสินค้าอะไรมาก็ไม่สนใจ ต้องเป็นแอปเปิ้ลเท่านั้นถึงจะยอมจ่ายเงินซื้อ แน่นอนว่าทุก ๆ แบรนด์อยากมีสาวกเป็นของตัวเอง แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่อยู่ดี ๆ สาวกของเราจะเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นโจทย์ของนักการตลาดก็คือ เราจะพัฒนาระดับของความภักดีของแบรนด์เราอย่างไร ก่อนจะเข้าตัวอย่างทางการเมือง ผมอยากให้ท่านผู้อ่านลองอ่านคำถามเหล่านี้ดี ๆ นะครับ คุณคิดว่า ลูกค้าที่ใช้ iPhone ทุกคนเป็นสาวกแอปเปิ้ล ใช่หรือไม่ คุณคิดว่า ลูกค้าที่ใช้ Samsung S Series ทุกคนเกลียดแอปเปิ้ลเข้าไส้ใช่หรือไม่ คำตอบของสองคำถามข้างต้นนั้นตอบง่ายมากครับ คำตอบก็คือ ไม่ใช่ อย่างแน่นอน ยังคงมีหลายคนที่ซื้อ iPhone เพราะเรื่องของการใช้งาน เรื่องของรูปลักษณ์ หรือเรื่องของ Function และแน่นอนว่าผู้ที่ซื้อ Samsung ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นอย่าได้คิดว่า คนที่เลือกพรรคเพื่อไทยทุกคนเป็นสาวกของเพื่อไทย หรือ คนเสื่อแดงทุกคนเป็นสาวกของเพื่อไทย ผมเคยเขียนไว้ใน Blog แห่งนี้นี่แหละว่า แบรนด์ประชาธิปัตย์จะโค่นแบรนด์เพื่อไทยได้ ก็ต้องแย่งส่วนแบ่งการตลาดมาจากแบรนด์เพื่อไทย การสวมเสื่อแดงของคุณอภิสิทธิ์นั้นมีนัยแบบนั้นแหละครับ การสวมเสือแดงของคุณอภิสิทธิ์นั้น หมายถึง แบรนด์ประชาธิปัตย์มีความมั่นใจว่าแบรนด์ของตัวเองดีพอที่คนเสื่อแดงจะเลือกพวกเค้า และเค้าไม่ได้เป็นศัตรูกับคนเสื่อแดง ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าตอนนี้แบรนด์ประชาธิปัตย์ไม่คิดว่าคนเสื้อแดงทุกคนจะชอบแบรนด์เพื่อไทย และนั่นน่าจะเป็นความคิดที่ถูกต้องซะด้วยซิ มาลองประเมินดูจะครับว่าทำไม ต้องมีเสื้อแดงด้วย เสื่อแดงนั้นในแง่ของการตลาดจะหมายถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งถูกหล่อหลอมด้วยการสื่อสารซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น คนเสื่อแดง รักประชาธิปไตย คนเสื่อแดง รักทักษิณ คนเสื่อแดง ต่อต้านเผด็จการ ที่ผมได้ยกมานั้นคือตัวอย่างของการสื่อสารของทางฝั่งแบรนด์เพื่อไทย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างแบรนด์เสื่อแดงให้มีตัวตน (Brand Identity) และแน่นอนว่าเมื่อคนเสื้อแดงเริ่มมีตัวตน การสื่อสารของแบรนด์เพื่อไทยต่อไปก็คือพยายามสร้างคนเหล่านี้มาเป็นสาวก ก่อนที่จะพัฒนาไปมากกว่านี้ แบรนด์ประชาธิปัตย์ต้องเปิดเกมรุกให้มากขึ้นไปอีก หลังจากนี้ผมเชื่อว่าการเข้าไปลุยปราศรัยในถิ่นของคนเสื่อแดงเป็นสิ่งสำคัญ และต้องทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนถึงเลือกตั้ง กลยุทธ์เหล่านี้แม้ว่าอาจจะไม่สามารถชักจูงสาวกเสื่อแดงให้มาชอบแบรนด์ประชาธิปัตย์ได้ แต่ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคนเสื่อแดงที่ยังไม่ได้เป็นสาวกนั้นมีโอกาสเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าฝั่งแบรนด์ประชาธิปัตย์ สังเกตได้ทันทีว่าหลังจากที่มีภาพคุณอภิสิทธิ์สวมเสื่อแดงขึ้นปราศรัย ก็มีคนของทางฝั่งแบรนด์แสดงความไม่พอใจทันที และพยายามจะต่อว่าเสีย ๆ หาย ๆ ไม่น่าแปลกใจที่ทางฝั่งแบรนด์เพื่อไทยจะโวยวายครับ เพราะถ้าอยู่ดี ๆ มีบริษัทอื่นผลิตสินค้าที่มีชื่อแบรนด์คล้าย ๆ กับแบรนด์เรา เราในฐานะเจ้าของแบรนด์ก็คงจะหัวเสียอย่างแน่นอน ฐานะของนักการตลาด สิ่งที่ผมอยากเห็นต่อไปก็คือการเดินสายแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ กลุ่มคนเสื่อแดงนั้นกว่าจะเติบโตก็ต้องอาศัยการสื่อสารที่ปลูกฝังกันนานพอสมควร ทางแบรนด์ประชาธิปัตย์ก็ต้องสื่อสารต่อไป ทำให้คนทุกกลุ่ม รวมทั้งคนเสื่อแดงเห็นว่าจุดยืนของแบรนด์ตัวเองเป็นอย่างไร ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้การต่อสู้ของสองแบรนด์นี้จะเข้มข้นขึ้นไปอีกครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการชมโฆษณานะครับ เช่นเคย คุยโฆษณากับผมได้ทั้ง e-mail และ Twitter: @oam_oamm นะครับ ตอบช้าอย่าว่ากันนะครับ แต่ผมพยายามตอบทุก mail นะครับ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | สิงหาคม 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |