ทีมา: http://www.prachachat.net/news-photo/prachachat/2013/01/pol01240156p1.jpg เนื่องจากเรื่องของการเลือกตั้งกำลังอยู่ในความสนใจ ผมเองจึงขอให้โอกาสนี้เขียนเรื่องนี้อีกครั้งนะครับ สำหรับหัวข้อที่เราจะคุยกันในวันนี้ก็คือเรื่องของ การตัดคะแนนของคุณชายเบอร์ 16 ซึ่งแน่นอนครับ ก่อนจะอ่านบทความของผม ขออนุญาตชี้แจงก่อนนะครับว่าบทความนี้มีเจตนาเขียนขึ้นเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาด ไม่ได้ต้องการชี้นำหรือวิเคราะห์เรื่องของการเมือง ดังนั้นตัวอย่างทางการเมืองที่ผมยกขึ้นมาก็เพื่อต้องการให้ท่านผู้อ่านเข้าใจในเรื่องการตลาดนะครับ อย่างที่ผมได้บอกกับท่านผู้อ่านผ่าน Blog ของผมหลาย ๆ ครั้งว่าการตลาดและการเมืองมันกลายเป็นเรื่องเดียวกันไปแล้วครับ หลาย ๆ ครั้งถ้าเราไม่วิเคราะห์ให้ดี เราจะโดนการตลาดการเมืองทำให้เราไขว้เขวได้ครับ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ โจทย์ของผมในวันนี้คือเรื่องของการตัดคะแนนของผู้สมัครครับ ในการชิงชัยของสนามเลือกตั้ง วิธีชนะนั้นมีสองแบบก็คือ 1 ทำคะแนนให้ได้มากกว่าคู่ต่อสู้ 2 ลดคะแนนคู่ต่อสู้ให้เหลือน้อยกว่า อาจจะมีบางคนสงสัยว่า ทำไมไม่ทำพร้อมกันเหรอ จริง ๆ แล้วแต่ละแบรนด์ (พรรคการเมือง) ก็พยายามทำทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ เพียงแต่ว่าบางครั้งถ้าข้อ 1 มันทำยากก็มาเน้นจัดการข้อ 2 ซะ อาจจะช่วยให้ชนะได้เหมือนกัน ผมตั้งข้อสงสัยอย่างหนึ่งว่า ทำไมชอบมีผู้สมัครหลาย ๆ รายมาตัดคะแนนฝ่ายแบรนด์ประชาธิปัตย์อยู่เรื่อย จริงหรือที่ผู้สมัครรายอื่น ๆ จะเข้ามาตัดคะแนนคุณชายอย่างเดียว ไม่ได้ตัดคะแนนคุณจูดี๊เลย คำตอบก็คือ ผู้สมัครรายอื่น ๆ มีแนวโน้มที่จะตัดคะแนนคุณชายมากกว่าคุณจูดี๊ ครับ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ ผมอยากให้เราลองพิจารณาดูลักษณะของกลุ่มผู้บริโภคดังนี้ครับ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้บริโภคที่ตัดสินใจเลือกแบรนด์ประชาธิปัตย์นันโดยมากมักคนละกลุ่มกับแบรนด์เพื่อไทย โดยแบรนด์ประชาธิปัตย์จะมีฐานของผู้บริโภคในตลาดกลางถึงบน ในขณะที่แบรนด์เพื่อไทยจะมีฐานผู้บริโภคเป็นตลาดล่างซะส่วนใหญ่ แน่นอนว่ากลุ่มฐานผู้บริโภคของทั้งสองแบรนด์นั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความภักดีต่อแบรนด์ของแต่ละกลุ่ม ถ้าลองสังเกตดูพฤติกรรมของคุณจูดี๊ในฐานะตัวแทนของแบรนด์เพื่อไทย จะพบว่าเค้าพยายามหลีกเลี่ยงไม่ปะทะกับแบรนด์ประชาธิปัตย์ ยิ่งถ้าเป็นการโชว์วิสัยทัศน์ก็ยิ่งพยายามจะหลีกเลี่ยง ทั้งนี้ในเหตุผลของการตลาดแล้วถือว่าคุณจูดี๊ต้องการจะสื่อให้เห็นว่าแบรนด์เพื่อไทยไม่เจาะตลาดกลุ่มกลางและบนอย่างแน่นอน เพราะกลุ่มผู้บริโภคที่จะฟังวิสัยทัศน์น่าจะเป็นกลุ่มตลาดของแบรนด์ประชาธิปัตย์ ดังนั้นสู้ปล่อยให้ Fighting แบรนด์อื่น ๆ เข้าไปชนดีกว่า ส่วนตัวเองก็หนีมาโกยคะแนนกับกลุ่มลูกค้าตัวเองแทน ผมไม่ได้เป็นกูรูทางการเมืองจึงไม่สามารถบอกได้ว่าผู้สมัครแต่ละรายรายไหนส่งมาจากฝ่ายใด แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์ในแง่ของการตลาด สิ่งที่จะบอกได้ก็คือ ผู้สมัครอิสระทั้งหลายนั้นถูกส่งมาเพื่อทำลายแบรนด์ประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง ผมอยากให้ทุกท่านของพิจารณาดูตำแหน่งทางการตลาดของผู้สมัครอิสระดี ๆ นะครับ เราจะพบว่าบางรายพยายามจะวางตำแหน่งตัวเองเป็นพวกไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ด่าพรรคการเมืองทั้งสองพรรค ผมฟังดูแล้วรู้สึกคุ้น ๆ กับอารมณ์ประมาณนี้เลยตอนเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ในการเลือกตั้งสนามใหญ่ครั้งที่แล้วก็มีบางฝ่ายออกมาแสดงจุดยืนประมาณนี้เหมือนกัน โดยตอนนั้นเลือกด่าทุกฝ่ายแล้วก็ให้โหวตโน สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือฝ่ายที่เสียเปรียบก็คือแบรนด์ประชาธิปัตย์อยู่แล้วครับ เพราะกลุ่มผู้บริโภคของแบรนด์เพื่อไทยไม่ยอมโหวตโนอย่างแน่นอน ดังนั้นการวางตัวแบบด่าพรรคการเมืองสองพรรคนั้นในแง่การตลาดแล้วถือว่าเป็นการโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ทางอ้อมครับ ทีนี้มาลองดูกลุ่มผู้บริโภคอีกกลุ่มครับ กลุ่มที่ว่าก็คือกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ๆ ที่พยายามเสพข่าวจาก Social Media มีข้อมูลเยอะ ๆ กลุ่มคนพวกนี้มักทราบดีว่าแบรนด์เพื่อไทยทำอะไรกับคนกรุงเทพบ้าง ผลกระทบในแง่เศรษฐกิจกับโครงการต่าง ๆ ตอนเป็นรัฐบาลเป็นอย่างไร แน่นอนว่าแนวโน้มของกลุ่มนี้น่าจะไม่เอาแบรนด์เพื่อไทยแน่ ๆ ดังนั้นกลุ่มนี้ก็มีโอกาสที่จะเลือกแบรนด์ประชาธิปัตย์ แต่ว่าก็เหมือนกับเป็นเรื่องบังเอิญ ที่อยู่ดี ๆ ก็มีผู้สมัครอิสระ(อีกแล้ว) ที่วางตัวเป็นทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่ ดูแนว ๆ หน่อย ซึ่งน่าจะเรียกคะแนนจากผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้อย่างพอดี สิ่งที่ผมพยายามจะสื่อในบทความนี้ก็คือ ถ้าเรามองหมากกระดานนี้ให้ทั่วทั้งกระดาน เราจะพบว่าสงครามครั้งนี้ถูกวางด้วยกลยุทธ์ที่แยบยลมากครับ พอมาพิจารณาดูแบรนด์ประชาธิปัตย์และคุณชายก็จะเห็นได้ทันทีเลยว่าถูกรุมทั้งล่างทั้งบน เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกครับ ถ้าลองพิจารณาถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ครั้งก่อนลักษณะของการวางตำแหน่งทางการตลาดก็มาแนวนี้เหมือนกัน และถ้าประเมินเอาการเลือกตั้งสนามใหญ่ครั้งล่าสุดก็ยิ่งเห็นภาพที่ชัดขึ้นครับ ผมเชื่อว่าแบรนด์ประชาธิปัตย์นั้นตระหนักได้ถึงเรื่องนี้โดยล่าสุดในการปราศรัยนั้นมีการเรียกร้องขอให้อย่าเลือกผู้สมัครอิสระเพราะมันเสียคะแนน ถ้าประเมินจากมุมของการตลาดแล้วเรื่องที่ตัวแทนจากแบรนด์ประชาธิปัตย์พูดในการปราศรัยนั้นเป็นเรื่องจริงครับ สงครามครั้งนี้มีแต่แบรนด์ประชาธิปัตย์ และแบรนด์เพื่อไทย เท่านั้นครับ ไม่มีคนอื่น ผู้สมัครรายอื่นเป็นเรื่องของการตลาดเท่านั้นครับ ไม่รู้ว่าผมสรุปรวบรัดเกินไปไหม แต่ขอบอกในแง่การตลาดนะครับ (ไม่เกี่ยวกับการเมือง) ถ้าเราพิจารณาศึกครั้งนี้ในแง่การตลาด มันชวนให้คิดแบบนี้จริง ๆ ครับ เช่นเคย ท่านผู้อ่านสามารถพูดคุยเรื่องโฆษณากับผมผ่านทาง Twitter ได้นะครับ ที่ oam_oamm หรือจะส่ง e-mail มาคุยกันได้ครับ อาจจะตอบช้าหน่อยแต่ตอบกลับแน่นอนครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการชมโฆษณานะครับ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กุมภาพันธ์ 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 |