. . เช้านี้ เมื่อลมหนาวโชยมาถึงทุ่งบางพลี อากาศเย็นผ่านม่านหน้าต่างกระทบผิวกาย ให้หวลคำนึงถึงการเดินทางที่ผ่านมาเมื่อวันวาน อากาศหนาว เป็นสิ่งที่ปรารถนาของคนเมืองร้อน หนาวคราใด ผมจะคิดถึงบรรยากาศเมืองเหนือ และจะต้องเดินทางไปห่มหนาวเกือบทุก ๆ ปี เดือนที่ผ่านมา ในปีนี้ ผมเดินทางบ่อย ไปหลายจังหวัด มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี เมืองเลย เดินทางไปหาความหนาวเย็น แต่ยังไม่ถึงขั้นประทับใจนัก เมืองไทยปีนี้ อุณหภูมิแปลก ๆ ไปตามสภาวะของโลก ทริปที่ตื่นเต้นไปหน่อย คือการย่ำภูกระดึงเมื่อ 25-28 พฤศจิกายน กลับจากภูกระดึง ถึงบางพลี ตี 3 ครึ่งของวันจันทร์ที่ 29 พ.ย. แอบงีบหลับได้นิดเดียว นาฬิกาบอกเวลา 6 โมงเช้าของวันเดียวกัน คว้ากระเป๋าจูงมือแม่มะยงเดินทางต่อไปเมืองกาญจนบุรี . หลาย ๆ ท่านอยากจะสัมผัสหนาว แต่ไม่อยากจะเดินทางไกล ลองตามมาดูเส้นทางนี้ซีครับ น่าสนใจมาก ๆ ผมออกจาก กทม.ในตอนเช้า ถึงเมืองกาญจน์ตอนสาย แวะทานของว่างนิดหน่อยที่ ททท.สำนักงานกาญจนบุรี ได้พบกับครูทิพย์ และป้าแอ๊ด พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ของ ททท. คุณเรวัติ...คุณสมบัติ... เราออกเดินทางต่อ โดยมี คุณอิสสระพงษ์ แทนศิริ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี เป็นหัวหน้าคณะ คณะของเราใช้ทางหลวง 323 จากเมืองกาญจน์ มุ่งสู่อำเภอทองผาภูมิ เที่ยงกว่า ๆ แวะทานอาหารที่ "สวนอาหารบงตง" . เมื่อท่านขับรถข้ามสะพานทองผาภูมิ ขวามือจะเป็นทางแยกเข้าตัวอำเภอทองผาภูมิ ให้ท่านหันมองทางซ้าย จะเห็นทางแยกมีป้ายบอกทางเข้า "บงตง" เลี้ยวเข้าไปเลยครับ เมื่อเข้าไปนั่งในร้าน จะมองเห็นแม่น้ำแควน้อยสวยงามจับตายิ่งนัก . อาหารที่บงตงอร่อยทุกอย่าง ยิ่งหิวจัด ๆ จะยิ่งอร่อย เที่ยงวันนั้นผมฟาด ไก่อบโค๊ก ตัวนี้เข้าไปเต็มรักอย่างไม่เกรงใจใครเลยครับ . ทองผาภูมิ เป็นอีกหนึ่งอำเภอของกาญจนบุรี มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 3,655 ตารางกิโลเมตร แต่ประชากรไม่มากนัก ประกอบด้วย 7 ตำบล คือ ท่าขนุน สหกรณ์นิคม หินดาด ลิ่นถิ่น ชะแล ห้วยเขย่ง และปิล็อก คำขวัญประจำอำเภอบอกไว้ว่า "น้ำพุร้อนหินดาด ตลาดอีต่อง โบอ่องเจดีย์ ราชินีปูไทย เพลินใจแควน้อย เกินร้อยภูผา งามสุดตาเขื่อนวชิราลงกรณ์" . ผมมาเที่ยวทองผาภูมิบ่อย ๆ เที่ยวไปหลาย ๆ แห่งตามที่ปรากฏในคำขวัญอย่างสนุกสนาน แต่ที่ ตำบลปิล็อก..ตลาดอีต่อง..โบอ่องเจดีย์ ซึ่งอยู่สุดเส้นทางหลวง 3272 ผมยังไปไม่ถึง วันนี้ผมได้ไปแล้วครับ ผ่านตำบลห้วยเขย่งไปก่อนนะครับ ผมเพิ่งจะมาดูปูราชินี และล่องแพ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง ( http://www.oknation.net/blog/panakom/2010/07/02/entry-2 ) . . ถนนที่จะไปถึงปิล็อก เขาเรียกว่า ถนน 399 โค้ง โอ...ผมเริ่มตื่นเต้นซะแล้วซีครับ . เพื่อนร่วมเดินทางในรถหลาย ๆ คนปิดตา และหลับ โดยเฉพาะ แม่มะยง...หลับปุ๋ย..เพราะยังอ่อนเพลียจากการเดินที่ภูกระดึง ส่วนผมไม่ยอมหลับเด็ดขาด การเดินทางกลางวัน และได้นั่งดูบรรยากาศสองข้างทาง เป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบ นอกจากจะได้เห็นสรรพสิ่งต่าง ๆ ได้เห็นวิถีชีวิตที่ไม่เคยได้เห็นแล้ว ยังเป็นการได้บันทึกเส้นทางการเดินทางด้วยสายตาไปในตัว . มีผู้คนที่เคยไปปิล็อกบอกกับผมว่า ถนนที่ไปปิล็อกเปลี่ยว และน่ากลัว แต่การเดินทางวันนี้ ผมได้พิสูจน์ด้วยตัวผมเองว่า ไม่เปลี่ยว ต้นไม้น้อยใหญ่สองข้างทางที่โน้มตัวเข้าหากัน มองคล้ายอุโมงค์ต้นไม้ ทำให้อบอุ่นสบายตา ทางเล็ก ๆ ที่ลัดเลาะคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ท้าทายผู้ที่ชอบขับรถ เพียงเพิ่มความระมัดระวังในการบังคับรถให้มากขึ้นอีกนิด ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตามโค้งหักศอกหลาย ๆ โค้ง มีกระจกโค้งซึ่ง อบต.ปิล็อกนำมาติดตั้งอำนวยความสะดวกต่อมุมมองที่ลับตา ผมว่าสวยงาม และยืนยันว่าไม่น่ากลัวครับ . นั่งสบาย ๆ ไปเกือบครึ่งทาง เราก็ถึงจุดชมทิวทัศน์ ท่านเห็นกระจกโค้งไหมครับ ติดไว้มากมายในทุก ๆ โค้งที่หักข้อศอก ที่กระจกพ่นตัวอักษรสีแดงไว้ว่า "กรุณาอย่าทำลาย" จะเป็นการเตือนใจ หรือวิงวอนร้องขอ สุดแล้วจะพิจารณาเถอะครับ . ที่จุดชมวิวทางขึ้นเหมืองปิล็อกนี้ ตั้งอยู่ประมาณ กม. 15 เป็นจุดที่ควรพักรถ พักคนขับ พักคนนั่งในรถ เดินออกจากรถมายืดเส้นยืดสายกันซะหน่อย ทอดสายตาไปในทะเลภูเขาไกล ๆ มองให้พบความสุขซึ่งมีอยู่มากมายในธรรมชาติ สิ่งที่ท่านได้พบได้เห็นบนจุดชมวิว จะทำให้ท่านเกิดความคิดในการวางแผนเดินทางมาเที่ยวปิล็อกหนาวนี้ก็ได้ ที่จอดรถสะดวกสบาย ที่กางเต้นท์สวยงาม น่าสนใจนะครับ . พฤติกรรมของนักเดินทางแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบความตื่นเต้น จะไม่ยอมรับรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใดก่อนออกเดินทาง ขอไปตื่นเต้นกับสิ่งข้างหน้า พูดง่าย ๆ ว่า เขาจะไม่เตรียมตัวอะไรเลย บางคนมีความพร้อมในการเดินทาง กำหนดจุดมุ่งหมายของสถานที่ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว สอบถามหาอ่านรายละเอียด จองที่พักไว้ล่วงหน้า จัดเตรียมร้านอาหารที่จะไปทานในแต่ละมื้อ บางท่านศึกษาข้อมูลล่วงหน้า อ่านประวัติศาสตร์ความเป็นมาของแต่ละสถานที่ ศึกษาเส้นทาง รวมไปถึงการขอทราบอุณหภูมิของสถานที่นั้น ๆ การเตรียมพร้อมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะจะทำให้เราท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน เกิดความรู้ เกิดปัญญา อย่างน้อยที่สุด ควรจะทราบแผนที่ในการเดินทางไว้บ้างก็ดีนะครับ . เมื่อไต่ระดับไหล่เขามาถึงจุดชมวิวปิล็อก สิ่งที่ท่านจะได้พบคือแผนที่ของตำบลปิล็อก . เป็นแผนที่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาง่าย ๆ แต่มีจุดที่น่าสนใจครบถ้วน อยากจะไปเที่ยวจุดใด แทบจะหลับตาเห็น ผมขอชมเชย อบต.ปิล็อกอีกครั้ง . ด้วยมุมมองที่กว้างกว่า 180 องศา ทำให้ได้เห็นทะเลภูเขา สุดลูกหูลูกตา ได้เห็นอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนวชิราลงกรณ์ หากท่านได้ไปยืนมอง มองกวาดสายตาช้า ๆ นะครับ มองให้ทั่ว ท่านจะรักในธรรมชาติของประเทศไทย . ที่สำคัญ คือความสุขจากการได้ถ่ายรูป หรือได้ถูกถ่ายรูป..ไงจ๊ะ . หายเหนื่อย และพึงพอใจสุด ๆ จากการบันทึกภาพทุกแง่มุมแล้ว เราออกเดินทางกันต่อตามเส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวโค้ง สักครู่หนึ่งก็ถึง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่ทำการอยู่ด้านขวามือ ขับรถเข้าไปเลยครับ . . อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยเขย่งและป่าเขาช้างเผือก ในเขตท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 1,120 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อ ทิศเหนือจดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทิศใต้จดอุทยานแห่งชาติไทรโยค ทิศตะวันออกจดอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทิศตะวันตกจดเขตแดนไทย-พม่า
แนวเขาวางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี มีพื้นที่ราบลุ่มเป็นจำนวนน้อย ความสูงของพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-1,249 เมตร มีเขาช้างเผือกซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของพื้นที่เป็นยอดเขาสูงสุด สูง 1,249 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยอดเขาที่สำคัญ ได้แก่ เขาช้างเผือก เขานิซา เขาพุถ่อง เขาด่าง เขาปากประตู เขาเลาะโล เขาประหนองโทคี เขาชะโลง ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยต่างๆ เช่น ห้วยมาลัย ห้วยกบ ห้วยซ่าน ห้วยองค์พระ ห้วยปีคี ห้วยปากคอก ห้วยเจ็ดมิตร ฯลฯ โดยไหลลงสู่ที่ราบทิศตะวันออก ลงสู่เขื่อนเขาแหลม และลำน้ำอีกส่วนไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย . . ท่าน ผอ.อิสสระพงษ์ฯ เล่าให้พวกเราฟังด้วยความภาคภูมิใจว่า ที่เนินช้างเผือกซึ่งเราเห็นอยู่เบื้องหน้านั้น ท่านเคยเดินขึ้นไปปักธงชาติไทยและธงของ ททท.มาแล้ว เป็นเทือกเขาที่น่าลองเดิน ระยะทางเพียง 8 กิโลเมตร โดยเดินขึ้นจากบ้านอีต่อง หากนักเดินทางที่ชอบความตื่นเต้น ชอบในสิ่งท้าทาย น่าลองมาก ๆ ท่าน ผอ.บอกว่า เส้นทางไม่โหดร้ายนัก แต่หวาดเสียวดี พวกเราฟังท่านเล่าแล้วก็อยากจะลองสักครั้งเหมือนกัน เจ้าหน้าที่อุทยานฯบอกว่า ท่านที่ประสงค์จะพิชิตเนินช้างเผือก ให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ จะมีคนนำทางให้ (ค่าใช้จ่ายคนนำทาง 500 บาท ลูกหาบคนละ 500 บาท แล้วแต่คณะจะใช้กี่คนตามจำนวนของสัมภาระ) คงจะคล้าย ๆ กับการจ้างลูกหาบขึ้นภูกระดึง แต่ลูกหาบภูกระดึงคิดเงินตามจำนวนน้ำหนักสิ่งของ กิโลกรัมละ 15 บาท ส่วนการพิชิตเนินช้างเผือก ลูกหาบคิดค่าตัวลูกหาบ เพราะลูกหาบจะขึ้นไปนอน ไปอยู่กับเราตลอดเวลาที่อยู่บนภูเขาลูกนั้น . บ่ายคล้อยพอสมควร คณะของเราเดินทางมาถึงหน้าสถานีตำรวจภูธรปิล็อก ณ จุดนี้ พวกเราจะต้องเปลี่ยนรถ จากรถตู้เป็นรถโฟล์วิล เพื่อเดินทางไปที่ "ฟอเรสท์เกลด หรือเหมืองสมศักดิ์" ชื่อ เหมืองสมศักดิ์ ผมไม่คุ้นเคยเหมือนกับชื่อเหมืองปิล็อก ทำให้ผมต้องทำการบ้านโดยค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ท แทบไม่น่าเชื่อว่า คำว่าเหมืองสมศักดิ์ หรือบ้านป้าเกล็น คือที่พักในหุบเขาที่เป็นที่ถวิลหาของนักเดินทางมาช้านาน "บ้านเล็กในป่าใหญ่" http://www.parglen.com/index.html คือเวปไซดิ์ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของเหมืองสมศักดิ์ ป้าเกล็น คุณชาลี เป็นเวปไซดิ์ที่สมบูรณ์แบบ ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวได้ครบถ้วน . โดยรถโฟล์วิลที่ทางคุณชาลีจัดมาต้อนรับ เราออกจาก สภ.ปิล็อกย้อนกลับไปทางเดิมอีกครั้ง เพียงไม่ถึง 50 เมตร ก็เจอกับป้ายบอกทางไป " เหมืองสมศักดิ์ 5.1 กม. อาหาร ขนม อร่อย " บอกแค่นั้นจริง ๆ ครับ ผมอยากจะเขียนบรรยายความรู้สึกในขณะที่นั่งรถโยกไปเยกมา ข้าง ๆ กาย มีลูกน้องป้าเกล็นซึ่งเดินทางมากับรถ เขาช่างพูดช่างเจรจา ช่างอธิบายความ บอกเล่าเก้าสิบแบบเด็กพม่าบ้านป่า บอกเล่าเส้นทาง บอกเล่าความรู้สึก . . ท่านมีรถโฟล์วิล สามารถขับรถลงเหมืองได้เอง ให้สังเกตุซ้ายมือ ก่อนจะผ่านประตูสีฟ้า จะมีป้ายเขียนมา ว่าเหมืองสมศักดิ์ให้ท่านเลี้ยวซ้ายไปลงไปตามลูกศร ซึ่งหนทางข้างหน้านี้อาจจะเป็นใจให้นักออฟโรดซะเหลือเกิน มือสมัครเล่นก็ค่อยๆขับไป . ขับรถผ่านป่าเขาลำเนาไพรได้สักระยะ (ถ้าท่านไม่เมารถไปซะก่อน) ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติของพันธุ์ไม้มากมาย ธรรมชาติที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ตลอดทั้งเส้นทาง... ขอแนะนำให้ให้เปิดกระจกรถเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธ์ (เสริฟอากาศสดชื่นเป็นออเดิร์ฟ) . เมื่อเดินทางมาได้สักพัก เพื่อเป็นการทำให้ท่านได้รู้ว่า ท่านได้เดินทางมาครึ่งทางแล้ว และกำลังจะได้ลงสู่หุบเขาสุดท้ายของการเดินทางวันนี้.. ขวามือท่านจะเห็นป้ายของเหมืองสมศักดิ์ซึ่งจะเขียนว่า "Welcome to Somsak mining" นั่นหมายถึงว่าจุดหมายอยู่แค่เอื้อม อาหารร้อน ขนมเค้กอร่อยๆกำลังรอท่านอยู่เบื้องล่างนี้แล้ว.. อย่าลืมสังเกตุป้ายต่อท้ายที่ว่า(ลงได้เฉพาะ 4WDเท่านั้น) มันเป็นคำเตือนที่ทุกท่านควรจะใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง.. รถทุกคันเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำกันแล้ว เราลุยกันต่อเลยดีกว่า เดินทางมาเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวซ้าย ไม่ต้องเลี้ยวขวา เพราะไม่มีแยก ให้ขับไปตามทางเรื่อยๆ..บังคับพวงมาลัยให้มั่น ประคองเบรกแต่พองาม แล้วคุณจะติดใจการเดินทางครั้งนี้อย่างแน่นอน . ถึงแล้วขวามือของท่านจะเห็นป้ายเหมืองสมศักดิ์ ด้านหน้าจะเป็นลำธารเล็กๆ (เป็นด่านสุดท้ายของนักออฟโรด) ดูเหมือนไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย อย่าประมาทเชียว นอกจากต้องตั้งสติแล้ว ยังต้องตั้งลำรถของท่านให้ดีๆก่อนหมุนพวงมาลัยเลียวไปทางขวาตามป้าย (กลิ่นอาหารหอมๆโชยมาแล้ว) . . เป็นไงครับท่านที่เคารพ ภาพประกอบนั้นผมถ่ายเอง แต่คำใต้ภาพ ผม COPY มาจากเวปไซดิ์ แต่ในขณะเดินทาง ไกดิ์พม่าที่นั่งมาข้าง ๆ ผม เขาก็พูดเช่นนี้ . เห็นแล้วป้าแหม่มเกล็น เจ้าของบ้าน คนต้นแบบคนค้นคน ออกมาต้อนรับพวกเราด้วยอัชฌาศัยไมตรีอันดี . แม่มะยงกระโดดเข้ากอดป้าเกล็น เหมือนจะคิดถึงป้าเกล็นขนาด ปากบอกป้าเกล็นว่า "กอดป้าเกล็นแล้วอุ่นจัง" ป้าเกล็นตอบว่า "คงจะเป็นเพราะไขมันเยอะ จึงอุ่น" ผมยืนฟังแล้วรู้สึกดีมาก ๆ ครับ . การเดินทางมาที่บ้านเล็กในป่าใหญ่ครั้งนี้ คณะของเราแต่ละคนย่อมที่จะมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน บางคนมาเพราะอยากเห็นบ้านป้าเกล็น บางคนมาเพราะอยากทานเค็กป้าเกล็น บางคนมาเพราะอยากมาอีก บางคนมาเพราะตามหาบางสิ่งบางอย่างในชีวิต บางคนก็ไปไหนไปกันตามที่เขาจะพาไป ผมกับแม่มะยงอาจจะมีความรู้สึกแตกต่างออกไป ผมมาเพราะต้องการเก็บเกี่ยวความสุขที่จะได้รับให้มากที่สุด เดินทางโดยไม่มีคำถามให้รกสมอง รู้เพียงว่า ไม่ว่าในป่าเขาลำเนาไพร หรือที่แห่งใด หากเรามีความรักให้ใคร เราจะได้ความรักนั้นตอบแทนกลับมา . เค็กป้าเกล็นที่เขาร่ำลือกันว่าอร่อยนักอร่อยหนา หากคนที่ชอบทานเค็ก ก็จะบอกว่าอร่อย คนที่ไม่ชอบเค็ก ก็จะบอกว่าไม่อร่อย มันอยู่ที่ลิ้นของแต่ละคน ผมถามป้าเกล็นว่า "ทำไมเขาลือว่าเค็กป้าเกล็นอร่อย?" ป้าเกล็นตอบว่า "เป็นสูตรดั้งเดิมของอังกฤษ ที่ป้าได้รับตกทอดมานานแล้ว" แต่ที่ผมได้เห็นบนโต๊ะนั้น คือเค็กส้ม...สำหรับคนที่ชอบรสเปรี้ยว ๆ .. แครอทเค้ก ท้อปปิ้งมะนาว...สำหรับคนที่ไม่ชอบเค้กหวาน ... เค้กช้อกโกแลต..อันเป็นรสชาติที่ไม่มีใครปฎิเสธนัก... เค็กกล้วยน้ำว้า..สำหรับคนที่ชอบรสกล้วย พูดง่าย ๆ ว่า ป้าเกล็นทำเค็กหลากรส สำหรับหลากลิ้นนั่นเอง ผมได้ยินป้าเกร็นบอกผมว่า "ตามสบายนะคะนะ ไม่ต้องเกรงใจนะคะนะ ขอให้มีความสุขที่นี่ ป้าขอตัวไปดูเค็กบนเตาสักนิด เดี๋ยวเค็กจะไหม้ ตามสบายนะคะนะ" แล้วผมก็ถึงบางอ้อที่เหมืองสมศักดิ์นี่เอง เค็กป้าเกล็นอร่อยเพราะป้าเกล็นใส่ใจในการปรุงเค็กทุกขั้นตอน ใช่ว่าจะปล่อยให้คนงานพม่าเป็นคนปรุงรส หรือปล่อยให้สุกในเตาอบตามยถากรรม การปรุงอาหารให้อร่อย ผู้ปรุงต้องใส่ใจครับ มันจึงจะอร่อย
. บ้านป้าเกล็นถูกปรับปรุงดัดแปลงมาจากโรงเก็บแร่เก่า มีสีสรรค์ให้ถ่ายภาพได้มากมายครับ . ผมแอบเห็นป้าแอ๊ด กำลังตามหา บางสิ่งบางอย่าง ในเหมืองแร่แห่งนี้ . และแอบเห็นแม่มะยงกำลังง่วนอยู่แถว ๆ โต๊ะที่วางเค็ก..นั่นแหละ . . ทักทายกันหอมปากหอมคอ ทานเค็กและดื่มกาแฟกันเต็มท้องกันถ้วนทั่ว เราก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก โดยมีเสียงป้าเกล็นพูดสั่งเสียว่า " ตามสบายนะคะนะ อาหารเย็น 1 ทุ่ม ทานให้เยอะ ๆ ทานให้หมด ไม่ต้องเกรงใจ ไม่มีเวลาเลิก ไม่มีข้อห้ามอะไร ตื่นนอนกี่โมงตามสบายนะคะนะ" ผมและแม่มะยง เขาจัดให้เข้าพักบ้านริมเนิน ห้องนอนเรียบง่าย สวยหรู ห้องน้ำมีน้ำอุ่น ผมมาทราบราคาตอนหลังว่า ห้องละ 1,600 บาท เอง........ . อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย จัดเตรียมชาร์ทแบ็ตเตอรี่ทั้งของกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์ โดยเฉพาะโทรศัพท์นั้นหายห่วงครับ บ้านป้าเกล็นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ทุกเครือข่าย ไม่มีใครสามารถติดต่อเราได้ ปลอดภัยจากการทวงหนี้ทางโทรศัพท์ทุกรูปแบบ เราออกมารวมตัวกันอีกครั้งที่บ้านพักริมน้ำหลังใหญ่ ด้านหน้าติดกับฝายกั้นน้ำ ด้านข้างอยู่ติดกับภูเขา ในกิจกรรมที่ทาง ททท.กำหนดบอกไว้ว่า รับประทานอาหารเย็นมื้อพิเศษกับบาร์บีคิวหมูและไก่ รับรองว่าที่ไหน ๆ ก็ไม่อร่อยเหมือน อิ่มแล้วชวนกันนั่งล้อมวงร่วมฟังตำนานรักที่ไม่มีวันตายของ "พี่ศักดิ์" กับ "ป้าเกล็น" ที่เคยประทับใจคนดูรายการ "คนค้นคน" และคนอ่านนิตยสาร "ค.คน" มาแล้วทั่วประเทศ . ผมจัดการกับบาร์บีคิวหมูไม้โต ๆ นี้เข้าไปถึง 6 ไม้ ไม่เคยทานบาร์บีคิวที่ไหนอร่อยเท่าที่นี่มาก่อนเลยจริง ๆ ครับ . นอกจากนั้น ยังมีอาหารอื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อแม่ครัวนำอาหารมาวาง ก็ต้องให้กล้องถ่ายรูปชิมกันเสียก่อนตามระเบียบ ส่วน"ทำไม" ขวดนั้น รสชาติจับลิ้นเชียวครับ . ป้าเกล็น...จัดเลี้ยงไม่ดูกำลังแขก... ผมอนุญาตให้แม่มะยงทานเต็มที่ตามใจปรารถนา ไม่เบรค จะดูซิว่า ทานอาหารป้าเกล็นหมดโต๊ะหรือไม่? . อิ่มแล้ว เราก็นั่งคุยกัน ฟังเรื่องราวการทำเหมืองถ่ายทอดอารมณ์เก่า ๆ โดยคุณชาลี ส่วนป้าเกล็นคงจะพักผ่อน . . คืนนี้เป็นคืนข้างแรม พระจันทร์หลบแสงให้ดวงดาวเจิดจรัสจ้า ดาวนับล้าน ๆ ดวงลอยฟ่องเต็มท้องฟ้า ส่องแสงระยิบระยับจับตา ผมไม่ได้เห็นแสงดาวมากมายเช่นนี้มานานแล้ว นานจนลืมชื่อหมู่ดาวที่เคยรู้จัก ลมพัดรวยรื่น เย็นชื่นสบายตัว ไม่หนาวมากนัก ผู้ที่ยังไม่ง่วงก็นั่งคุยกัน ผู้ที่รู้สึกว่าอยากพักผ่อน ก็ค่อย ๆ หลบเข้าห้องพักไปทีละคนสองคน ค่ำคืนอันวิเศษสุขเช่นนี้ หาไม่ได้ในเมืองอันวุ่นวายสับสน . . เช้าแล้ว แม่มะยงออกมายืนยิ้มแฉ่งจิบกาแฟที่หน้าห้องพัก ความอ่อนเพลียจากการเดินทางมาหลาย ๆ วันคงจะหมดสิ้นไป เหลือเพียงการสร้างพลังที่จะเดินทางต่อไปข้างหน้า โปรแกรมนี้อัดแน่นไปด้วยความสุข . หลังอาหารมื้อเช้า แม่มะยงกอดลาป้าเกล็นอีกครั้ง ผมเห็นแล้วรู้สึกอบอุ่นอีกเช่นเคย ใจหนึ่งก็คิดถึงแม่ผู้ล่วงลับ ใจหนึ่งก็คิดถึงญาติคนอื่น ๆ ที่ต้องมาอยู่ในหุบเขาป่าดง ป้าเกล็นคงไม่ได้คิดหรอกว่า ผู้ที่มาพักพิงชั่วคืนยามจะเป็นแขก ป้าเกล็นมองพวกเราเสมือนญาติที่มาเยี่ยมเยียนมากกว่า คุณชาลีพูดคำหนึ่งบนโต๊ะอาหารซึ่งยังก้องอยู่ในหูว่า "แขกใหม่ ๆ ผมไม่กังวลหรอก เขาเดินทางมาเรื่อย ๆ แหละ แต่ผมคิดถึงญาติเก่า ๆ ที่เคยมาหา มาพัก มานั่งพูดคุยกัน อยากให้มากันบ่อย ๆ " . ผมและแม่มะยงร่ำลาคุณชาลีด้วยภาพถ่ายที่หน้าเหมืองแร่สมศักดิ์ . คณะของเรา ร่ำลาป้าเกล็นด้วยภาพถ่ายเช่นเดียวกัน . เราขึ้นจากหุบเขาบ้านเล็กในป่าใหญ่ มาที่อุโมงค์ของเหมืองปิล็อก สถานที่อันเวิ้งว้างนี้แทบไม่น่าเชื่อว่า เมื่อก่อนนี้คือขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาวเมืองกาญจน์ วันเวลาผันผ่าน ทุก ๆ อย่างกลับกลายเป็นเพียงอดีต . มองลงไปด้านล่าง มองเห็นบ้านอีต่องอยู่ลิบ ๆ ภาพเบื้องหน้าเหมือนภาพในฝัน ปิล็อกสวยงามทั้งหน้าฝน หน้าแล้ง และหน้าหนาว สวยเรียบ ๆ เหมือนสาวชาวบ้านป่าที่ห่างไกลมือชายมาเชยชมนานแสนนาน . จุดชมวิวเนินช้างศึก ชื่อดูน่ากลัว แต่บรรยากาศจริง ๆ เราได้ยืนให้ลมภูเขาพัดผ่านผิวหน้าอย่างรุนแรงแต่ฉ่ำเย็น ถนนหนทางเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี วันนี้ไม่มีทางดินลูกรังให้เห็นอีกแล้ว นี่หรือคือชายแดนไทยพม่า เพียงเหยียดมือออกไปก็เข้าสู่แดนพม่า ทิวเขาตะนาวศรีเป็นยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา ที่นี่คือจุดแบ่งประเทศหรือนี่? . " แม่มะยง หากพี่เดินพลัดหลงเข้าไปในแดนดินถิ่นพม่า และถูกทหารจับตัวไป เธอจะเดินตามหาพี่หรือไม่? " . จากเนินช้างศึก เราเดินทางมาที่สุดเขตประเทศไทยบ้านอีต่อง หมู่บ้านชายแดนเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์คือความเงียบสงบ . สะพานเหล็กเก่า ๆ เพื่อข้ามไปที่เหมืองปิล็อก ยังถูกเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งเหมืองปิล็อก . . ชาวอีต่อง ยังรอคอยการมาเยือนของผู้คน วันหยุดยาวที่จะถึงนี้ หากท่านยังไม่มีโปรแกรมการเดินทาง และต้องการสัมผัสความหนาวเย็น บ้านอีต่อง ปิล็อค ทองผาภูมิ กาญจนบุรี รอต้อนรับท่านด้วยความยินดีครับ . หมื่นภูผาแท่น แผ่นทองผาภูมิ เศกสลักปักปูม ภูมิประวัติแผ่นดิน ที่แดนต่อแดน แคว้นถิ่นต่อถิ่น จงเจตน์จงจินต์ จงใจต่อใจ . เชื่อมแผ่นทองทา เชื่อมมหาอาณาจักร เชื่อมใจจงรัก สัมพันธ์ ไทย-พม่า ร่วมฟ้าผาภู ร่วมชูธงชัย ร่วมป้องผองภัย ไทย-พม่า สถาพร (เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์) . . สวัสดี................................... |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | ธันวาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |