. . การจำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อประจำถิ่นแก่ผู้เดินทาง มีมานมนานแล้ว สมัยเด็ก ๆ เมื่อผมนั่งรถไฟจากนครศรีธรรมราชเข้ากรุงเทพมหานคร ผมชอบที่จะซื้อหาของกินริมหน้าต่างรถไฟ สมัยนั้นการซื้อการขายกระทำกันอย่างมีวัฒนธรรม ไม่มีการหลอกลวง . เมื่อรถไฟวิ่งเข้าเทียบชานชาลาสถานีใด มองเห็นสินค้าริมหน้าต่าง เราก็จะรู้ทันทีว่าเป็นอำเภออะไร ? จังหวัดใด ? เช่นเห็นการ "ขายเงาะโรงเรียน" ก็จะรู้ว่าถึง "สถานีนาสาร" คนที่นั่งในรถก็จะซื้อเงาะคนละหลาย ๆ พวง ไปเป็นของฝาก เห็นการ "ขายไก่ย่างชุบเครื่องแกง" หมายความว่าถึงสุราษฎร์ธานี แต่ละคนจะซื้อไก่เพื่อทานเป็นอาหารเย็น เห็นการ "ขายไข่เค็ม" แสดงว่าถึงสถานีไชยา ก็จะซื้อเป็นของฝากเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นการ "ขายข้าวหลาม" แสดงว่าถึงนครปฐม ใกล้ กทม.เข้ามาเต็มทน . http://www.photoontour.com/gall_slideshow_html/chumporn/Slide_chumporn22.htm ต่อมาการเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกสบาย เพราะถนนหนทางดีขึ้น ผมจะตื่นตาตื่นใจเมื่อเห็นการขายกล้วยเล็บมือนางที่ศาลเจ้าพ่อหินช้าง ชุมพร เขามีแผงขายเป็นล่ำเป็นสันยาวเหยียด คนซื้อก็ซื้ออย่างเอาจริงเอาจัง โยนใส่ท้ายรถเป็นเครือ ๆ ถึง กทม.กล้วยช้ำหมดอย่างน่าเสียดาย . จากการเดินทางเฉพาะเส้นทางปักษ์ใต้ เปลี่ยนมาเป็นเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทย ผมได้พบเห็นการวางแผงขายสินค้าหลาย ๆ อย่างในลักษณะเดียวกัน การขายของทะเลที่หนองมน การขายปลาร้าที่อยุธยา การขายปลาสลิดที่บางพลีบางบ่อ การขายถั่วต้ม ขายเกลือที่สมุทรสาคร การขายผลไม้ที่กลางดง การขายหม่ำที่ชัยภูมิ การขายส้มเขียวหวานที่เชียงใหม่เชียงราย การขายกล้วยไข่ที่กำแพงเพชร ฯลฯ . ในระยะหลัง ๆ สินค้าบางอย่างไม่สามารถบอกพื้นที่ได้ชัดเจนนัก เช่นการขายสายไหม มีขายแทบทุก ๆ ถนน การขายมันแกว ก็ไม่ได้มีที่บรบือเสมอไป เพราะหลาย ๆ ถนนเต็มไปด้วยมันแกวบรบือ จนผมแยกอำเภอจากสินค้าข้างทางไม่ค่อยจะถูก . ริมทางหลวง 212 หนองคาย - บึงกาฬ มีของขายเหมือนกันครับ ผมออกจากบึงกาฬ ผ่านปากคาด ผ่านแยกโซ่พิสัย ผ่านสว่างอารมณ์ เข้าพื้นที่อำเภอรัตนวาปี เห็นแผงขายสับปะรด เกิดอาการเปรี้ยวปาก อยากจะทานสับปะรดสักคำ บอกให้ พขร.หยุดจอดที่หน้าแผงสับปะรดแห่งหนึ่ง . สับปะรด ในประเทศไทยมีการปลูกทั่วไปทุก ๆ ภาค นอกจากเรียกชื่อไม่เหมือนกันแล้ว ใช่ว่าจะอร่อยเหมือนกันทุกสถานที่ซะเมื่อไหร่? . สับปะรด.... ภาคกลาง เรียก.."สับ-ปะ-รด" ภาคเหนือ เรียก.."มะนัด, มะขะนัด, บ่อนัด" ภาคอีสาน เรียก.."บักนัด" ภาคใต้บ้านผม เรียก.."ย่านนัด, ย่านัด ,ขนุนทอง" . มาว่าถึงรสชาติกันบ้าง http://www.khontai.com/?name=news&file=readnews&id=2618 สับปะรดภูเก็ต มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเฉพาะถิ่นจริง ๆ เรียกว่าพันธุ์ภูเก็ต หรือพันธุ์สวี เนื้อจะเหลืองฉ่ำ รสชาติหวานจัด การเลือกซื้อนั้น ผู้รู้เขาบอกว่า ให้เลือกลูกที่มีสีเหลืองส้ม มีตาใหญ่ จับดูแล้วเนื้อแน่น รับประทานสด ๆ อร่อย หอม กรอบ ต้องเป็นสับปะรดภูเก็ตที่ปลูกในจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น สับปะรดภูเก็ต ออกผลมากในช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนกรกฎาคม และสับปะรดภูเก็ตนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญากระทรวงพาณิชย์ พิจารณาให้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์แล้ว ตั้งแต่ 27 พ.ย. 2552 . สับปะรดประจวบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสับปะรดอร่อย จนถึงขั้นต้องใส่สับปะรดไว้ในคำขวัญ "เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สับปะรด" ประจวบฯจึงมีโรงงานผลไม้กระป๋อง ทำสับปะรดกระป๋อง น้ำสับปะรด แยม เหลือเพียงเล็ก ๆ น้อย ที่ได้มาทานกันสด ๆ จุดเด่นสับปะรดประจวบอยู่ที่เนื้อสีเหลือง กรอบ ฉ่ำ หวานอมเปรี้ยว สับปะรดประจวบฯ นอกจากคนจะชอบทานแล้ว ช้างก็ชอบกินเหมือนกัน เราจะได้ยินได้ฟังเรื่องนี้กันบ่อย ๆ และยังเป็นข้อถกเถียงกันว่า แถว ๆ กุยบุรี คนบุกรุกที่ดินช้าง หรือช้างบุกรุกคน? . สับปะรดศรีราชา.. มีชื่อเสียงมานาน รสหวานฉ่ำ ผลใหญ่ ผิวบาง สีเหลือง . http://www.oknation.net/blog/kalim/2008/08/19/entry-1 สับปะรดนางแล.. สับปะรดนี้อยู่ที่ตำบลนางแล จังหวัดเชียงราย เขาเล่ากันว่า นายเข่ง แซ่อุย ชาวจีนไหหลำ อพยพมามีเมียที่เมืองไทย และมาตั้งรกรากที่บ้านป่าซางวิวัฒน์ตำบลนางแล นายเข่งนำพันธุ์สับปะรดนี้มาจากสิงคโปร์ เมื่อปี พ.ศ. 2480 สับปะรดนางแล ผลเล็ก หวานกรอบ เนื้อกรอบ เนื้อขาว . สับปะรดภูแล.. เขาเล่ากันอีกว่า นายเอนก ประทีป ณ ถลาง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย อาศัยอยู่ที่ตำบลนางแล เป็นผู้นำพันธ์มาจากจังหวัดภูเก็ตมาปลูกในตำบลนางแล ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ โดยไม่ได้มีการใช้ยาฆ่าแมลง และใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ เป็นคนละพันธุ์กับสับปะรดนางแล และสาเหตุที่เชื่อเปลี่ยนชื่อ จากพันธ์ภูเก็ต เป็นพันธ์ภูแล เนื่องจากแม่ค้าเห็นว่า ลักษณะลูกมีลักษณะเล็กและคนที่มาเที่ยว ชอบกิน โดยเป็นการผสมชื่อระหว่าง ตำบลนางแล กับ สับปะรดพันธุ์ภูเก็ต มิใช่มาจาก พันธุ์ภูเก็ต ผสมกับพันธ์นางแล . . พอแล้วกระมังสำหรับประวัติสับปะรดในแต่ละพื้นที่ ยิ่งพูดยิ่งเขียน ยิ่งยืดยิ่งยาวไม่รู้จบ . วันนั้น ( 1 มกราคม 2552 ) ผมเองมีเพียงประสงค์ที่จะซื้อสับปะรดทานแก้เปรียวปากสัก 1 ลูก แต่เมื่อลงไปแล้ว แม่มะยงกลับตรงไปที่คุณยายซึ่งนั่งบรรจุสับปะรดกวนใส่กล่อง . สับปะรดกวนคุณยาย มีทั้งชนิดใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ แม่มะยงและพี่สาวสั่งซื้อเป็นการใหญ่ เพื่อเป็นของฝาก คุณยายบรรจุกล่องไม่ทัน ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ วันนั้นจึงเกิดรายการ ทั้งแจกทั้งแถมแบบว่า..ขายลูกขายหลาน..ทีเดียว . สับปะรดรัตนวาปี เป็นพันธุ์ปัตตาเวีย ลูกใหญ่ เนื้อเหลือง หวานฉ่ำ คุณตาซึ่งช่วยคุณยายขายของบอกว่า ช่วงนี้สับปะรดไม่หวาดจัดนัก อมเปรี้ยวเล็กน้อย สับปะรดรัตนวาปี จะหวานจัด ๆ ประมาณเดือนเมษายน . ก็คงจะไม่ธรรมดาเหมือนกันครับ เพราะสับปะรดรัตนวาปี ถูกบรรจุลงอยู่ในคำขวัญประจำอำเภอด้วย "รัตนวาปี ธานีจอมนาคา ยางพาราสวยสด สับปะรดฉ่ำหวาน" . สับปะรดรัตนวาปี ชาวบ้านปลูกกันมาตั้งแต่ปี 2500 ต่อมาปี 2520 ชาวบ้านปลูกมากขึ้น พ่อค้าจะคัดเลือกสับปะรดผลดี ผลสวยไปขาย ผลที่ไม่สวย ก็นำมาแปรรูป ขายดิบขายดีกันจนทุกวันนี้ . ผ่านรัตนวาปี อย่าลืมแวะชิมสับปะรดนะครับ . ส่วนท่านที่ไปงานเลี้ยง หรือไปนั่งตามร้านอาหาร และสั่งผลไม้ตามฤดูกาลมาล้างปาก รับรองว่าไม่เจอแตงโม ก็สับปะรด แน่นอน หรือเจอทั้งสองอย่างในจานเดียวกัน อ่านเรื่องนี้แล้วท่านอาจจะพอแยกแยะได้บ้างว่า สับปะรดที่ท่านได้ทานนั้น เป็นสับปะรดมาจากที่ใดบ้าง ? . ส่วนที่ทานกันแล้ว จะอุทานออกมาว่า "ไม่เห็นเป็นสับปะรดเลย" ก็ตัวใครตัวมันนะครับ . . |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มกราคม 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |