นัดแนะกันกับ วรรณา มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว แล้วล่ะ สำหรับ "ทริปนาโพธิ์" นี้

แต่อย่างว่าอะเนาะ ในสภาวะเศรษฐกิจ เช่นนี้ มี "งานเข้า" มา ก็ต้องจัดการ งานการก่อน

ส่วนเรื่อง พักผ่อน (ท่องเที่ยว) เอาไว้ว่างจากงานการ ค่อยว่ากันอีกทีก็ได้

และแล้ว เราก็หาเวลา (ที่ตรงกัน) ไปด้วยกันจนได้

ฉันเป็นเพื่อนคนแรก ที่ได้มาเยือนเรือนชานของ "เขย" ของเรา ที่บ้านนาโพธิ์ บุรีรัมย์

หลังจากที่เราลุย (ส้มตำพันล้าน) กันมาตั้งแต่สาย บ่าย ๆ เราก็มาถึง บ้านพี่ใหญ่ของน้องณา ซะที

ห้องพักของฉันอยู่ข้างบันได มีเครื่องนอน ครบครัน เพื่อป้องกันอากาศที่หนาวเย็นของที่นี่

เชื้อเพลิงในการประกอบอาหาร จากการ "ตัดแต่ง" กิ่งไม้ภายในสวน (ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อ)

ตอนกลางวันไปลุยของหนัก ๆ ที่ร้าน ส้มตำพันล้าน (พวงชมพู) มาแล้ว

มื้อเย็นเลยขออะไร เบา ๆ "เมี่ยงปลาทับทิม" กินผักแกล้มกับขนมจีน อร่อย (มก) มั่ก ๆ

มาบ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ตื่นแล้วก็ไปหาผักหญ้ามาเลี้ยง วัว ของท่าน (ซะ ดี ๆ)

เจ้านี่ชื่อว่า "บุญช่วย" ค่ะ เป็น วัวงานวัด ที่พี่สาวพี่ใหญ่ สอยดาวมาได้ในราคา ๕ บาท (เอง)

เค้าเล่าว่า ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะไป สอยดาวเลยล่ะ ไปซื้อของแล้วเค้าทอนเงินมาให้

เลยเอาเงินทอน (๕ บาท) นั้นไปทำบุญกับทางวัดด้วยการ สอยดาว โป๊ะเชะ

เลี้ยงยังไม่ถึงปีเลย รูปร่างสูงใหญ่ มากมาย เจ้าบุญช่วย  ^_^

กินอิ่มแล้วก็ไปเดินย่อยกันดีกว่า พี่สาวมีแปลงผักเล็ก ๆ (ภายในบ้าน) ปลูกไว้ประกอบอาหาร

ผักชีฝรั่ง .. ขิง .. ข่า .. มะนาว  ก็มี

ร่มรื่นดีแท้ อากาศก็ดี ไม่ต้องติด เครื่องปรับอากาศ

เห็นแล้วก็อยากจะปลูกมั่ง (ขึ้นมาเชียว) แฮ่

ความจริงเราก็มี "พันธุ์พริกกะเหรี่ยง" ที่สหายตะนาวศรี มอบให้มา ก็น่าจะเอามาลองปลูกดูเนอะ

เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเห็น (เค้าว่าเป็น) มะกอก แบบนี้อะนะ (ตอนแรกคิดว่า ละมุด น่ะ) 

อยู่บ้านนา (โพธิ์) เค้าเรียกกันว่า กะทกลก มาอยู่กรุงเทพ เลยเปลี่ยนเป็น เสาวรส (ฮ่า)

พืชผักสวนครัวมากมาย ตื่นตาตื่นใจ "เด็กเต้ป" มั่ก ๆ

ละแวกนี้ มีปลูกกันแทบทุกบ้าน (สงสารแม่ค้าตามตลาดจัง)

ส่วนบ้านที่ไม่มีที่ เค้าก็ปลูกใน ยางรถยนต์ เอาดินใส่ในนั้น

ปลูกออกมาก็หน้าตาใช้ได้เลยทีเดียว ค่ะ

ถ้าฉันจะปลูกนะ อยากปลูก พริกกะเหรี่ยง กะ มะกรูด ที่สุดเลยล่ะ

ที่นี่นอกจากทำนา เลี้ยงสัตว์แล้ว ยังมีอีกอาชีพ (เสริม) คือการเลี้ยง หม่อนไหม ค่ะ

ขั้นตอนต่าง ๆ ตื่นตา ตื่นใจ เด็กเต้ป เช่นเคย

สงสารก็สงสาร น่ากินก็น่ากิน (แฮ่) อะ ล้อเล่น น่าขนลุกจะตาย บรึ๋ยยยยย

เสียดายที่ใน โรงเลี้ยงไม่เหลือ แบบที่เป็น ๆ ให้ดูเลยสักตัว 

มาถึงก็โดนต้ม กันไปหมดแล้ว ล่ะ 

ดูสิ สีสัน สวย สดใส ดีจังเนาะ

แล้วก็ปั่นขึ้นมาเส้น ๆ (ขออภัยหากเรียก กรรมวิธี ไม่ถูกต้อง เพราะมัวแต่ ตื่นตาตื่นใจ) หะ

สาวไหม ขึ้นมาจากหม้อต้ม

แล้วก็ ม้วน ๆ ไว้ ค่ะ

ไม่รู้ว่า ที่นี่เค้าเรียกว่าอะไร (แต่แถว ดาว'นอง เค้าเรียกว่า กระสวย น่ะ)

เราเอา ขน ของเค้า (แต่เค้าต้องตาย) คล้าย เอาขนแกะของ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เลยเนอะ 

มองดูคล้าย ขนม ก้าก้า ที่ฉันชอบกิน ตอนเด็ก ๆ เลยอะ (หง่ำ ๆ)

โรงเลี้ยงไหม ของอีกบ้านนึง ค่ะ

เหลือ ซาก ของตัวไหม อยู่ ตัวนึง บรึ๋ยยยยยย

ตรงนี้ก็เป็น ในส่วนของโรงทอภายในบ้าน (ใครบ้านมัน) มีกันเกือบทุกบ้าน ค่ะ

ชอบจังเลย นอกจากอาหารดี ดนตรี (จากธรรมชาติ) เพราะ ยังได้ความรู้แปลก ๆ ใหม่ ๆ ด้วย

หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว พี่ใหญ่ก็พาเรามา เคารพ คุณพ่อคุณแม่ของพี่เค้า ค่ะ

คุณพ่อคุณแม่ และพี่สาวคนโต ท่านเดินทาง ล่วงหน้าเราไปก่อน หลายปีแล้วล่ะค่ะ

ออกจากวัด เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ อ่างเก็บน้ำใกล้ ๆ

งดงาม เหนือ คำ บรรยาย

.. ลำแสงสุดท้าย ..

ใน (สาย) วันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ

ขอเก็บเกียวภาพดอกไม้สวย ๆ มาฝาก (คนที่มา "กดดัน") ละกัน ค่ะ

ให้ .. สดชื่น

ให้ .. แจ่มใส

ให้ .. สมหวัง

ในสิ่งที่ ปรารถนา ทุกประการ เทอญ

ดอกไม้ (บางดอก) บานยาก

และทุกดอก ก็บานได้ ไม่นาน

เปรียบเหมือนช่วงเวลา ที่ดี ในชีวิต ที่ไม่รอใคร เช่นดั่ง เวลาและวารี

ความฝัน คงเป็น แค่นั้น หากไม่ ลงมือ ทำ

พ่อบอกกับ คริสโตเฟอร์ว่า "อย่าให้ใครมาบอกว่า เราทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ตัวพ่อเอง" (ชอบจัง)

จะใช้ "ปีใหม่" เป็น วันเริ่ม เรื่อง (ดี ๆ) ใหม่ ๆ  ก็ดี

หรือจะเริ่มกัน วันนี้ เลย ก็ได้ ค่ะ

(วรรณากับเจ้าสิงห์คะนองนา ค่ะ)

ป.ล.. ขอบคุณ วรรณา ที่พาไปสัมผัสประสบการณ์ แปลกใหม่ ได้ความรู้มามากมาย

ก่อนกลับ พี่สาวไป เปิดยุ้งข้าวเพื่อเอาข้าวจำนวนหนึ่งไปสีที่โรงสีใกล้ ๆ บ้าน ค่ะ

เค้าคิดค่าสี ๑ กระป๋อง (ไม่ทราบว่า กระป๋องใหญ่แค่ไหนเนาะ)

เราก็ได้ของฝากเป็นผลไม้และข้าวทั้งข้าวเก่า (ไว้หุงข้าวสวย) และข้าวใหม่ (ไว้ต้มข้าวต้ม)

ขอบคุณหลาย ๆ เด้อ เอื้อย .. อร

สุขสันต์ เทศกาลปีใหม่ กัน ทุก ๆ ท่านเลย นะคะ

ชมรมรักษ์ภาษาไทย