ทำไมโรงแรมโอเรียนเต็ล ...จึงเป็นที่หนึ่ง เป็นบทความที่ดีมากๆจึงอยากบ่งปันให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ทำงานด้านบริการก็ตาม แต่โรงแรมโอเรียนเต็ล เป็นความภูมิใจของคนไทย เพราะได้รับรางวัลต่างๆมากมาย ลองอ่านดูว่าทำไมโรงแรมนี้จึงเป็นที่หนึ่ง...มาอย่างยาวนาน เป็นบทความที่ยาวสักหน่อย เลยขอแบ่งออกเป็น 3 ตอนนะคะ ----------------------------------------------- องค์กรของเราทุกคนเป็นได้แม้ไม่ใช่โอเรียนเต็ล แต่ทุกคนต้องคิดในทิศทางเดียวกัน และต้องทำด้วย... เริ่มที่ตัวเราเดี๋ยวนี้เลย ...................... ( ตอนที่ 1 ) The Oriental Hotel TEAM ภายใต้บริบท Together-Everyone-Achieve-More ของโรงแรมโอเรียนเต็ล กรุงเทพ ที่หล่อหลอมเหล่าพนักงานผ่านประสบการณ์ทำงานนับสิบๆ ปี ตกผลึกเป็นทักษะในการสร้างสรรค์บริการที่มีเอกลักษณ์ในความเป็นโอเรียนเต็ล อันนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจมหาศาลและชื่อเสียงในฐานะ The Best Hotel in the World โล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณที่เรียงรายมากมายเต็มพื้นที่ผนังของห้อง Trophy Room เป็นเสมือน Hall of Fame ที่ตอกย้ำความเป็น "the best hotel in the world" ของ โอเรียนเต็ล นับแต่รางวัลแรกเมื่อปี 1981 จากนั้นก็มีอีกหลายสถาบันที่พากันมอบรางวัลต่างๆ ให้กับโรงแรมแห่งนี้ ทุกปีผนังของห้องนี้ก็จะมีรางวัลเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่เพียงเหล่าพนักงานที่ภูมิใจกับผลงานของพวกเขาเอง แม้แขกหลายคนก็อดไม่ได้ที่ต้องเข้ามายืนดูรางวัลเหล่านี้พร้อมกับชื่นชมเหล่าพนักงานของโรงแรมไปด้วยเหมือนกับมร.เคิร์ท เขากล่าวใน DVD ที่ทำขึ้นเพื่อแจกให้แขกในวาระครบรอบ 130 ปี มีใจความว่า"เฉลี่ยพนักงานโอเรียนเต็ลมีอายุงาน 15 ปี ซึ่งนานพอที่โอเรียนเต็ลจะสร้างพนักงานมืออาชีพ เมื่อความเป็นมืออาชีพรวมกับ passion โรงแรมที่ดีที่สุดจึงเกิดขึ้น" มีคนบอกว่า ธุรกิจโรงแรมเกี่ยวกับแค่ 3 เรื่อง การต้อนรับดี การนอนดี และการกินดี แขกไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความสุขจากการได้อยู่กับบรรยากาศดีๆ และมีคนเอาอกเอาใจ แต่สำหรับโอเรียนเต็ล มีแขกบางคนกล่าวว่า "โรงแรมโอเรียนเต็ล ตึกรามก็ไม่ใช่หรูหราเลอเลิศ แต่พนักงานเป็น best asset" ...แขกมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ... พูดถึงสายงาน Front Office ปูชนียบุคคลของโรงแรมโอเรียนเต็ลที่เป็น story teller ที่ทรงพลังที่สุดของโอเรียนเต็ลคือ อังคณา กะลันตานนท์ พนักงานที่มีอายุมากที่สุดด้วยวัย 85 ปี แต่ยังทำหน้าที่ที่ปรึกษาฝ่ายอาคันตุกะสัมพันธ์ให้กับโรงแรมได้อย่างสมบูรณ์ด้วยประสบ การณ์ในโอเรียนเต็ล 62 ปีกับหน้าที่ดูแลแขก ถึงวันนี้เธอดูแลแขกมาแล้ว 4 รุ่น เธอจึงเป็น asset ที่มี historical value ที่มีมูลค่าทางจิตใจต่อแผนก Front ต่อโรงแรมและต่อแขก แม้จะสูงวัยแต่อังคณาก็ยังสนุกกับการงาน social ที่จัดขึ้นในโรงแรม โดยเฉพาะงานที่จัดขึ้นกับแขก และหลายๆ งานเธอและผู้ช่วยคนสำคัญ นวลศรี กำบรรณารักษ์ ผู้จัดการฝ่ายอาคันตุกะสัมพันธ์ ช่วยกันครีเอทไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกแต่มักจะแฝงนัยที่เพิ่ม value ให้โรงแรมไปด้วยเสมอ Management Cocktail Party ปาร์ตี้เล็กๆ ที่จัดขึ้นทุกวันอังคารสำหรับแขกไม่เกิน 100 คน ที่เลือกมาเฉพาะแขกวีไอพี แขกที่พักห้องชุด แขกที่มาประจำ เพื่อนของแขกที่มาประจำ ฯลฯ งานนี้สร้างวาระให้ผู้บริหาร ระดับสูงของโรงแรมได้มากล่าวขอบคุณกล่าวต้อนรับและสร้าง human relation กับแขกโดยตรง การจัดงานต้อนรับเช่นนี้ทำให้ แขกหลายคนรู้สึกว่าโรงแรมให้เกียรติตนอย่างมาก "งานนี้เราจะได้พูดคุยและถามแขกว่า พอใจกับทุกอย่างไหม ถ้ามีอะไรที่แขกไม่พอใจ เราก็จะได้แก้ไขได้ทัน ดีกว่าปล่อยให้เดินออกจากโรงแรมพร้อมความไม่พอใจ หรือแขกอาจอยากจะแนะนำอะไร เพราะแขกที่นี่ส่วนใหญ่พักโรงแรมคลาสเดียวกับเรามาแล้วทั่วโลก" คนโอเรียนเต็ลมักไม่หวั่นต่อคำติหรือคำแนะนำ วันนี้อังคณาทำงานเพียงสัปดาห์ละ 2 วัน แต่หากมีแขกเก่าแก่เข้ามาพักและอยาก พบเธอ เธอก็จะเข้ามาเพื่อพูดคุยดูแลแขกซึ่งเป็นหน้าที่หลัก ในเวลาเดียวกันก็ถ่ายโอนสายสัมพันธ์กับแขกเหล่านี้ให้ทีมงานใหม่ได้ซึมซับเข้าไปทีละน้อย เพื่อที่จะได้ขึ้นมาแทนที่ เธอในอนาคต ถ้านวลศรีเป็นมือขวาของอังคณา มยุรี เลาลักษณเลิศ ในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการ Front ก็ถือเป็นมือซ้าย มยุรีเริ่มงานกับโอเรียนเต็ลเมื่อ 18 ปีก่อน ในฐานะเลขาของ ในปี 1997 มยุรีได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการ Guest Service ตำแหน่งใหม่ ว่ากันว่าตำแหน่งนี้สร้างมาเพื่อให้เธอ หรือไม่เธอเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ตรงนี้คือการดูแลแขก โดยเฉพาะแขกวีไอพี เช่น พระราชวงศ์ ผู้นำประเทศต่างๆ แขกของรัฐบาล ดารา นักร้อง เป็นต้น แม้ในวันนี้เธอจะขึ้นมารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ Front แต่ก็ยังเต็มใจควบหน้าที่เดิม "ดิฉันเคยดูแลสมเด็จพระราชินีแห่งประเทศสวีเดน ระหว่างสนทนาท่านตรัสว่า I like pink noodle พอได้ยินอย่างนั้น เราก็พยายามไปหาสูตรมาถวาย นั่งคิดแทบตายว่าเป็นอะไรเลยเดาว่าผัดไท ก็ไปขอสูตรจากเชฟมาเลย ปรากฏท่านบอกไม่ใช่ ก็ถามท่านว่าลักษณะเป็นอย่างไร ท่านบอก crispy ก็เลยรู้ว่าเป็นหมี่กรอบ พอท่านจะเสด็จกลับเราก็เลยแพ็กหมี่กรอบถวายไปด้วย" เป็นตัวอย่างแสดงถึงความเอาใจใส่ที่ไม่ใช่เฉพาะกับแขกวีไอพี แต่แขกทุกคนเพราะคนโอเรียนเต็ลมองว่า Guest is King & Queen! แม้ชื่อแผนกแปลว่าส่วนหน้า แต่ Front Office เป็นเบื้องหลังสำคัญที่ซัปพอร์ตให้พนักงานทุกฝ่ายสร้างสรรค์บริการแบบ no repeat คือไม่ต้องสั่งซ้ำ เช่น แขกบางคน แค่พนักงานเห็นหน้าก็รู้ว่าแขกจะสั่งกาแฟ expresso ใส่นม 2 หยด ว่ากันว่า เพราะนม 2 หยดที่พนักงานใส่มาให้โดยที่แขกไม่ต้องพูดซ้ำ แขกคนนี้จึงไม่เคยไปทานกาแฟที่ไหนอีกเลย แผนก Guest History เป็นศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับแขกทุกคน ไม่ว่าแขกชอบอะไรทานอะไร แพ้อะไร ชอบนอนแบบไหน ชอบดอกไม้อะไร ชอบทำอะไรในโรงแรม ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้มาจากพนักงานที่ได้ปฏิสัมพันธ์กับแขก สังเกตพฤติกรรมของแขกในครั้งก่อนๆ ที่เคยมาเข้าพัก ความช่างสังเกตและใส่ใจในรายละเอียดจึงต้องอยู่ใน DNA ของพนักงานทุกคน "อย่างพอเรารู้ว่าคุณปุ๋ยชอบทานคะน้าปลาเค็ม ถ้าไม่ได้สั่งไว้ก่อน โรงแรมจะไปหาปลาเค็มที่ไหน พอรู้ว่าคุณปุ๋ยจะเดินทางมาถึงเมื่อไร ดิฉันก็มีหน้าที่ต้องส่งอีเมลไปทุกครัวเลยว่า คุณปุ๋ยจะมาวันนี้ถึงวันนี้ ฉะนั้นทุกครัวเตรียมคะน้าปลาเค็มไว้เลย พอ Front ให้ข้อมูล เชฟก็จะได้เตรียมพร้อมสำหรับให้บริการ" มยุรีเล่า ยิ่งพอโรงแรมเปลี่ยนมาใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลแขกแบบ Springer Miller System ที่ลงรายละเอียดได้ลึกขึ้น แยกข้อมูลตามแผนกได้และจัดเก็บรูปแขกได้ด้วย guest history record จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริการ อย่างสร้างสรรค์ ในอนาคตฐานข้อมูลแขกตรงนี้จะกลายเป็น asset ที่ทุกโรงแรมในเครือแมนดารินจะแชร์ กันทั่วโลก อย่าแปลกใจ ถ้าพนักงานจะทักทายคุณ ด้วยคำว่า "Welcome Back to Oreintal" แทนที่จะใช้ "Welcome to Oreintal" เหมือนครั้งแรก ที่มาพัก อย่าแปลกใจถ้าพนักงานจะเรียกชื่อและไตเติ้ลของคุณได้อย่างถูกต้องทุกครั้ง อย่าแปลกใจถ้า liftboy ที่ชื่ออนุสรณ์กดลิฟต์ชั้นของคุณอย่างถูกต้องโดยที่คุณยังไม่ได้บอก แขกประจำก็อย่าแปลกใจหากจะรู้สึกว่า พนักงานโอเรียนเต็ลอ่านใจคุณออกมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีบ้างที่พนักงานอาจเดาใจและให้บริการไม่ตรงกับที่แขกคาดหวังไว้ โดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึกซึ่งค่อนข้างเปราะบางและละเอียดอ่อน (sentimental) "มีแขกประจำคนหนึ่งซึ่งแต่ก่อนเขาจะเดินทางมาพักที่นี่ทุกปี แต่พอสามีเขาเสียชีวิต ปีแรกเขาไม่มาเลย พอปีที่สองเริ่มทำใจได้ก็เขาก็กลับมา ดิฉันออก memo ไปย้ำทุกแผนกเลยว่า สามีเธอเสียชีวิตแล้ว! อย่าถามถึง! ตลอดเวลาที่เธอพักกับเราก็ไม่มีใครถามถึงสามีเธอเลย จนวันสุดท้าย เธอเรียกผู้จัดการห้องอาหารที่สนิทกันไปบอกว่า เธอผิดหวังที่เราไม่ถามถึงสามีเธอ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิตเธอมาก พอผู้จัดการห้องอาหารคนนั้นมาบอก ดิฉันรู้สึกผิดมากๆ ไปคุยกับแขกเลยว่า เราเสียใจมากที่ไม่ได้ถามถึงสามีคุณ เพราะเรากลัวจะกระทบกระเทือนจิตใจของคุณ แต่ขอให้รู้ไว้เถอะว่าทุกคนรู้ แต่ไม่อยากจะทำร้ายความรู้สึกคุณ พอแขกได้ฟังก็น้ำตาไหล เราก็น้ำตาไหลไปด้วย" พนักงานโอเรียนเต็ล มักจะจัดพิธีทำบุญงานศพให้กับแขกเก่าที่เสียชีวิตแล้วส่งรูปถ่ายไปให้ครอบครัวแขกที่ต่างประเทศ เพื่อร่วมแสดงความรู้สึกเสียใจ และความจริงใจที่เป็นมากกว่าแขกกับผู้ให้บริการ สำหรับแขก "touch" เหล่านี้ที่เป็นมูลค่าทางจิตใจเกินกว่าจะตีราคา จากส่วนหน้าย้ายเข้าสู่ห้องพัก ค่าห้องพักแบบ คำตอบอาจอยู่ที่กรอบหน้าต่างที่มองออกไปเห็นความมีชีวิตของแม่น้ำเจ้าพระยา ดีเทลในเครื่องใช้อย่าง amenity กลิ่นดอกบัวผสมขิง ผ้าปูที่นอนทอพิเศษ ผ้าม่านผ้าไหม ฯลฯ และที่สำคัญคือบริการบัทเล่อร์ที่มีให้ทุกห้องพัก สิ่งเหล่านี้แม้ไม่ hi-tech แต่ hi-touch จบตอนที่ 1 ค่ะ รออ่านตอนที่ 2 นะคะ ------------------------------------------------------
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
Hummingbirds of Canada | ||
![]() |
||
Hummingbirds of Canada ~ Never seen this many before!!! |
||
View All ![]() |
<< | ธันวาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |