พุหางนาค ดูจะเป็นชื่อที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนเลย เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่เพิ่งจะได้รับการโปรโมทมาเมื่อไม่นานมานี้เอง พุหางนาค ตั้งอยู่ที่ อ. อู่ทอง จ. สุพรรณบุรี เมืองอู่ทอง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองโบราณ ที่ค้นพบอารยธรรมมนุษย์ เก่าแก่มาตั้งแต่ยุคสมัยหินใหม่ จวบจนยุคทวารวดี และอยุธยา จึงอาจจะเรียกได้ว่าเมืองโบราณ 3 ยุค ชาวอู่ทองในยุครัตนโกสินทร์ กำลังพยายามที่จะหาอัตตลักษณ์ของเมืองอู่ทอง เพื่อความภาคภูมิใจและเรียนรู้ให้กับคนท้องถิ่น และโปรโมทให้กับคนต่างถิ่นได้รับรู้ด้วย ในวันที่เราไปเยือน กำลังมีการประชุมกันพอดีค่ะ พวกเรา โอเคเนชั่น เลยได้เข้าไปนั่งรับฟังการประชุมอยู่ช่วงหนึ่ง การประชุมยังไม่มีข้อสรุปอะไร พวกเราก็มีภาระกิจต้องเดินทางต่อ จึงต้องขอตัวออกมาก่อนคะ ยังไงก็มีบล๊อคเกอร์ ศิวกานต์ เป็นประธานในที่ประชุม มีข้อมูลอะไรที่อยากจะเผยแพร่ ตามได้ที่บล๊อคอาจารย์ศิวกานต์ เลยคะ หลังทานอาหารอิ่ม พวกเราก็เดินทางมายัง สถูปหมายเลข 1 อ.วรณััย คนเก่ง บรรยายรอบสถูป จนแทบจะเดินตามไม่ทัน สรุปเองได้เพียงว่า เป็นสถูปทรงบาตรคว่ำ ย่อมุม มียอดแหลม และพบอิฐที่มีเม็ดข้าวผสม และเผาไม่เท่ากัน จึงสรุปว่าเป็นสถาปัตยกรรมสมัยทวารวดี เป็นแน่แท้ มาตั้งอยู่ในใจกลางชุมชนในปัจจุบั็นเลยค่ะ มีคูน้ำโบราณอยู่ใกล้ๆ ทำให้ท้องถิ่นมีโครงการจะปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะ แต่ก็มีปัญหากับชาวบ้านอยู่ไม่น้อยค่ะ เราเดินทางต่อ จุดหมายอยู่ที่ พุหางนาค แต่มาแวะดู จุดที่มีการให้สัมปทานระเบิดหิน ( แต่ตอนนี้หมดสัมปทานไปแล้วนะคะ ) ทางท้องถิ่น ก็อยากจะให้มีการสร้างเป็นพระพุทธรูปบนหน้าผาหินขึ้นมาค่ะ
เราเดินทางต่อมายังทางเข้า พุหางนาค ก่อนจะถึงได้แวะชมโบราณสถานหมายเลข 10 จะเห็นว่ามีโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากร ไว้มากมายหลายที่ แสดงให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของบริเวณที่แห่งนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าในอดีตที่รุ่งเรืองมาก่อน ลูกปัดส่วนหนึ่งจากการค้นพบมากมาย บางส่วนก็เป็นสมบัติส่วนตัว แสนหวงของเอกชนไปแล้วค่ะ แบบสองเส้นนี้คะ ในที่สุดเราก็มาถึง สำนักปฏิบัติธรรมพุหางนาค มีกลุ่มชาวบ้านผู้ดูแลป่า และมัคคุเทศน์น้อยมาต้อนรับค่ะ มีหลายคน ถามว่า คำว่า พุหางนาค มีที่มาจากอะไร ได้รับคำอธิบายจากมัคคุเทศน์น้อยดังนี้ค่ะ เป็นเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าต่อๆ กันมา ว่าพบพญานาค ตัวใหญ่มาก หัวนี้อยู่ที่วัดขาว ( ไม่รู้วัดดนี้อยูที่ไหน ) แต่หางมาสุดอยู่ที่พุ ( ป่าบริเวณน้ำตก ทางเข้าสถานปฏิบัติธรรม ) คำว่าป่าพุ ในภาคกลาง หมายถึง ผืนป่าที่มีตาน้ำผุดมาตามแนวร่องแตกของหินปูนใต้ดิน มารวมเป็นลำธารขนาดเล็ก มีแอ่งน้ำขังไม่ตลอดทั้งปี ต่างจากป่าพรุ ทางภาคใต้นะคะ เราได้รับการต้อนรับด้วย น้ำสมุนไพรชูกำลัง อย่าง กำลังวัวเฉลิม สมุนไพร ที่หาได้บนเขาแห่งนี้ ดื่มแล้วมีพละกำลัง ก่อนจะเดินไปเที่ยวบนเขากันค่ะ บก. ชาลี มอบเงินบริจาคกว่า 50,000 บาทจากชาวโอเคเนชั่นให้กับหลวงพ่อ อ. วรณัย มอบน้ำดื่ม ให้วัด อีกคนเป็นเจ้าหน้าที่จาก อพท.ที่มาส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ที่นี่ค่ะ จากนั้นเราก็เริ่มเดินขึ้นไปชมความงามของสวนหิน บนเขา ระยะทางประมาณ 2 กม. โดยมีชาวบ้านนำไป หมายเลข 6 ( จำชื่อพี่เขาไม่ได้ แล้วสิ ) ชาวบ้านที่นำชมที่นี่ส่วนใหญ่ มีความรู้เรื่องสมุนไพรดีมากค่ะ
ส่วนมัคคุเทศน์น้อยคนนี้ ก็เจือยแจ้วไม่เบา เลยขอให้ร้องเพลงประจำถิ่น ชื่อเพลง พุหางนาคให้ฟังด้วยค่ะ หินตรงนี้ ตามจินจนาการ ว่าเป็นรูปหน้าลิงค่ะ ทางเดิน แวดล้อมด้วยธรรมชาติ ตลอดทางจะพบ ใบ เปราะ อยู่ติดดิน เป็นสมุนไพรอย่างหนึ่ง แต่เรามาชิมที่ชาวบ้านเอามายำ เป็นอาหารที่อร่อยทีเดียวค่ะ ชาวบ้านค่อนข้างจะรู้จักกันดีนะคะ แต่ชาวกรุงอย่างเรา ก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้ หน้าตาเมื่อมาลงจาน ดอกกระเจียวป่า เป็นพื้นอีกชนิดที่ขึ้นอยู่ทั่วทั้งป่า ยามบานพร้อมกัน คงเพิ่มสีสันให้กับป่าแห่งนี้ทีเดียว ดอกเทียนหิน พบเห็นตามซอกหินทั่วทั้งป่าเช่นกันค่ะ ยามนี้กำลังออกดอกเต็มที่ทั่วทั้งป่า สวยงามมาก รูปนี้แสดงให้เห็นลักษณะ ต้นเทียนหิน ที่เกาะบริเวณหิน สีสันอาจจะไม่โดดเด่น แต่เป็นไม้เฉพาะ ถิ่นที่ไม่ค่อยเจอในป่าที่อื่นๆ รากไม้ ที่เกาะหิน งดงามมาก แสดงให้เห็นถึงอายุที่ยาวนานของไม้ด้วยค่ะ นอกจากสวนหินที่สวยงามโดดเด่นแล้ว ที่นี่ยังมีต้นไม้อายุหลายร้อยปี ที่น่าสนใจอยู่จำนวนมาก หินซ้อนกัน เป็นรูปร่างแปลกตา มองดูใกล้ๆ ในเนื้อหิน ยังมีลายแตกชวนพิศวง ในบล๊อค อ. วรนัย อธิบายไว้ค่อนข้างชัดเจนนะคะ ว่าหินนี้เกิดจากอะไร จึงไม่ขอบรรยายอีกคะ จนผาแดง เป็นพืชที่พบเห็นได้ทั่วไปที่ป่าแห่งนี้ เป็นต้นไม้ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์มากค่ะ ที่อื่นไม่ค่อยจะพบแล้วนะคะ เพราะถูกขุดไปขายก็มาก หน่อไม้ ต้นไผ่ เป็นไม่อีกประเภทที่พบได้มาก มีการกำหนดไม่ให้เก็บหน่อไม้บนภูเขานี้นะคะ แต่ชาวบ้านก็ลักลอบมาเก็บอยู่เสมอ วันศุกร์ กำลังด้อมๆ มองๆ จะถ่ายภาพอะไรไม่ทราบ แต่วิวเบื้องหน้าวันศุกร์ สวยจนแอบกดซัตเตอร์ไว้ไม่ได้คะ เราเดินไปไม่ได้ไกล เท่าใจคิด จนช้ากว่ากลุ่มอยู่พักใหญ่ เลยถือโอกาส นั่งพักเหนื่อยชมวิวริมผาไปซะเลย ข้างล่างเห็นภาพเมืองอู่ทองได้อย่างชัดเจน จันผา งามริมผา มัคคุเทศน่น้อย ชี้ให้ดูหินรูปหน้าพญานาคคะ ย่าดา ชวนให้ดู ดอกสบู่เลือด ( ชื่อน่ากลัวน่ะ ) จุดนี้เป็นจุดที่ใครๆ ต้องมาชม ต้นสลัดได เป็นพืชอีกชนิดที่พบได้ทั่วไในป่านี้ บางต้นมีอายุหลายร้อยปี เวลาออกดอกจะสวยมาก ดอกหญ้าชนิดหนึ่ง ที่พบได้ตามซอกหิน หินรูปปลาวาฬ กับลูก เป็นทริปที่เดินไปได้ไม่ไกล ไม่ถึงกลุ่มหินเรียงปริศนา ที่ อ. วรณัย อยากให้ไปดูกันนะคะ ฝากเพื่อนๆ ขึ้นไปเป็นตัวแทนดู อิอิ ถ้าจะมาเที่ยวที่นี่ให้ได้เต็มที่ คงต้องใช้เวลาหลายวันค่ะ เพราะมีอีกหลายจุดที่ไม่ได้เฉียดไปชม อย่าง สะพานหินธรรมชาติ , ลานปรงป่า , ลานหินเกร็ด , ปรงพญานาค , ผานางคอย , น้ำตกพุหางนาค ฯลฯ กลุ่มเรามีเวลาประมาณครึ่งวัน ก็ได้เพียงแค่นี้ค่ะ ท่านผู้อ่านสนใจเที่ยวชม อุทยานสวนหินพุทธสถาน ทวารวดีอู่ทองเชิงนิเวศน์ ติดต่อ สอบถาม คุณภาคภูมิ จิตต์โสภณ 087-811-7890 หรือ คุณสมเกียรติ สำเร็จทรัพย์ 086-7987581 ขอขอบคุณ สำนักปฏิบัติธรรม พุหางนาค กลุ่มมัคคุเทศน์ ชาวบ้าน และ มัคคุเทศน์น้อย อ. วรณัย ( บล๊อคเกอร์ ศุภศรุต ) ภาพหมู่จาก บล๊อคเกอร์ มัชฌิมาปกร ขอบคุณ ผู้ร่วมทริปทุกคน คุณชาลี , พี่ลูกเสือหมายเลข 9 , พี่หมอวันชัย , พี่สุภวัลย์ , ย่าดา , ป้ารุ ,วันศุกร์ , พร สิงห์มือซ้าย , กลุ่มคุณหนุ่ย และครอบครัว , พี่มะอึก , พี่มะยงค์ , ป้าแอ๊ด กับของฝากแสนอร่อย นิดนรี เรียบเรียงเรื่อง นิดา ถ่ายภาพ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
80'y Long Live the King | ||
![]() |
||
ความทรงจำฉลอง 60 ปีครองราชย์ |
||
View All ![]() |
<< | กันยายน 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 |