*/
บ้านที่พัทยา | ||
![]() |
||
ขอเชิญแวะเที่ยวบ้านกันค่ะ มีผลไม้และดอกไม้ให้ได้ชมกัน |
||
View All ![]() |
<< | มิถุนายน 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
10 ตึกมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุด! ในประเทศอังกฤษ![]() University of Birmingham 10. University of Birmingham (Joseph Chamberlain Memorial Clock Tower, or “Old Joe”) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยอิฐแดง (Red Brick Universities) และเป็นมหาวิทยาลัยอิฐแดงแห่งแรก ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2443 โดยรวมโรงเรียนแพทย์ในพระราชินูปถัมภ์แห่งเบอร์มิงแฮมเข้ากับวิทยาลัยวิทยาศาสตร์เมสัน มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมมีชื่อเสียงในด้านวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์และพาณิชยศาสตร์ ![]() University of Birmingham ![]() Royal Holloway, University of London 9. Royal Holloway, University of London (Founder’s Building) เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยก่อตั้งใน ค.ศ. 1836 ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในโลก มหาวิทยาลัยลอนดอนมีวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกจำนวนหนึ่ง รอแยล ฮอลโลเวย์ เป็นวิทยาเขตที่สวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนพรรณไม้ขนาด 135 เอเคอร์ ภาพที่สวยงามของอาคารอิฐสีแดงในสมัยวิคตอเรีย มีต้นแบบมาจากพระราชวังช็องบอร์ ที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดง บนฝั่งแม่น้ำลัวร์ ของประเทศฝรั่งเศส ฮอลโลเวย์เปิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1886 โดยสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย ตั้งอยู่ชานกรุงลอนดอนไปทางทิศตะวันตก เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น และได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยลอนดอนในปี 1900 ต่อมาในปี 1945 เริ่มรับนักศึกษาชายในระดับปริญญาโทขึ้นไป จนถึงปี ค.ศ. 1965 จึงได้รับนักศึกษาชายในระดับปริญญาตรี ![]() Royal Holloway, University of London 8. Corpus Christi College, University of Oxford มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ มีอายุกว่า 800 ปี ไม่มีหลักฐานประวัติการก่อตั้งแน่นอน แต่มีหลักฐานว่าอ๊อกซฟอร์ดได้เริ่มสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. 1639 (ค.ศ. 1096) และยังเป็นมหาวิทยาลัย 1 ใน 3 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมในยุคศตวรรษที่ 18 ที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ในทางวิชาการ อ๊อกซฟอร์ดจะเน้นหนักไปทางด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ![]() Corpus Christi College ![]() The University of Sheffield (Arts Tower) 7. The University of Sheffield (Arts Tower) มหาวิทยาลัยเชฟฟีลด์ เป็นสถาบันอุดมศึกษาเน้นวิจัยในสหราชอาณาจักร ตั้งที่ใจกลางเมืองเชฟฟีลด์ เมื่อปีพ.ศ. 2448 ได้รับพระบรมราชโองการให้เป็นมหาวิทยาลัย ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อแรกสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาเต็มเวลาเพียง 365 คน และคณาจารย์-เจ้าหน้าที่อีก 71 คน การเติบโตของมหาวิทยาลัยในช่วงต้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2500 มหาวิทยาลัยได้เติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีจำนวนนักศึกษามากกว่าเดิมมาจนถึงปัจจุบัน 6. University of East Anglia (Ziggurats) มหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย ตั้งอยู่ที่เมือง นอริช เริ่มก่อตั้งในปี ค.ศ.1963 ปัจจุบันเป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำที่เน้นทางด้านการวิจัย โดยในปี 2013 มหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพงานวิจัยอันดับที่ 90 ของโลก มหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลียมีชื่อเสียงอย่างมากจากงานวิจัยที่มีผลกระทบกับสภาวะโลกร้อน ในปัจจุบันมีนักศึกษากว่า 17000 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีประมาณ 12000 คน และระดับสูงกว่าปริญญาโทกว่า 4000 คน โดยมีนักศึกษาชาวต่างชาติกว่า 2500 คนจากกว่า 100 ประเทศ ![]() King’s College, University of Cambridge 5. King’s College, University of Cambridge เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับที่สองของสหราชอาณาจักร รองจาก มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 1752 อายุอาคารเหล่านั้นบางหลังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังมีห้องสมุดขนาดใหญ่อีกด้วย ส่วนเรื่องวิชาการเมื่อเทียบกับหลายมหาวิทยาลัยในโลก เคมบริดจ์ได้เปรียบทางวิทยาศาสตร์อยู่มาก เพราะรากฐานทางวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนี้เข้มแข็งมาช้านาน ดังนั้น ตั้งแต่อดีตจวบจนยุคปัจจุบัน นอกจากจะได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นเยี่ยมในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของอังกฤษแล้ว ยังเป็นมหาวิทยาลัยลัยที่มีผู้ได้รางวัลโนเบลสูงที่สุดในโลก อาคารที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์มีชื่อว่า King’s College Chapel เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิก ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 ของสถาบันที่ดีที่สุดของโลก และเป็นมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าอีกแห่งหนึ่งของยุโรปที่เป็นที่ใฝ่ฝันของนักศึกษาจากทั่วโลก ![]() King’s College, University of Cambridge ![]() Queen’s University Belfast (Lanyon Building) 4. Queen’s University Belfast (Lanyon Building) มหาวิทยาลัยควีนส์ออฟเบลฟาสต์ ตั้งอยู่ในเมืองเบลฟัสต์ เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์เหนือ ก่อตั้งขึ้นโดยสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียในปี 1845 และเปิดทำการสอนมาตั้งแต่ปี 1849 ในนาม “Queen’s College, Belfast” ลักษณะอาคารเป็นรูปแบบทิวดอร์โกธิก อาคารทั้งหมดสร้างขึ้นมาจากอิฐสีแดง มหาวิทยาลัยควีนส์ออฟเบลฟาสต์ได้รับขนานนามว่าเป็นผู้นำทั้งด้านการศึกษาและนวตกรรมใหม่ๆ และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ มีห้องสมุด “McClay”ที่เป็นหนึ่งในห้องสมุดที่น่าประทับใจที่สุดในโลกอีกด้วย 3. King’s College London (Hodgkin building) ราชวิทยาลัยแห่งลอนดอน หรือที่รู้จักในชื่อ คิงส์คอลเลจ ลอนดอน เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเก่าแก่มากที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศอังกฤษ เป็นวิทยาลัยหนึ่งในมหาวิทยาลัยลอนดอน และจัดเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยของรัฐ ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ซึ่งที่แห่งนี้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ.1829 โดยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 4 (King George IV) King’s ได้ดำเนินการรวมวิทยาลัยทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์หลายแห่งในลอนดอนเข้าด้วยกัน เป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนและการวิจัยด้านการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป นอกเหนือจากความโดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์แล้ว King’s ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกที่มีผลงานการค้นคว้าและการวิจัยที่ได้รับการยอมรับมาอย่างต่อเนื่องในอีกหลายสาขาวิชา เช่น มนุษยศาสตร์ กฎหมาย การระหว่างประเทศ และสังคมศาสตร์ 2. Plymouth University (Roland Levinsky building) มหาวิทยาลัย Plymouth เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรด้วยประวัติด้านการศึกษาย้อนหลังไปในปี ค.ศ. 1862 โดยมีชื่อเสียงระดับนานาชาติในความเป็นเลิศด้านการสอน, การวิจัยที่มีคุณภาพสูงและโอกาสการเรียนอันยืดหยุ่น ด้วยจำนวนนักศึกษามากกว่า 30,000 คนที่เรียนที่วิทยาเขตของ Plymouth มหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยสมัยใหม่ระดับชั้นนำของสหราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในอันดับที่ 300 จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก นักศึกษาจากทั่วโลกเดินทางมาเรียนเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกภายในวิทยาเขตอันทันสมัย, การให้คำปรึกษาด้านอาชีพอันดีเยี่ยม, โอกาสการวิจัยและคุณภาพชีวิตในภาคตะวันตกเฉียงใต้อันสวยงาม จุดเด่นด้านการวิจัยของมหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับในผลการทดสอบประเมินผลการวิจัย (RAE) ซึ่งให้คะแนนผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยถึง 80% ในระดับมาตรฐานนานาชาติ 1. Durham University (Castle) มหาวิทยาลัยเดอรัม เป็นมหาวิทยาลัยในเมืองเดอรัม ประเทศสหราชอาณาจักร เริ่มมีการเรียนการสอนและความพยายามก่อตั้งมหาวิทยาลัยตั้งแต่ในสมัย กษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 ค.ศ. 1657 โดยได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ 1832 เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของประเทศอังกฤษ (มีการเรียนการสอนมากว่า 600 ปี) รองจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (อันดับ 1) และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (อันดับ 2) มหาวิทยาลัยเดอรัมได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาลัยชั้นสูง ได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ top ของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ และเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้สมัครที่ต้องการเข้าศึกษาต่อที่ Oxford และ Cambridge โดยได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งปี (University of The Year) จากหนังสือ The Times Good University Guide ในปี 2005 อักษรตามหลังชื่อบัณฑิตเพื่อบอกว่าจบจากมหาวิทยาลัยเดอรัม คือ “Dunelm” ![]() Durham University (Castle) ขอบคุณข้อมูล blog.eduzones.com, wikipedia http://teen.mthai.com/education/107741.html |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |