เขียนเอ็นทรี่ที่แล้ว คุณดงละดอน http://www.oknation.net/blog/yaya2508/2014/06/10/entry-1 ถามว่า ไม่มีเมนูนำเสนอบ้างหรือครับ? คงเห็นว่าเพลงกระบี่ฯ ไปขโมยเมนูที่ครัวดงละดอนบ่อยแน่เลย แหะ แหะ อาหารสวิสๆ ช่วงนี้หน้าร้อนไปทางไหนมีแต่ ปิ้ง ย่าง ควันโขมง ส่วนอาหารหนักๆ ก็ไม่เหมาะกับอากาศหน้าร้อน วันก่อนไปอ่านบล็อกคุณหมอวัลลภ http://www.oknation.net/blog/health2you/2014/06/04/entry-2 ท่านว่าใช้ภาษาหลายภาษาจะสมองดี และต้องทานขมิ้นด้วย เพลงกระบี่ฯ เลยมานั่งคิดใช้ภาษาสองภาษาแล้วแต่สมองยังไม่ดีเลย น่าจะขาดขมิ้น ไปหาเมนูขมิ้นมาบำรุงสมองดีกว่า นึกถึงเมนูนี้ ทำแล้วนำเสนอด้วยเลย ทำง่ายดีคะ(ถ้าทำยากเพลงกระบี่ฯ คงไม่ทำแหะ แหะ)

เขาว่ามันชื่อ ทาจีนไก่ในซอสมะเขือเทศและลูกมะกอก ไม่รู้ว่าที่โมร็อคโคมันมีเมนูนี้จริงหรือเปล่า ตั้งใจไปโมร็อคโคแต่ไปถึงแค่เกาะภูเขาไฟของสเปนเลยยังไม่ได้พิสูจน์คะ เพลงกระบี่ฯ เห็นเมนูนี้ในแคตตาล็อคของซุปเปอร์มาเก็ตแถวบ้านเลยเอามาลองดัดแปลงทำดู(สูตรตามใจฉัน)

นี่ละคะโฉมหน้าทาจีน นำภาพจากอินเทอร์เน็ตมาให้ชมคะ

ทาจีน(Tajine,Tagine) มันคือภาชนะดินเผา ทรงกลมๆ แบนๆ มีฝาเป็นกรวยสูงๆ เอาไว้ทำอาหาร ที่บ้านเพลงกระบี่ฯ ไม่มีทาจีน เลยเอาหม้อเคลือบใบเก่าๆ ดำๆ นี่ละมาทำ ทำเสร็จมันก็ออกมาอร่อย(เหมือนกันนะ) คงเทียบกับSoul food ของบล็อกลุงเอส19 ไม่ได้แน่ๆ(คริคริ) http://www.oknation.net/blog/BubbleAndSqueak

 เตรียมเครื่องเครา(อันนี้สำหรับ 4 ที่คะ)

 -ไก่ ใช้น่องหรือสะโพกไก่ก็ได้ 4 ชิ้น (ราวๆ 400 กรัม) ใครไม่ชอบหนังก็เอาแต่เนื้อ

-ขิง 1 แง่งอ้วนๆ

-กระเทียม 4 กลีบอวบๆ

-มะเขือเทศ 4 ลูกงามๆ (หั่นลูกเต๋าชิ้นไม่ต้องเล็กมาก)

-ลูกโอลีฟ 100 กรัม เพลงกระบี่ฯ ไม่ชอบโอลีฟเขียวเลยใช้โอลีฟดำแทน (ถ้าไม่ชอบแทะเม็ด ก็เอาแบบแกะเม็ดแล้ว)

-ขมิ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ

-เลม่อน 1 ลูก(มะนาวเหลือง) ใช้ครึ่งลูกหั่นทั้งเปลือกเป็นเส้นๆ ตามยาว(แนะนำให้ใช้มะนาว Bio ปลอดสารพิษนะคะ)

-เกลือ,พริกไทย

-น้ำมันถั่วลิสง 4 ช้อนโต๊ะ (ไม่มีก็ใช้น้ำมันมะกอกแทน )

 -น้ำสต็อก(ซุป)ไก่ 2 ถ้วย

กระปุกเกลือบ้านนี้คนไทยมาเห็นมักจะขำว่าอุตส่าห์หอบเกลือมาจากเมืองไทย เกลือซื้อเมื่อราวๆ 10 กว่าปีที่แล้ว ใช้ตั้งแต่สมัยอยู่เมืองไทย หมดก็เติมจากถุง มาอยู่เมืองนอกก็หอบกระปุกมาด้วย เกลือข้างในเป็นเกลือฝรั่งไปซะแล้วคะ(แบบนี้เรียกเกลือเป็นหนอนได้ไหมนี่?)

วิธีทำก็ง่าย

ปอกเปลือกกระเทียมกับขิงแล้วสับๆ (ละเอียดขนาดไหนตามใจคนสับ) เอาน้ำมันมะกอกใส่ลงหม้อเคลือบ ใส่ไก่ลงไปทอดไฟแรงเร็วๆ ให้ไก่มีกลิ่นหอมหนังเกรียมๆ (เหลือหนังติดไว้นิดๆ เขาว่าจะเพิ่มรสชาติคะ) เติมกระเทียมและขิงสับลงไป ใส่ขมิ้น เกลือ พริกไทย น้ำสต็อกไก่ คนๆ แล้วปิดฝาแบบแง้มไว้นิดๆ (ตุ๋นไฟกลาง)จนไก่สุก เติมมะเขือเทศและลูกมะกอกแล้วตุ๋นต่อสักพัก ชิมรส เพิ่มพริกไทย เกลือ (ตามรสลิ้นใครลิ้นมัน) ปิดไฟแล้วใส่มะนาวเหลือง (อย่าให้มะนาวเดือด ไม่งั้นจะขม แน่ะ..รู้อีกด้วยนะ) เสร็จแล้วเสิร์ฟพร้อมคูสคูส (Couscous) แต่ที่บ้านเพลงกระบี่ฯ อยากทานกับข้าวเลยหุงข้าวแทน..

หม้อ อายุ 25 ปี ชาร์ป 3 ใบเถา อึด และทน ไม่ใช่ของเพลงกระบี่ฯ แต่เป็นของคนข้างๆ เขาหอบมาจากไทยแลนด์ตั้งแต่ครั้งไปเยือนบางกอกตอนยังละอ่อนๆ จนวัยอ่อนกำลังจะหายไป หม้อยังทนทานปานแรด พังเมื่อไหร่จะเอาเข้าพิพิธภัณฑ์อิอิ

ทำง่าย เลยเสิร์ฟแบบง่ายๆ รอดตายไปอีกมื้อคะ

ไปอ่านบล็อกคุณaornopawan http://www.oknation.net/blog/womenstory/2014/06/03/entry-2 สะดุดใจคำว่า มีคนบอกว่า “เป็นเพราะคนไทยลิ้นถูกปรุงเสียสิ้นแล้ว จึงไม่อาจรับรสธรรมชาติได้” เห็นด้วยกับคนพูดประโยคนี้นะคะ เพลงกระบี่ฯ เองแม้จะเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายแต่ก็ติดอยู่ในรสชาติอาหารไทย อาหารไทยเรานั้นรสชาติถึงลิ้นถึงใจด้วยสรรพเครื่องปรุง เวลาไปเจออาหารจืดๆ ก็อดจะนึกถึงรส พริก ขิง ข่า ตะไคร้ ฯลฯ ไม่ได้ เวลาสอนฝรั่งทำอาหารไทย(แหะ แหะ ฝีมืออย่างเพลงกระบี่ฯ นี่หาญกล้าเหมือนกันนะคะ) ฝรั่งมักอุทาน ทำไมเครื่องเคราเยอะจังไม่ใส่อันนั้น อันโน้น ได้ไหม.. บางคนเรียนไปแล้วมาบอกว่าลองทำดูแล้วไม่ใส่อันนี้ก็อร่อยเหมือนกันนะ เพลงกระบี่ฯ เลยบอกว่านั่นไม่ใช่รสชาติแบบไทยแท้ๆ ถ้าปรุงตามถนัดลิ้นคนทานก็ทำไปเถอะรสไหนอร่อยก็รสนั้น แต่อย่าไปบอกใครว่าเป็นรสชาติแบบไทยแท้ๆ นะ เดี๋ยวเขาจะด่าคนสอน

ป.ล ขออภัยที่ถืออภิสิทธิ์พาดพิงถึงบล็อกเกอร์หลายท่าน เพราะสำหรับเพลงกระบี่นั้นการจะรังสรรค์เมนูอะไรสักอย่างมันต้องใช้แรงบันดาลใจอย่างแรงคะ แหะ แหะ