![]() วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2550 เวลาประมาณบ่ายสามโมง พวกเราก็มาถึงสนามบิน Tân Sơn Nhất International Airport ที่ไซ่ง่อน หรือ โฮจิมินห์ซิตี้ ![]() ตอนนั้นเหมือนกับว่าทางสนามบินจะมีการก่อสร้างกันอยู่ ตอนเดินไปมาลำบากนิดหน่อย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเสร็จแล้วหรือยัง ![]() จากสนามบิน ประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเราก็มาถึงพิพิธภัณฑ์สงคราม War Remnants Museum หรือ Bảo tàng chứng tích chiến tranh ทาง Guide (ชาวเวียดนาม) บอกเราว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ประชาชนเวียดนามบางส่วนไม่ค่อยอยากให้สร้างไว้กลางเมืองโฮจิมินห์ซิตี้เท่าไหร่ เพราะมันเป็นอดีตอันโหดร้าย ขมขื่น ที่หลายคนไม่อยากพูดถึง และเกรงจะทำให้รอยร้าวของประเทศ ที่เคยแบ่งเป็นเวียดนามเหนือ - ใต้ ยากที่จะประสานเข้าด้วยกัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดในเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) โดยในตอนแรกใช้ชื่อว่า The House for Displaying War Crimes of American Imperialism and the Puppet Government of South Vietnam ![]() ต่อมาก็เปลี่ยนชื่ออีกหลายครั้ง เช่น Museum of American War Crimes แล้วก็เป็น War Crimes Museum จนกระทั่งเวียดนามเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง ก็เลยเปลี่ยนชื่อพิพิธภัณฑ์ใหม่เป็น War Remnants Museum แต่ทว่า ภายในพิพิธภัณฑ์ ก็ยังคงแสดงความโหดร้ายป่าเถื่อนของกองทัพอเมริกันอยู่นั่นเอง ![]() ![]() ภายนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงซากชิ้นส่วนอาวุธสงคราม ไม่ว่าจะเป็นรถถัง เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบิน ระเบิด ของกองทัพอเมริกัน ที่ฝ่ายเวียดกงยึดมาได้ ![]() ภายในอาคารมีการจัดแสดงหลายอย่าง เช่น การใช้อาวุธเคมี ในช่วงสงครามเวียดนาม ![]() ว่ากันว่า ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2506-2509 (ค.ศ. 1963-1966) สารเคมีที่ชื่อ Agent Orange ถูกกองทัพอเมริกันใช้ไปมากกว่า 6 ล้านแกลลอน (ตลอดสงครามเวียดนามมีการใช้สารเคมีอื่น ๆ อีกรวมแล้วมากกว่านี้มาก) สารนี้ถูกโปรยโดยเครื่องบินเหนือพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งจะทำให้ใบไม้ร่วง เพื่อเปิดเผยที่ซ่อนของฝ่ายเวียดกง (ซึ่งตั้งฐานที่มั่นอยู่ในป่า) ![]() Agent Orange เมื่อสลายตัวจะให้สารที่ชื่อว่า Dioxin ซึ่งสารตัวนี้ก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพในระบบต่าง ๆ อย่างมาก ตลอดจนถึงการให้กำเนิดทารกที่มีความวิกลรูป นอกจากนี้ สารพิษดังกล่าวยังมีการสะสม ปนเปื้อนอยู่ในธรรมชาติ และสามารถถ่ายทอดอยู่ในห่วงโซ่อาหารได้อีกด้วย !!! ![]() วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968) เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ที่บ้านไหมลาย (My Lai Massacre) ชาวบ้านที่ปราศจากอาวุธจำนวน 400-500 ชีวิต ถูกสังหารโดยกองทหารอเมริกันอย่างเหี้ยมโหด ข้าพเจ้าไม่เข้าใจเหตุการณ์เท่าไหร่ บางคนบอกข้าพเจ้าว่า เป็นเพราะทางอเมริกันคิดว่าหมู่บ้านนี้เป็นเวียดกง บางคนก็บอกว่า นี่เป็นการสังหารผู้บริสุทธิ์ เพื่อป้ายสีกองกำลังฝ่ายเวียดกงว่าป่าเถื่อนโหดร้าย เพื่อหาความชอบธรรมให้กับฝ่ายเวียดนามใต้และสหรัฐอเมริกาเอง ![]() Guide บอกข้าพเจ้าว่า ภาพนี้ได้มาจากทหารอเมริกันคนหนึ่งซึ่งบันทึกภาพเหล่านี้เอาไว้ เมื่อสงครามเวียดนามสงบ แต่ภายสงครามในจิตใจยังไม่จบสิ้น หลายปีผ่านไป เค้าฝันร้ายเห็นแต่ภาพเหล่านี้จนจะเป็นบ้า ก็เลยเอาภาพและเรื่องราวการสังหารหมู่นี้ ออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชน ![]() ![]() ![]() ![]() ประติมากรรมนี้ มีชื่อว่า Mother สร้างขึ้นจากเศษซากชิ้นส่วนวัตถุระเบิดในช่วงสงครามเวียดนาม ![]() ที่จริงในอาคารมีสิ่งจัดแสดงเยอะกว่านี้ นี่เอาให้ชมกันเพียงบางส่วนเท่านั้น ทางด้านนอกอาคาร ยังมีห้องจัดแสดงย่อย ๆ อีก ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() มีอยู่ห้องหนึ่ง มีภาพวาด แสดงวิธีการสืบสวน สอบสวน และ ทรมานรูปแบบต่าง ๆ ที่ทหารอเมริกันใช้กับบรรดาเวียดกง ![]() ![]() นักโทษการเมืองที่ถูกทางรัฐบาลเวียดนามใต้ (ในการควบคุมของสหรัฐอเมริกา) จะถูกนำไปคุมขังไว้ที่คุกในเกาะ Côn Sơn ในหมู่เกาะ Côn Đảo ในพิพิธภัณฑ์ได้จัดห้องแสดงส่วนหนึ่งให้มีบรรยากาศคล้ายคุกที่นั่น ![]() ![]() จะมีห้องคุมขังที่เรียกกันว่า Tiger Cages ไว้สำหรับนักโทษคนสำคัญโดยเฉพาะ ![]() เครื่องประหารแบบกิโยตินถูกนำเข้าเวียดนามตั้งแต่ประมาณ 100 ปีก่อนโดยฝรั่งเศส ต่อมา ในช่วงสงครามเวียดนาม ได้มีการนำกิโยตินมาใช้ในการประหารชีวิตนักโทษการเมืองด้วย ![]() นักโทษการเมืองคนสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยติน คือ Hoang Le Kha ในปี พ.ศ. 2503 (ค.ศ. 1960) ![]() พวกเราเดินออกจากคุกจำลองมา ก็มาถึงห้องจัดแสดงนิทรรศการ การต่อต้านจักรวรรดิอเมริกัน ![]() ![]() ![]() ![]() มีภาพ poster จากหลาย ๆ ประเทศ เพื่อต่อต้านสหรัฐอเมริกา และเรียกร้องให้ถอนทหารออกจากเวียดนาม ![]() และมีห้องหนึ่งจัดแสดงภาพชีวิต และ การสร้างชาติ หลังจากสงครามเวียดนาม Guide ชาวเวียดนามบอกข้าพเจ้าว่า มีคนเปรียบเทียบเวียดนามกับญี่ปุ่นว่ามีความคล้ายกัน คือ แม้บ้านเมืองต้องพังพินาศจากสงครามเพราะสหรัฐอเมริกา แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง แต่ที่แตกต่างกันก็คือ ญี่ปุ่นแพ้สงครามด้วยความอับอาย และยังต้องเป็นอาชญากรสงครามโลกครั้งที่สองอีกด้วย ส่วนเวียดนามนั้นชนะสงครามเหนือสหรัฐอเมริกาด้วยความภาคภูมิ ![]() นั่นก็เป็นสำนึก และ ความทรงจำของคนเวียดนามรุ่นเก่า ซึ่งไม่ทราบว่าคนเวียดนามรุ่นปัจจุบันจะมีสำนึกในแบบเดียวกันนี้หรือไม่ แม้ในตอนแรก ประชาชนเวียดนามบางส่วนจะไม่ค่อยอยากให้มีพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งชื่อเดิมคือ The House for Displaying War Crimes of American Imperialism and the Puppet Government of South Vietnam ด้วยเหตุผลต่าง ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของคนในประเทศที่เคยเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน หรือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับสหรัฐอเมริกา แต่ในตอนนี้ ประชาชนหลายคนรวมถึงรัฐบาลก็อยากให้มีพิพิธภัณฑ์ War Remnants Museum นี้ไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในช่วงที่ประเทศแบ่งเป็นเวียดนามเหนือ (คอมมิวนิสต์) กับ เวียดนามใต้ (โดยการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา) ทำสงครามเผชิญหน้ากันเอง ![]() ว่าแต่ สงครามครั้งใหม่ในตอนนี้ ได้เปลี่ยนจากอาวุธหนัก มาเป็น เงินทุน สินค้า และ การบริการต่าง ๆ มีการปลูกฝังค่านิยม เพื่อกระตุ้นการบริโภค และค่านิยมในการดำเนินชีวิตตามแบบทุนนิยม ก่อให้เกิดช่องว่างทางสังคมและรายได้ในประเทศ ซึ่งจะกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ จนดูเหมือนว่า ถ้าไม่ได้มีการรับมือที่ดีแล้ว ทุนนิยมสมัยใหม่ ซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา อาจจะเข้าไปแบ่งแยกกลุ่มคนในเวียดนามได้อีกครั้ง
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
วิธีเล่น ลูกข่างพื้นเมืองของชาวเหนือ | ||
![]() |
||
มีคนนำลูกข่างนี้มาให้ข้าพเจ้าเมื่อคราวที่ยังทำงานที่เชียงใหม่ เนื่องจากว่าแปลกดี จึงบันทึกวิธีเล่นไว้ |
||
View All ![]() |
<< | มีนาคม 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |