*/
ธรรมชาติของนานาสัตว์ | ||
![]() |
||
สัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น |
||
View All ![]() |
ดร.สนอง กับ ทไวไลท์โชว์ (ITV ๘ มกราคม ๒๕๕๐) | ||
![]() |
||
ธรรมบรรยาย |
||
View All ![]() |
<< | กุมภาพันธ์ 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 |
เผย ! 6 มูลเหตุแห่งการทะเลาะวิวาท เพลงชาติและธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราชและความเสียสละของบรรพบุรุษไทย เวลา 8 นาฬิกา ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย แม้เสียงเพลงชาติจะจบลงเพียงไม่กี่นาทีหลังจากเวลา 8 นาฬิกาของทุกวันและเริ่มต้นดังขึ้นอีกครั้งหลังจาก 10 ชั่วโมงผ่านไปก็ตาม ทุกวันนี้ ความรักและความสามัคคี ก็มิได้แพร่กระจายไปยังทั่วทุกตามรางนิ้วของประเทศแต่อย่างใด ในทางกลับกัน ความเกลียดชังและการทะเลาะวิวาท ต่างหาก ที่กำลงทำหน้าที่แพร่ขยายไปยังทั่วทุกหย่อมหญ้า ทุกหัวระแหง ณ ที่ใดก็ตาม ที่คนไทยมีความเห็นแตกต่าง (ทางการเมือง) คนละเรื่องเดียวกัน ย้อนไปในสมัยพุทธกาล ณ โฆสิตาราม เมืองโกสัมพี ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายทะเลาะกันและกันด้วยหอก คือ ปาก ภิกษุรูปหนึ่งจึงทูลขอร้องให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไประงับเหตุ ภิกษุทั้งหลาย ! พอที พวกเธอทั้งหลาย เมื่อตรัสอย่างนี้แล้ว มีภิกษุบางรูปทูลขึ้น
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นธรรมสามี ! พวกข้าพระองค์ทั้งหลายจักทำให้เห็นดำเห็นแดงกัน คนไพร่ ๆ ด้วยกัน ส่งเสียงเอ็ดตะโร แต่หามีคนไหน สำคัญตัวว่า เป็นพาลไม่ พวกใด ยังผูกใจเจ็บอยู่ว่า พวกใด ไม่ผูกใจเจ็บว่า ในยุคไหนก็ตาม คนพวกอื่นไม่รู้สึกว่า พวกเราจะแหลกลาญก็เพราะเหตุนี้
หรือแม้กระทั่ง ประชาชนด้วยกันที่แบ่งแยกความเป็นคนไทย เพียงเพราะคนคนนั้นใส่เสื้อสี แดง เหลือง น้ำเงิน ซึ่งไม่เหมือนกันตน และหากคนไทยยอมรับตรงกันว่า ความเกลียดชังและการทะเลาะวิวาทของกลุ่มคนที่มีความเห็น (ทางการเมือง) ต่างกัน เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมที่ทำให้คนไทยแตกกันเอง ณ ขณะนี้ สิ่งหนึ่งที่คนไทยจะต้องเรียนรู้ร่วมกัน ก็คือ ปัญหาเรื้อรังของสังคมที่ถูกขนานนามว่า วิกฤติชาติ มีสาเหตุมาจากอะไร คนละเรื่องเดียวกัน ย้อนไปในสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ถึงมูลเหตุแห่งการวิวาทไว้ ถึง 6 มูลเหตุ ดูก่อนอานนท์ ! มูลเหตุแห่งความวิวาทนี้มี 6 อย่าง ดูก่อนอานนท์ ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มักโกรธ มีความผูกโกรธ ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้มีความลบหลู่ มีความตีเสมอ ภิกษุเป็นผู้โอ้อวด เป็นผู้มีมายา ภิกษุเป็นผู้มีความปรารถนาลามก มีความเห็นผิด ภิกษุเป็นผู้มีความเห็นเอาเอง มีความเชื่อถือผิวเผิน มีความถือรั้นสละคืนได้ยาก ย่อมไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ภิกษุที่ไม่มีความเคารพ ไม่มีความยำเกรง ย่อมก่อความวิวาทให้เกิดในสงฆ์ ซึ่งเป็นความวิวาท มี ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าพวกเธอพิจารณาไม่เห็นมูลเหตุแห่งความวิวาทเช่นนี้ในภายในหรือในภายนอก การละมูลเหตุแห่งความวิวาทอันลามกนี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการเช่นนี้ ดูก่อนอานนท์ ! เหล่านี้แล มูลเหตุแห่งความวิวาท 6 อย่าง ฯ และหนึ่งในมูลเหตุสำคัญที่จะขยายความโดย พุทธวจนะ ก็คือ ทิฏฐิ (ความเห็น) ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งการวิวาท ณ ขณะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ 3 จำพวก ณ ขณะนี้ ก็ยังคงมี 3 จำพวกเดียวกัน คือ สิ่งทั้งปวง ควรแก่ข้าพเจ้า เป็นทิฎฐิที่กระเดียดไปในทาง สิ่งทั้งปวง ไม่ควรแก่ข้าพเจ้า เป็นทิฎฐิที่กระเดียดไปในทาง สิ่งบางสิ่งควรแก่ข้าพเจ้า สิ่งบางสิ่งไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ทิฎฐิใดที่ว่า สิ่งบางสิ่ง ควรแก่ข้าพเจ้า เป็นทิฏฐิที่กระเดียดไปในทาง ทิฎฐิใดที่ว่า สิ่งบางสิ่ง ไม่ควรแก่ข้าพเจ้า เป็นทิฏฐิที่กระเดียดไปในทาง ครั้งนั้น อัคคิเวสนะตรัสแก่พระสัมมมาสัมพุทธเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! ข้าพเจ้ามีวาทะมีความเห็นอย่างนี้ว่า อัคคิเวสสนะ ! (ถ้าอย่างนั้น) ความเห็นของท่านเองที่ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! ความเห็นแม้โน้นของข้าพเจ้า ต้องควรแก่ข้าพเจ้าว่า ความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นเช่นนั้นทีเดียว (ถูกต้อง) อัคคิเวสสนะเอ๋ย ! มันมีมากกว่า มากกว่านี้นักในโลกนี้ คือ พวกที่กล่าวอยู่ว่า ความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นเช่นนั้นทีเดียว (ถูกต้อง) แล้วเขาไม่ละความเห็นนั้นเสีย อัคคิเวสสนะเอ๋ย ! มันมีน้อยกว่า น้อยกว่านี้นักในโลกนี้ คือ พวกที่กล่าวอยู่ว่า ความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นเช่นนั้นทีเดียว (ถูกต้อง) แล้วเขาละความเห็นนั้นเสียได้ อัคคิเวสสนะ ! มีสมณพราหมณ์ พวกหนึ่ง มีวาทะมีความเห็นอย่างนี้ว่า สิ่งทั้งปวง ควรแก่ข้าพเจ้า มีสมณพราหมณ์ พวกหนึ่ง มีวาทะมีความเห็นอย่างนี้ว่า สิ่งทั้งปวง ไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ดังนี้ก็มี มีสมณพราหมณ์ พวกหนึ่ง มีวาทะมีความเห็นอย่างนี้ว่า สิ่งบางสิ่งควรแก่ข้าพเจ้า สิ่งบางสิ่งไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ดังนี้ก็มี หลังจากนั้นพระองค์ก็อธิบายทิฏฐิแต่ละจำพวกดังที่แยกไว้ข้างต้น แล้วตรัสต่อไปว่า อัคคิเวสสนะ ! ในบรรดาสมณพราหมณ์สามพวกนั้น สมณพราหมณ์พวกใดมีวาทะ มีความเห็นว่า สิ่งทั้งปวงควรแก่เรา ในสมณพราหมณ์พวกนั้น บุรุษผู้วิญญูชนย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าเราถือเอาทิฎฐิของพวกที่ถือว่า ดังนี้ มากล่าวยืนยันอยู่อย่างแข็งแรงว่า สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า ดังนี้ไซร้ การถือเอาอย่างขัดแย้งกันต่อสมณพราหมณ์อีกสองพวก ก็จะพึงมีแก่เรา คือ ขัดแย้งกับพวกที่มีวาทะมีความเห็นว่า สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่เรา สิ่งบางสิ่งควรแก่เรา สิ่งบางสิ่งไม่ควรแก่เรา การถือเอาอย่างขัดแย้งกันต่อสมณพราหมณ์สองพวกเหล่าโน้น ก็มีแก่เราด้วยอาการอย่างนี้ เมื่อการถือเอาอย่างขัดแย้งกันมีอยู่ การวิวาทกันก็ย่อมมี บุรุษวิญญูชนนั้น เห็นอยู่ซึ่ง เขาก็ละทิฎฐินั้นเสีย และไม่ถือเอาทิฎฐิอื่นขึ้นมาอีก การละเสีย กล่าวอย่างสั้นที่สุด ความเห็นต่างกันทั้ง 2 จำพวก คือ สิ่งทั้งปวงควรแก่เรา หรือ ฉันเห็นด้วย (กับความคิด คำพูดและการกระทำ) ทั้งหมด สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่เรา หรือ ฉันไม่เห็นด้วย (กับความคิด คำพูดและการกระทำ) ทั้งหมด ต่างก็เป็นความเห็นที่สุดโต่งทั้งคู่ สุดออกไปคนละขั้วคือ ไม่บวก ก็ลบ ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นแห่ง วิกฤติชาติ (ความเกลียดชังและการทะเลาะวิวาท) ที่ปรากฏให้เห็นผ่านระยะเวลานานถึง 5 ปี และที่เห็นชัดและคุกกรุ่นอยู่ ณ ปัจจุบัน ก็คือ แนวความคิด ฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย หรือแม้กระทั่งความเห็นจำพวกสุดท้าย คือ สิ่งบางสิ่งควรแก่เรา สิ่งบางสิ่งไม่ควรแก่เรา หรือ ฉันเห็นด้วย (กับความคิด คำพูดและการกระทำ) บางส่วนและ ไม่เห็นด้วย(กับความคิด คำพูดและการกระทำ) บางส่วน ก็ไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้น หากยึดมั่นถือมั่นในความเห็นต่าง จำพวกใดจำพวกหนึ่ง ในลักษณะกัดไม่ปล่อย นั่นก็เป็นที่มา เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเกลียดชังและการทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นความขัดแย้งเชิงโครงสร้าง (การเมือง+สังคม) ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วทั้งแผ่นดิน ในทางกลับกัน หากพิจารณา พุทธวจนะ ข้างต้น อย่างละเอียด ก็จะทราบนัยยะที่แฝงไว้ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแก่ผู้ซึ่งมีทิฏฐิ (ความเห็น) อย่างใดอย่างหนึ่งจากทั้ง 3 จำพวกนี้ ในลักษณะเตือนสติให้ระลึกอยู่เสมอว่า อย่าคิดว่าสิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า วลีนี้เอง เป็นกุศโลบายสำคัญในการลดทิฏฐิ (ความเห็น) ของคู่ขัดแย้งให้น้อย ให้เบาบางลง เพื่อที่สุดจะได้ไม่นำพามวลชนไปสู่ ความเกลียดชังและการทะเลาะวิวาท อันเป็นที่มาแห่ง ความรุนแรง หลังจากเรียนรู้ร่วมและเห็นตรงกันแล้วว่า ปัญหาเรื้อรังของสังคมคือ... และมีสาเหตุมาจาก...แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ ก็คือ ณ วันนี้ ความฝันอันสูงสุดของคนไทย จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากความรักและความสามัคคี ความรักและความสามัคคีของคนไทย นี่แหละ คือ ของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่คนไทยทุกคนปรารถนาได้และปรารถนาจะถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงที่คนไทยรักสุดหัวใจ...ขอจงทรงพระเจริญ !
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |