*/
<< | พฤศจิกายน 2019 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
link@: learning english with voa news: Sunday, November 10, 2019 สวัสดีครับ ขออภัยที่ผมลืมโพสต์คำปรารภแต่แรก แล้วเพิ่งย้อนกลับมาพบขณะนี้ อาการชราภาพของผมกำเริบมากขึ้นทุกที ตามปกติ ผมจะเก็บข่าวจากน.ส.พ.และสื่อออนไลน์มาเผยแพร่ต่อในบล็อกนี้ด้วยปริมาณที่สมควร ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้อ่านบ้างพอสมควร โดยทั้งนี้ ผมจะสอดแทรกความเห็นของผม ก็ตรงส่วนคำปรารภนี้เท่านั้น ส่วนข่าวและข้อมูลทั้งหมด ผมได้นำมาจากแหล่งของมันโดยตรงครับ สิ่งที่ผมต้องการอย่างมากขณะนี้ คือ ความเห็นของคุณๆนะครับ ถ้ามีเวลาก็โปรดส่งความเห็นมาบ้าง เพราะอาจจะเป็นประ โยชน์ต่อสังคมต่อไปก็ได้ครับ ขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้
เราไม่ทิ้งกัน 'วันนี้ ๑ ล้าน' แล้ว![]() กราบขอบคุณทุกๆ ท่าน แทน ๑๕+๕ ชรบ.ลำพะยา
ผมขอ ๒ แสน (คลิกที่รูปเพื่ออ่านข่าว)
............................................................
......................................................
ขบเหลี่ยมซ่อนปม กลเกมแก้รัฐธรรมนูญ กลิ่นอายขัดแย้งรอบใหม่ขอแสดงความเสียใจต่อญาติมิตร ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกยิงถล่มป้อมจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่บ้านทุ่งสะเดา ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย ที่เป็นทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.62 แม้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พอรู้เบาะแส กำลังเร่งตรวจสอบ สืบหาคนร้าย ลากตัวมาลงโทษ ก็ขอให้ได้ตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ววัน และขอประณามต่อการกระทำของกลุ่มคนร้าย ที่ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใด กลุ่มใด ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ไม่อยากเห็นความสงบเกิดขึ้นในประเทศไทย เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเหตุการณ์เลวร้ายในแถบจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบหลายปี สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก หันกลับมามองเรื่องราวการเมืองในประเทศก็ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวความวุ่นวาย ระหว่างซีกรัฐบาลกับซีกพรรคฝ่ายค้าน ที่จับจ้องเอาผิด กันตาต่อตาฟันต่อฟัน พรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรค พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลังปวงชนไทย มีมติเอกฉันท์ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างแน่นอน เพียงแต่ยังไม่ระบุถึงตัวบุคคล หากไม่นับนายกรัฐมนตรีที่จะโดนจองกฐินแน่นอน หลีกเลี่ยงไม่ได้ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ส่วนรัฐมนตรีคนใด จำนวนกี่คน ยังไม่มีการระบุออกมา พรรคร่วมฝ่ายค้านยังอุบไต๋ มีเพียงคำขู่ออกมา มีข้อมูลเด็ด มีหลักฐานเชื่อมโยงที่น่าจะเชื่อได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน พร้อมทั้งกางปฏิทิน ล็อกเวลาเอาไว้ล่วงหน้า 18-19-20 ธ.ค. คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการซักฟอกรัฐบาล คงได้แต่ตามดู ข้อมูล หลักฐาน ที่เริ่มออกมาโหมโรงกัน จะเป็นไม้เด็ด-หมัดน็อกรัฐบาลประยุทธ์ หรือสุดท้ายเป็นแค่เวทีตีกินทางการเมืองเท่านั้น เรื่อง "ศึกซักฟอกรัฐบาล" ยังต้องตามรอดูกันต่อไป แต่ในห้วงเวลานี้ที่บางพรรคการเมืองจากพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคซีกฝ่ายค้าน 7 พรรค มองเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งทำโดยเร็วคือ เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มองว่าเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศ ญัตติด่วนที่พรรคการเมืองและ ส.ส.ที่อยากเห็น "การแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ที่จะเสนอสภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ถูกเลื่อนไปพิจารณาเป็นสัปดาห์หน้า และตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญกำลัง ห้ำหั่นโดยคนจากขั้วเดียวกัน เห็นไม่ตรงกัน พรรคประชาธิปัตย์ได้ข้อสรุปดัน มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าว พรรคพลังประชารัฐกำลังควานหาตัว หลังจาก สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไม่รับตำแหน่ง ขอทำหน้าที่เพียงตำแหน่งรองประธานสภาฯ เพียงอย่างเดียว ทำให้พรรคพลังประชารัฐต้องเร่งหาแคนดิเดตคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ งานนี้ ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ ยอมกันไม่ได้ แม้คณะกรรมาธิการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีวาระการทำงาน 45-60 วันเท่านั้น แต่ตำแหน่งประธานถือเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญในระหว่างศึกษา เพราะเป็นผู้กำหนดเกม กำหนดวาระ ซึ่งถ้าได้คนที่อยากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมากๆ อาจจะมีมติผลักดัน จุดพลุทำให้เกิดกระแสสังคมคล้อยตามต่อ การแก้ไขทั้งฉบับ โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาร่วมร่าง ในทางตรงกันข้าม หากเป็นซีกที่อยากจะแก้เป็นพิธี ก็อาจจะได้ข้อสรุปออกมา จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงบางมาตราที่เอื้อให้ตัวเองทำงานคล่องตัวขึ้น ในส่วนของพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายค้าน รอดูสถานการณ์ ในใจลึกๆ อยากเห็น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามาทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการ แม้ที่ผ่านมาจะมีความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน แต่สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ไปในทิศทางเดียวกัน มองประชาธิปัตย์กับอภิสิทธิ์เป็นแนวร่วมมุมกลับอภิสิทธิ์นั้นชัดเจน ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ก่อนทำประชามติ ก่อนการเลือกตั้งไม่นาน ยังมาตอกย้ำให้เห็นถึง ข้อเสียรัฐธรรมนูญ ประกาศเลิกเกรงใจ ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ซึ่งในแง่หลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญตรงกัน ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ต่างรู้ไส้รู้พุงกันดี เพื่อไทยบอกไม่ยึดติดตัวบุคคล เป็นใครก็ได้ หากเป็นในซีกอภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะส่งใครมา ล้วนเป็นคนที่ไม่เอารัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งสิ้น เพื่อไทยรอเพียงผสมโรง เตรียมชงมือกฎหมายระดับเซียนเข้าไปทำหน้าที่เป็น กรรมาธิการวิสามัญ เงื่อนปมรัฐธรรมนูญที่เขียนล็อก ที่ทำให้นักการเมือง พรรคการเมือง แทบขยับทำอะไรไม่ได้ พรรคเพื่อไทยระบุชัด รัฐธรรมนูญหมวด 1-2 จะไม่มีการแก้ไขอย่างเด็ดขาด แต่เรื่องที่จะแก้ไข มีทั้งการให้อำนาจ ส.ว.มากเกินขอบเขต ที่อาจจะมีการแก้ไขห้ามเข้าไปร่วมโหวตนายกฯ การให้อำนาจองค์กรอิสระบางองค์กรที่ให้ไว้มากเกินไป การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ระบบเลือกตั้งใบเดียว การนับคะแนน ล้วนอยู่ในขอบเขตที่เพื่อไทยเพ่งเล็งให้ความสำคัญ พรรคอนาคตใหม่ เป้าหมาย สิ่งที่อยู่ในใจ ติดในใจอนาคตใหม่มาตลอดคือ มรดก คสช. ประกาศคำสั่งต่างๆ ไปจนถึงยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรา 279 ที่ให้ความคุ้มกันบรรดาประกาศและการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ยังไม่นับรวมเรื่องราวเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ทางทหาร สภากลาโหม ล้วนเป็นเรื่องท้าทายสำหรับอนาคตใหม่ที่จะเข้าไปแตะทั้งสิ้น เวลานี้เพื่อไทย อนาคตใหม่ มองประชาธิปัตย์เป็นแนวร่วมมุมกลับ สมานฉันท์ทางความคิด รัฐธรรมนูญ 2560 ต้องถูกแก้ไข เพียงแต่รูปแบบ วิธีการอาจแตกต่างออกไป เพื่อไทย อนาคตใหม่ เห็นตรงกัน ต้องปลดล็อก 256 เปิดทางให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ นำมาสู่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อให้เกิดการแก้ไขทั้งฉบับให้ได้ก่อน ในส่วนของประชาธิปัตย์ดูจะเน้นไปที่แก้ไขรายมาตรา มุมติดขัดที่เกี่ยวกับนักการเมือง พรรคการเมือง ระบบการเลือกตั้ง มองปัญหาไม่แตกต่างจากพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ว่ากันว่าอยากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นกัน เพียงแต่อาจจะแก้ไขเพียงเป็นพิธีไม่กี่มาตรา เพื่อเอื้ออำนวยให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น ให้ลดแรงเสียดทานทางสังคมลงไปบ้างเท่านั้น อย่างไรก็ดี การแก้ไขรัฐธรรมนูญจากโมเดลความคิดเพื่อไทย อนาคตใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่อยากให้มีการแก้ไขทั้งฉบับ โดยมี ส.ส.ร.เข้ามา สาระสำคัญของมาตรา 256 ที่นำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลายขั้นตอนตั้งแต่ การขอแก้ไขเพิ่มเติม การออกเสียงลงคะแนนในวาระหนึ่ง รับหลักการ การพิจารณา วาระสอง และการออกเสียงในวาระสาม ล้วนต้องอาศัยเสียง ส.ว. 1 ใน 3 เข้ามาร่วมโหวตด้วย ซึ่งการทำงานในอดีต การโหวตเลือกนายกฯ ส.ว.ทั้งหมดเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีใครแตกแถว การที่ ส.ส.หวังพึ่งเสียง ส.ว.เข้ามาร่วมโหวตในทางเดียวกัน จึงเป็นเรื่องยาก ไม่ต่างอะไรจากการเข็นครกขึ้นภูเขา ขณะที่ นายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ระบุถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า บางฝ่ายคิดเพียงการแก้ไขเพิ่มเติมเพียงบางปม แต่บางฝ่ายแก้ไขเพิ่มเติมให้มี ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างฯ ฉบับใหม่ การทำรัฐธรรมนูญใหม่นี้จะเป็นการย้อนกลับไปนับหนึ่งใหม่ สังคมอาจมีปัญหา หากจะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉบับปัจจุบันกว่าจะเสร็จสิ้นผ่านการรณรงค์และสอบถามประชาชนและใช้งบประมาณจำนวนไม่น้อย การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไทย อนาคตวางเป้าต้องรื้อใหม่หมด โดยไม่แตะหมวด 1-2 พลังประชารัฐ แม้จะแก้ไข ก็จะแก้ไขเป็นพิธี เพื่อลดแรงเสียดทานทางสังคม ประชาธิปัตย์มุ่งเป้าแก้ไขรายมาตรา ที่ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการทำงาน นาทีนี้เพียงแค่ตำแหน่งประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นเกมวัดพลังในชั้นแรก ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย อนาคตใหม่ ไม่ติดใจหากอภิสิทธิ์จะมาคุมเกมนี้ ส่วนพลังประชารัฐแว่วเสียงเล็งไปที่คนนอก เซียนกฎหมายมีชื่อเสียงระดับประเทศ ที่กำลังเร่งทาบทาม ไม่ยอมเสียเหลี่ยม ยกตำแหน่งนี้ที่มีความสำคัญยิ่งไปให้คนจากพรรคอื่น เหมือนที่เคยเสียตำแหน่งประธานสภาฯ ไป การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่ได้เริ่มต้น ยังไม่รู้พอมีคณะกรรมการวิสามัญฯ เข้าไปศึกษา จะแก้เงื่อนปม มาตราใดบ้าง เพราะแต่ละฝ่ายก็มีธงชัด แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น เพียงแค่ตำแหน่งประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ ยังแย่งชิงตำแหน่ง ผลักดันคนของตัวเองเข้าไปเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ทางการเมือง ยังไม่ทันนับหนึ่ง เดินหน้าว่าด้วยเรื่องที่จะแก้ไข ก็สัมผัสถึงความวุ่นวาย ความขัดแย้งเสียแล้ว. ทีมข่าวการเมือง
"บิ๊กตู่" รุกรอบด้านสกัดพิษ "เศรษฐกิจ" ฉุด รบ.ดิ่งยังอยู่ในช่วงที่หลายฝ่ายจับตาการทำงานของรัฐบาล "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามกลไกประชาธิปไตย ที่นอกจากต้องเผชิญปัญหาในสนามการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว เวลานี้ "บิ๊กตู่" ยังต้องนำทัพฟันฝ่ากับปัญหาด้านเศรษฐกิจ ที่ภายนอกยังมีสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ ซึ่งส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงไทยก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่สหรัฐประกาศตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สำหรับสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในปีนี้ และนั่นทำให้รัฐบาลต้องรุกออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเริ่มจากภายในประเทศที่มีมาตรการออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ช่วยผู้มีรายได้น้อย กระทั่งล่าสุดโครงการ "ชิม ช้อป ใช้" ที่รัฐบาลหวังกระตุ้นการหมุนเวียนเงินให้กระจายไปสู่ฐานรากให้มากขึ้น โดยเปิดลงทะเบียนไปแล้วถึง 2 เฟส มีผู้ใช้สิทธิ์ถึง 13 ล้านคน ยอดการใช้จ่ายผ่าน G-Wallet ทะลุกว่า 10,000 ล้านบาท มีการใช้จ่ายยอดการทำธุรกรรมมากถึง 140,000 ธุรกรรมต่อวินาที และขณะนี้รัฐบาลกำลังเตรียมออกเฟส 3 ภายในปีนี้ หากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ นอกจากนี้ยังมีโครงการ "100 เดียวเที่ยวทั่วไทย" โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตามมาอีกหนึ่งโครงการ เพื่อเป็นของขวัญให้คนไทยได้เที่ยวในราคา 100 บาท ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนและเปิดให้เลือกของขวัญถึง 4 รอบ ในวันที่ 11, 12 พฤศจิกายน 2562 และ 11, 12 ธันวาคม 2562 ที่จะถึงนี้ โดยในแต่ละรอบจะมีของขวัญประชาชนให้เลือกซื้อ 10,000 รายการ แต่ละคนจะมีสิทธิ์เลือกซื้อของขวัญได้เพียงคนละ 1 รายการเท่านั้น และตลอดโครงการเลือกซื้อสินค้าได้ในทุกจังหวัดอีกด้วย ขณะเดียวกันยังมีมาตรการสกัดการแข็งค่าของเงินบาท จากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี หลังคณะกรรมการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้และต่ำกว่าศักยภาพมากขึ้นจากการส่งออกที่ลดลง ซึ่งจะส่งผลไปสู่การจ้างงานและอุปสงค์ในประเทศ และยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอีกหลายด้าน ดังนั้น นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นนี้ จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับสู่กรอบเป้าหมาย โดยธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาล ได้สนองนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลทันที เพราะมีลูกค้ารายย่อยจนถึงระดับ SMEs เป็นจำนวนมาก จึงได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราเท่ากัน 0.125% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินเบิกเกินบัญชีลดลงจาก 6.87% เหลือ 6.745% ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินกู้ที่มีระยะเวลา ปรับลดลงจาก 6.50% เหลือ 6.375% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภายในประเทศที่มีส่วนสำคัญ ซึ่งนับเป็นโอกาสดีของไทยในการเป็นประธานอาเซียนปีนี้ ทำให้ได้พบปะกับนานาประเทศ ได้มีโอกาสเปิดบ้านขายของ โชว์ศักยภาพและชักชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะจุดขายของไทยอย่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ต่างประเทศให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และนอกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ที่ออกมาเรื่อยๆ แล้ว ล่าสุด “บิ๊กตู่” ยังเริ่มจัดทัพ ทยอยดึงมือดีที่มีความสามารถในด้านการเจรจาระหว่างประเทศมาเสริมทีมช่วยประสานผลักดันด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยมติ ครม.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่งตั้ง "นายบรรสาน บุนนาค" อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มาดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เพื่อให้มาช่วยประสานดึงนักลงทุนจากญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทย โดยที่ผ่านมา นายบรรสานมีผลงานโดดเด่นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิดรอบด้าน และยังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ The Order of the Rising Sun ชั้น Grand Cordon จากสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น เพื่อแสดงความชื่นชมและขอบคุณที่ทำคุณประโยชน์ ในการส่งเสริมมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับญี่ปุ่น อีกทั้งก่อนที่นายบรรสานจะเกษียณอายุราชการ ครม.ยังได้ต่ออายุให้อีก 1 เดือน เพื่อรองรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ที่พล.อ.ประยุทธ์และภริยาเดินทางเข้าร่วมเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และที่สำคัญช่วงที่นายบรรสานดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ยังได้นำคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นกว่า 600 คน มาเยือนไทยเพื่อสำรวจศักยภาพของอีอีซีอีกด้วย เรียกว่าเป็นสายตรงจากญี่ปุ่นก็ว่าได้ และยังมีกระแสข่าวด้วยว่า ก่อนหน้าที่นายบรรสาน จะตัดสินใจมารับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกฯ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ก็ได้เคยประสานให้มาร่วมงานด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการตั้งรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมืองเพิ่มเติมอีก เพื่อมาช่วยประสานกับสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นการเฉพาะ คือ "นายพิริยะ เข็มพล" อดีตเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา "บิ๊กตู่" ก็ได้เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ไปอย่างชื่นมื่น มีการหารือถึงการลงทุนในด้านต่างๆ ที่ฝ่ายจีนยื่นมือพร้อมอำนวยความสะดวกและดูแลภาคเอกชนไทย และฝ่ายจีนยังสนใจโครงการเด่นของไทยอย่างอีอีซี สนใจส่งเสริมความร่วมมือด้านข้าว และดันโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนด้วย รวมถึงการเยือนไทยของนายกฯ จีนครั้งนี้ ยังมีพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและจีนถึง 3 ฉบับ นั่นจึงเป็นอีกช่องทางที่สามารถผลักดันเรื่องการลงทุนระหว่างไทยและจีนได้ จึงต้องอาศัยผู้ที่รู้งานและมีสัมพันธไมตรีที่ดี สามารถประสานงานกับจีนได้ ขณะเดียวกันในปลายปีนี้ยังต้องจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านของขวัญปีใหม่ ที่รัฐบาลจัดให้ประชาชนเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงการคลัง ที่ตอนนี้เผยแคมเปญแรก “บ้านในฝัน รับปีใหม่” เพื่อขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียน การโอนกรรมสิทธิ์ และลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนที่อยากมีบ้านอีกด้วย ดังนั้น จากนี้คงต้องดูว่าผลสัมฤทธิ์ของการรุกจัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมาทั้งหมดนี้ จะสามารถฟื้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้พ้นขีดอันตราย และสามารถเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับได้มากน้อยเพียงใด รวมถึงต้องจับตาด้วยว่า “บิ๊กตู่” จะดึงมือดีคนใดมาเป็นฟันเฟืองเสริมทัพเรียกนักลงทุนเข้าประเทศอีกหรือไม่.
.........................................................
..................................................................... 10 พฤศจิกายน 2562
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |