*/
<< | กรกฎาคม 2020 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
สวัสดีครับ พยาบาลทำงานด้วยกัน 3 คน ในห้องพยาบาลกลางดึก ยังไม่วายถูกไอ้หื่นบุกเข้าไปปล้ำได้เสียอีก เคราะห์ดีที่มันทำร้ายไม่ได้ นับเป็นบทเรียนที่คนหื่นมันไปปล่อยอารมณ์ตามสถานค้ากามไม่ได้ยามนี้ จึงต้องระวังให้มาก
ข่าวไฮไลท์
![]() หนุ่มหื่นถอดเสื้อเข้ารพ. ปิดบังใบหน้า ฉุดพยาบาลสาว โชคดีญาติคนไข้ช่วยไว้ทัน6 กรกฎาคม 2563 - 07:45 น.
อัปเดตสถานการณ์ COVID-19
อัพเดทจำนวนผู้ติดเชื้อ
ผู้ติดเชื้อ11,562,878 ผู้เสียชีวิต536,841 ผู้ที่หายแล้ว6,537,765 อัพเดทล่าสุด 2020-07-06 12:10:01 วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563 เวลา 12:33
ไลฟ์สไตล์
คร.แจงผ่อนปรนต่างชาติเพื่อดูแลผู้ป่วยเดิม ไม่ใช่ผู้ป่วยโรคโควิด19![]() 6 กรกฎาคม 2563 - 11:59 น.
16
กรมควบคุมโรค แจงผ่อนปรนรับชาวต่างชาติเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทย เป็นการผ่อนปรนเพื่อดูแลผู้ป่วยเดิม ไม่ใช่ผู้ป่วยโรคโควิด 19 พร้อมคงมาตรการคุมเข้มกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยประเทศไทยเริ่มอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลโรคต่างๆ ที่ไม่ใช่รักษาโรคโควิด 19 ตามคำสั่ง ศบค. ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 โดยต้องผ่านการตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด 19 ก่อนการเดินทางภายใน 72 ชั่วโมง และตรวจซ้ำ 3 ครั้งขณะอยู่ในประเทศไทย และขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการด้านสาธารณสุขและมาตรการควบคุมโรคของไทย
วันนี้ 6 กรกฎาคม 2563 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่สถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายและไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศมานานมากกว่า 1 เดือน และมีประกาศข้อกำหนด ฉบับที่ 12 ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ คำสั่ง ศบค. ฉบับที่ 6 อนุญาตให้ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว
แต่ต้องไม่เป็นกรณีที่เข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาล โรคโควิด 19 ทั้งนี้ รวมถึงผู้ป่วยเดิมที่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล หรือผู้ป่วยใหม่ที่จำเป็นต้องมารับการรักษาในประเทศไทย ต้องเป็นผู้ป่วยที่มีผลตรวจปลอดโรคโควิด 19 และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยอย่างเข้มงวด ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1-5 กรกฎาคม 2563 พบว่า มีผู้เดินทางเข้ามารับบริการที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร จำนวน 3 ราย โดยทั้งสามรายเป็นผู้ป่วยเก่าที่เคยมารับการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว (มาจากประเทศเมียนมา มัลดีฟส์ และกาตาร์ ประเทศละ 1 ราย และมีญาติผู้ดูแลติดตามมาด้วยจากประเทศเมียนมา 1 คนและมัลดีฟส์ 1 คน) ซึ่งทั้งผู้ป่วยและผู้ติดตามต้องผ่านการตรวจ ซึ่งไม่พบเชื้อก่อโรคโควิด 19 ที่ประเทศต้นทาง และมีเอกสารสำคัญครบถ้วนก่อนได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ได้แก่ - เอกสารหรือหนังสือรับรองของสถานพยาบาลจากประเทศต้นทางที่ระบุความจำเป็นในการเข้ามารักษาพยาบาล
- เอกสารหรือหนังสือรับรองของสถานพยาบาลในประเทศไทยที่ยืนยันการรับผู้เดินทางเข้ามารักษาพยาบาลและการจัดสถานที่กักกันในสถานพยาบาล เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน - ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง (Fit to Fly Health Certificate) หรือตามสภาพการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางการแพทย์ และใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าตรวจไม่พบเชื้อก่อโรคโควิด 19 ภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง - เอกสารหลักฐานซึ่งแสดงถึงหลักประกันที่ผู้เดินทางสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นใดทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างอยู่ในประเทศ และกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- หนังสือที่รับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry - COE) โดยเมื่อชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตเดินทางมาถึงประเทศไทย จะมีการคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ต้องเดินทางโดยยานพาหนะของสถานพยาบาลเท่านั้น และมีระบบติดตามตัวหรือติดตั้งแอปพลิเคชันตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังและติดตามอาการในระหว่างที่เข้ารับการกักกัน และที่สำคัญจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19 อีก 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 เมื่อเดินทางมาถึงสถานพยาบาล ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 5-7 และ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 13-14 ของระยะเวลาที่ถูกกักกัน
ทั้งนี้ ในกรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไม่ถึง 14 วัน ทางสถานพยาบาลจะดำเนินการให้ผู้ป่วยอยู่กักกันจนครบ 14 วัน รวมทั้งญาติและผู้ติดตาม จะถูกกักกันให้อยู่ในโรงพยาบาลเดียวกันกับผู้ป่วยเป็นระยะเวลา 14 วัน หลังจากตรวจไม่พบเชื้อ นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ที่เข้มงวดของประเทศไทย เพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค แม้จะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล แต่เป็นการบริหารจัดการในโรงพยาบาลที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ข่าวทั่วไป
ประชาชนแห่เข้าวัดทำบุญ วันเข้าพรรษาแน่น![]() 6 กรกฎาคม 2563 - 11:59 น.
ประชาชนแห่เข้าวัดทำบุญส่งท้ายเนื่องในหยุดยาวช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยเฉพาะตามวัดที่โด่งดังมีชื่อเสียง มีความวิจิตรงดงามตา อย่างถ้ำวังพญานาคาธิบดี ณ วัดศรีมงคลรัตนาราม อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ![]() ![]() ![]() วันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ซึ่งยังเป็นยาวต่อเนื่องในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา และวันอาสาฬหบูชา ที่ได้มีประชาชน นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทย กลับมาคึกคักกันอีกครั้งหนึ่ง หลังสถานการณ์โควิด19 ร้านค้า ร้านอาหารเกิดความคึกคักมีเงินไหลเวียนกันในระยะนี้เป็นจำนวนมาก และที่ที่นักท่องเที่ยวมักนิยมไปมากที่สุดในช่วงนี้ ก็คงจะเป็นวัดวาอารามต่างๆ เพราะเป็นช่วงวันเข้าพรรษา ทั้งวัดที่เคยไป วัดที่มีชื่อเสียง วัดที่มีประชาชนที่ความเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีแหล่งท่องเที่ยงเชิงพระพุทธศาสนา ตามรอยองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างที่ วัดป่าศรีมงคลรันาราม บ้านสิม ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรรสะเกษ ที่ พระครูวิจิตร วินัยคุณ เจ้าอาวาสวัด ได้มีการก่อสร้างพระมหาเจดีย์ กำหนดที่จะสร้าง 5 ชั้น แยกเป็นภพภูมิต่างๆ ตามตำนานก่อนและหลังการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า แม้ว่าวันนี้จะสร้างเสร็จเพียงบางส่วนของชั้นแรกที่กำหนดให้เป็นถ้ำวังพญานาคาธิบดี ที่มีการปั่นรูปองค์พญานาคา ขนาดใหญ่ ไว้ครบทั้ง 4 ตระกูล รวม 9 พระองค์ พร้อมการตบแต่งไว้อย่างวิจิตรงดงาม จึงได้มีผู้คนเดินทางมากราบไหว้บูชา ขอพรจากองค์พระพุทธรูปพระพุทธนิมิต องค์ใหญ่ที่อยู่ตรงกลางขององค์นาคาธิบดีศรีสุโท และแม่ย่าปทุมมา กลางถ้ำ และบริเวณรอบๆ ภายในถ้ำอีกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันทางวัดก็ได้พยายามในการจำกัดจำนวนผู้คนที่จะเดินทางเข้าไปในถ้ำวังพญานาคาธิบดีเป็นช่วงๆ แต่ด้วยการที่ได้มีพี่น้องประชาชนเดินทางมากันเป็นจำนวนมาก จึงต้องเร่งระบายผู้คนเข้าออกกันคนละด้าน และมีการตรวจวัดไข้ทุกรายตรงปากทางก่อน พร้อมกับตรวจสอบในการขอความร่วมมือในการสวมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอยลนามัย ทุกขณะที่อยู่เดินเที่ยวไหว้พระภายในถ้ำวังพญานาคาธิบดี ด้วยความอลังการของการ กำหนดถ้ำวังพญานาคาธิบดี ทำให้ผู้คนที่เดินทางมา ต่างถ่ายรูป ส่งต่อไปตามลาย ตามเฟสของตน เพื่อกระจายไปสู่เพื่อนๆ ทำให้เกิดความนิยมเพิ่มสูงขึ้น จนอยากที่จะเดินทางมาเที่ยวให้เห็นกับตาของตนเองบ้างสักครั้ง ทำให้ในช่วงวันหยุดยาว หรือแม้แต่วันหยัดในช่วงเสาร์ - อาทิตย์ วันปกติ ก็ได้มีผู้คนหลั่งไหลมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นวัดที่ได้รับความนิยมอยู่ในระดับต้นๆ ของจังหวัดศรีสะเกษ เพราะเป็นวัดเดียวที่มีการสร้างถ้ำวังพญานาคาธิบดี ตามประวัติพระพุทธเจ้า ที่เคยถือภพ 1 ชาติเกิดมาเป็นพญานาคเพื่อบำเพ็ญเพียรก่อนตรัสรู้ธรรมด้วย และใครที่มากราบไหว้ขอพรก็จะสำเร็จเป็นจริงในสิ่งที่ชอบในสิ่งที่ถูก ไม่ผิดกฎหมายผิดธรรมะใดใด จึงทำให้มีผู้คนแห่งมาตลอด และในช่วงนี้เกิดการจราจรติดขัดยางกว่า 10 กิโลเมตรกันเลย แม้วัดจะจัดที่จอดรถไว้กว่า 30 ไร่ก็ตาม
การเมือง
"ธนกร"เผย"อุตตม"สั่งสรรพสามิตคลอดมาตรการทางภาษีชุดใหญ่อุ้มแรงงาน-ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโควิด-19![]() 6 กรกฎาคม 2563 - 12:13 น.
5
"ธนกร"เผย"อุตตม"สั่งสรรพสามิตคลอดมาตรการทางภาษีชุดใหญ่อุ้มแรงงาน-ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโควิด-19เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (covid-19) ส่งผลกระทบอย่างแพร่หลายเป็นวงกว้าง รวมทั้งมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยและทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก สถานประกอบการจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราวและถาวร กระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ การจ้างงาน ภาคการเกษตร และภาคการส่งออก ซึ่งผู้ประกอบอุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้กรมสรรพสามิตเยียวยาฟื้นฟูและอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
นายธนกร กล่าวอีกว่า กรมสรรพสามิตได้ดำเนินมาตราการที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจในบางสินค้าเรียบร้อยแล้ว ดังนี้
1.รถยนต์ (ประเภทรถยนต์นั่งสามล้อแบบพลังงานไฟฟ้า)เพิ่มพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งสามล้อแบบพลังงานไฟฟ้าเพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์นั่งสามล้อที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและการจ้างงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด โดยกำหนดให้เสียภาษีตามมูลค่าร้อยละ 2 (จากเดิมร้อยละ 4) 2.เครื่องดื่มน้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่มีการเติมสารอาหารและสารอื่นแก้ไขอัตราส่วนผสมของน้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่มีการเติมสารอาหารหรือสารอื่นจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 10 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่ม โดยคำนึงถึงนวัตกรรมในปัจจุบัน และผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคสินค้าเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
3.สนับสนุนให้สถานบริการคงปริมาณการจ้างงานเพื่อช่วยเหลือลูกจ้างไม่ให้ตกงาน สถานบริการที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีปริมาณการจ้างงานเท่ากับก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะได้รับสิทธิเสียภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 0 ของรายรับของบริการจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคท่องเที่ยวและบริการรวมทั้งเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563 เวลา 6 กรกฎาคม 2563 - 12:40 น.
ท่องเที่ยว
การ์ดตก หรือ ไม่ยกการ์ด ที่ "วัดผาซ่อนแก้ว"![]() 6 กรกฎาคม 2563 - 12:40 น.
การ์ดตกหรือไม่ยกการ์ด ที่ "วัดผาซ่อนแก้ว" อำเภอเขาค้อ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองมะขามหวานหลังจากจังหวัดเพชรบูรณ์ มีคำสั่งเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชม วัดผาซ่อนแก้ว อำเภอเขาค้อ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังทางศาสนาของจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ตามคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 1132/2563 ลงนามโดย นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์
ไลฟ์สไตล์
ทำบุญตักบาตรครบรอบ 2 ปีถ้ำหลวง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้จ่าแซม![]() 6 กรกฎาคม 2563 - 11:47 น.
24
ทำบุญตักบาตรครบรอบ 2 ปีถ้ำหลวง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้จ่าแซม ณ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเวลา 06.00 น.วันที่ 6 ก.ค. 63 ที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พร้อมด้วย นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย นำส่วนราชการการและประชาชนในอำเภอแม่สายและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงทั้งชาวไทยพื้นราบและกลุ่มชาติพันธุ์นับพันคน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และจตุปัจจัย แด่พระสงฆ์ 108 รูป เพื่อประกอบพิธีบวงสรวงศาลเจ้าแม่นางนอน เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์ ช่วยนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต ในครั้งนี้ด้วย
![]() โดยการทำบุญครั้งนี้เนื่องจากเป็นการครบรอบ 2 ปี ในช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมหมูป่าอคาเดมี่แม่สายติดถ้ำหลวง และอุทิศส่วนกุศลครบรอบการเสียชีวิต จ่าแซม นาวาตรีสมาน กุนัน วีรบุรุษถ้ำหลวง ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ขณะเข้าไปช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง โดยมีนางวลีพร กุนัน ภรรยาของนาวาตรีสมาน กุนัน นักฟุตบอลทีมหมูป่าอาคาเดมี่ โค้ชเอก รวม 13 คน เดินทางมาร่วมตักบาตรแกอบพิธี ณัฐวัตร ลาพิงค์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงราย ![]() ทั้งนี้ในการเปิดให้บริการเจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ มีหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ ภาชนะและอุปกรณ์ที่ใช้ และจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด คือ ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของพื้นที่ใช้บริการ อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง ทุกคนที่เข้ามาในวัดต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย มีจุดล้างมือด้วยสบู่และแอลกอฮอล์ ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม มีการรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร แต่ในระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ตรงกับ"วันอาสาฬหบูชา" และ "วันเข้าพรรษา" ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน ประกอบกับรัฐบาล ได้มีมาตรการผ่อนปรน ระยะที่ 5 ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูรณ์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง แม้ช่วงนี้จะไม่ใช่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวก็ตาม ![]() วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บรรยากาศช่วงวันหยุด นทท.แห่เที่ยวภูทับเบิก ทำรถติดหนึบยาว 2 กม.
โดยเฉพาะที่อำเภอเขาค้อ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม และแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ต่างอุ้มลูกจูงหลานพาครอบครัวมากราบไหว้ขอพร พระธาตุผาซ่อนแก้ว และพุทธพุทธเจ้า 5 พระองค์ วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา สภาพบรรยากาศของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่เดินเบียดเสียดเยียดยัดกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรในบริเวณวัดผาซ่อนแก้วติดยาวเหยียดกว่า 2 กิโลเมตร
ขณะเดียวกันสภาพภายในวัดพระธาตุซ่อนแก้ว ก็ไม่ได้แตกต่างกัน ประชาชนจำนวนมากที่เดินสวนกันไปมา มีให้เห็นเป็นจำนวนมาก ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย จุดคัดกรองภายในวัดมีไม่เพียงพอ กลายเป็นชุมชนแออัดเล็กๆ ที่มีผู้คนหนาแน่น ทำให้มาตรการป้องกันโรคโควิด19 ต่างๆ อาจปฏิบัติได้ไม่ครบถ้วน และรัดกุม ประกอบกับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่มาจากทุกสาระทิศ อาจทำให้การ์ดของเราเริ่มตกแล้วก็เป็นได้ ข่าวที่คุณอาจสนใจ
วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563 เวลา
ข่าวทั่วไป
"ดร.อิสระ" กางระเบียบทำโทษตัดผมแหว่งนักเรียนหญิงไม่ได้![]() 6 กรกฎาคม 2563 - 12:33 น.
"ดร.อิสระ" กางระเบียบทำโทษตัดผมแหว่งนักเรียนหญิงไม่ได้ ตอก ผอ.รร.ใน จ.ศรีสะเกษ อ้างชุ่ยๆ เตรียมหารือในสภาฯ-จี้ รมว.ศึกษาธิการตั้งกรรมการสอบเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีชาวบ้าน อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ โพสต์เฟสบุ๊กว่าลูกสาวตัวเองโดนครูลงโทษใช้กรรไกรตัดทรงผมแหว่ง ทำให้เด็กอับอาย ว่า การที่ผู้อำนวยการโรงเรียนเกิดเหตุ ยืนยันว่าระเบียบก็คือระเบียบ สังคมอยู่ได้เพราะระเบียบ ดังนั้น ผอ.จึงต้องศึกษาระเบียบให้ดี อย่าสักแต่พูด เพราะทางรมว.ศึกษาคนปัจจุบัน มีแนวคิดที่ค่อนข้างดีเอาไว้ ในระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน พ.ศ.2563 ในข้อ 4(2) ที่นักเรียนหญิงไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ ถ้าไว้ผมยาวให้เป็นรวบเรียบร้อย และการที่ผอ.ให้สัมภาษณ์ในทำนองโทษมั่วๆว่า กระทรวงชอบประกาศออกกฎทางสื่อ โดยไม่เเจ้งโรงเรียนให้รู้ ตัวเองเลยไม่รู้นั้น ไม่น่าจะเป็นคำพูดที่มาจากปากคนเป็นผอ.โรงเรียน เพราะระเบียบดังกล่าวประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ ตั้งเเต่เดือนพ.ค. ถามว่า ผอ.ไปอยู่ที่ไหนมา และต่อให้นักเรียนทำผิดจริง กรอบการลงโทษตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 ก็มีเพียง 4 สถาน คือ ว่ากล่าวตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ครูจะลงโทษเด็กตามอำเภอใจไม่ได้ รมว.ศึกษาธิการควรจะตั้งกรรมการสอบกรณีนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม่โวย ลูกสาว ม.ต้นถูกครูทำโทษ ตัดผมไม่เป็นทรง ลั่นถามทำแบบนี้เด็กเรียนเก่งขึ้นมั้ย "ผมมาพูดเพื่อปกป้องทั้งหน้าที่และสิทธิ ทั้งของครูและนักเรียน ไม่ใช่มาให้ท้ายเด็กให้เเหกกฎ แต่เรื่องนี้มันชัดเจนว่าเด็กไม่ผิด จึงต้องปกป้องสิทธิของเด็ก และอย่ามองว่าการลงโทษตัดผมเด็กจนแหว่งเป็นเรื่องเล็กน้อย เเม้เส้นผมจะงอกใหม่ได้ก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องตระหนักคือ คุณครูมีหน้าที่สร้างอนาคต ไม่ใช่สร้างปมด้อยให้เด็ก วันนี้ผมได้ส่งคณะทำงานไปพบผู้ปกครองเด็กนักเรียนคนดังกล่าว โดยผมจะพูดคุยกับพ่อแม่ของเด็กด้วยตัวเอง และจะนำไปหารือในสภาฯสัปดาห์นี้เพื่อให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบดำเนินการต่อไป"นายอิสระกล่าว วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563 เวลา 13:15 น.
เจาะประเด็นร้อน
จะคุ้มมั๊ย!!งบ 4 แสนล้าน บางโครงการ งบ 6.6 ล้าน เน้น ให้วิทยากรเดินหน้าอบรม![]() 6 กรกฎาคม 2563 - 12:37 น.
24
ตรวจสอบ งบ 4 แสนล้าน ภาครัฐเสนอโครงการฯ 1.4 ล้านล้านบาท บางโครงการ งบ 6.6 ล้าน เน้น ให้วิทยากรเดินหน้าอบรมภายหลังจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ในฐานะหน่วยงานเลขานุการและหน่วยงานกลั่นกรองโครงการต่างๆ เปิดตัวเว็บไซต์ THAIme เพื่อใช้ติดตามตรวจสอบบริหารจัดการงบเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทจากภาคประชาชน โดยเฉพาะส่วน 400,000 ล้านบาทที่มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยภายหลังโควิด-19 เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 63 และปิดรับโครงการไปเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.63 ปรากฏว่า หน่วยงานราชการได้ส่งโครงการเข้ามามากถึง 46,411 โครงการ รวมวงเงินกว่า 1,448,474 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่า 400,000 ล้านบาทที่กำหนดไว้กว่า 3 เท่ากว่า
โดยโครงการเงินกู้แบ่งออกเป็น 4 แผนงาน ประกอบด้วยแผนงานที่ 1 เน้นการลงทุนและกิจกรรมการพัฒนาที่สามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แผนงานที่ 2 การฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน ที่เน้นสร้างงานรองรับการกลับสู่ต่างจังหวัด แผนงานที่ 3 ส่งเสริมการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจ และแผนงานที่ 4 การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับชุมชน แต่เสนอมาเยอะก็ไม่ใช่จะผ่านทุกโครงการ เพราะระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติโครงการฯ ซึ่งมีการตรวจสอบ กลั่นกรองพอสมควร หน่วยงานเจ้าของโครงการ : จัดทำโครงการ เสนอตามวิธีการที่ คณะกรรมการฯกำหนด (รูปแบบอิเล็กทรอนิส์ และเอกสารจำนวน 15 ชุด ส่งให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สศช. : พิจารณาจัดทำความเห็น ไม่ช้ากว่า 10 วัน ถ้าครบถ้วน ส่งเข้ากระบวนการพิจารณาและอนุมัติโครงการ แต่ถ้าไม่สมบูรณ์ ส่งกลับ หน่วยงานเจ้าของโครงการเพิ่มเติมแก้ไขข้อมูล แล้ว ส่งเข้า กระบวนการพิจารณาและอนุมัติโครงการ กระบวนการพิจารณาและอนุมัติโครงการ ขั้นที่ 1 ผ่าน คณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนงาน/โครงการฯ กลุ่มที่ 3 ซึ่งคณะกรรมการ จะประกอบด้วย 1.นายอนุชา พิชยนันท์ (รศช./สศช.) เป็นประธานอุนกรรมการ 2.ที่ปรึกษา สำนักงานงบประมาณ(สงป.)เป็นรองประธานอนุกรรมการ 3.ผศ.ดร.พงษ์ชัย อธิคมรัตนกุล อนุกรรมการ 4..ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญวัฒนา อนุกรรมการ 5.ผู้แทน สศค. อนุกรรมการ 6.ผู้แทน สบน. อนุกรรมการ 7.ผู้แทน นร. อนุกรรมการ 8.ผู้แทน บก. อนุกรรมการ 9. ผู้แทน สคก. อนุกรรมการ 10.นางธิดา พัทธธรรม (ทปษ./สศช.) อนุกรรมการ/เลขานุการ 11.นายสุริยนต์ ธัญกิจจานุกิจ (ทปษ./สศช.) อนุกรรมการ/เลขานุการ ซึ่งคณะอนุกรรมการจะพิจารณาจัดทำความเห็นไม่ช้ากว่า 7 วัน แล้วส่งโครงการฯและความเห็น ไปสู่คณะกรรมการกลั่นกรองแผนงาน/โครงการ กลุ่มที่ 3 ซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองแผนงาน/โครงการ กลุ่มที่ 3 จะประกอบไปด้วย 1.เลขาธิการ สศช. ประธานกรรมการ 2. ปลัด นร. กรรมการ 3.ปลัด กค. กรรมการ 4.ผอ.สงป. กรรมการ 5.ผอ.สบน. กรรมการ 6. ผอ.สศค. กรรมการ 7.นายปกรณ์ นิลประพันธ์ กรรมการ 8.รองเลขาธิการ สศช. เลขานุการ 9.ผู้แทน สงป. ผู้ช่วยเลขานุการ 10.ผู้แทน สบน. ผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการกลั่นกรองชุดใหญ่ จะพิจารณาทำความเห็น ไม่ช้ากว่า 13 วัน รวมระยะเวลาพิจารณาทั้ง 2 ชุด ทำความเห็นไม่ช้ากว่า 20 วัน แล้วคณะกรรมการ ก็เสนอโครงการฯ ที่ผ่านการพิจารณาเข้าสู่ คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
เมื่อคมชัดลึก ออนไลน์ ได้ตรวจสอบ เวปไซต์ thaime ได้รายงานข้อเสนอโครงการที่ผ่านการวิเคราะห์เบื้องต้นในรอบแรก พบมี 196 โครงการ วงเงิน 94,069 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.แผนงานที่มีวัตถุประสงเพื่อสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก จำนวน 111 โครงการ วงเงิน 51,328.68 ล้านบาท 2.แผนงานสร้างความเจริญเติมโตอย่างยั่งยืน จำนวน 83 โครงการ วงเงิน 20,340.43 ล้านบาท 3.แผนงานกระตุ้นอุปโภคบริโภคและกระตุ้นการท่องเที่ยว จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 22,400 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ พบว่า มีโครงการที่ เห็นชอบผ่านแล้ว รวมวงเงิน 22,400 ล้านบาท
เมื่อตรวจสอบดูก็พบส่วนมากเป็นโครงการฯ ลงในระดับจังหวัด ที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว ส่วนโครงการ ระดับกระทรวง ส่วนกลางนั้น พบว่า ยังไม่มีการอนุมัติแต่อย่างใด ซึ่งวันนี้ เราจะนำเสนอโครงการฯ ที่ผ่านมการเห็นชอบแล้ว คือโครงการยกระดับคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรสู่มาตรฐานเกษตรปลอดภัย เสนอโครงการโดย สำนักงานประมงจังหวัดปทุมธานี สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี สำนักงานประมงจังหวัดปทุมธานี งบประมาณ 6,691,000 บาท ในโครงการนี้ จะมี 3 กิจกรรมย่อย คือ โครงการยกระดับคุณภาพผลผลิตางการเกษตรสู่มาตรฐานเกษตรปลอดภัย มี1.กิจกรรมส่งเสริมการผลิตและพัฒนาฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ได้มาตรฐาน งบประมาณ 5,390,000 บาท รับผิดชอบโดยสำนักงานประมงจังหวัดปทุมธานี โดยจะดำเนินการ 1.ส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้ หัวข้อมาตรฐานการปฏิบัติทางการประมงที่ดีสำหรับฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เกษตรกร จำนวน 200 ราย 2.ตรวจสอบรับรองคุณภาพสินค้าประมง (ตรวจประเมินฟาร์มและตรวจวิเคราะห์ตัวอย่าเนื้อปลา) โดยผู้ร่วมโครงการต้องได้รับใบรับรองมาตรฐานระดับ GAP ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือต้องเข้าหลักเกณธ์มาตรฐานเพื่อเตรียมความพร้อในการพัฒนาเข้าสู่ระดับมาตรฐาน GAP ร้อยละ 80 ต่อมาคือ 2. กิจกรรมส่งเสริมการเลี้ยงไก่พื้นเมืองปลอดสารในจ.ปทุมธานี งบประมาณ 645,000 บาท รับผิดชอบโดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ดำเนินกิจกรรม 1. อบรมให้ความรู้เชิงวิชาการ หลักสูตรทางการเลี้ยงไก่พื้นเมืองของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พื้นเมือง (เครือข่ายไก่ประดู่หางดำเชียงใหม่) จำนวน 50 ราย 2.ส่งเสริมจัดระบบการจัดการโรงเรียน ให้ได้มาตรฐานตามระบบปลอดภัยของกรมปศุสัตว์ และกิจกรรมสุดท้ายคือ การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรด้านการแปรรูปสัตว์น้ำ งบประมาณ 656,000 บาท รับผิดชอบโดย สำนักงานประมงจังหวัด ดำเนินกิจกรรม 1.การเพิ่มศักยภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปสัตว์น้ำให้ได้มาตรฐานอาหารปลอดภัย เกษตรกร จำนวน 30 ราย หมู่ที่ 8 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 2.ส่งเสริมการจัดการโรงเรือนเพื่อให้ได้มาตรฐานการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ตามมาตรฐาน Primay GMP ซึ่งเมื่อรัฐจ่ายเงินตามโครงการนี้จำนวน 6,691,000 บาท อบรมใน 3 กิจกรรมนี้แล้ว จะทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ 3 อย่าง 1. พัฒนากลุ่มเกษตรกรที่มีอยู่ให้มีความรู้และทักษะในกระบวนการผลิต การแปรรูปเพิ่มมากขึ้น 2. สามารถยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินคาเกษตรให้มีโอกาสขยายตัวและแข่งขันด้านการตลาดมากขึ้น 3.มีแปลง / ฟาร์ม เข้าเกณฑ์มาตรฐานเพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาเข้าสู่ระดับมาตรฐาน GAP/GMP /กรมปศุสัตว์ จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และนี่ก็คือ บางส่วนของโครงการ ที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว ซึ่งมีเอกสารเพียงแค่ 8 หน้า กิจกรรมยังไม่ชัดเจน แต่เนื้องานหลักๆตามที่เอกสารปรากฎนั้นจะเน้นหนักไปทาง อบรมให้ความรู้เกษตรกร ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าอบรมจบแล้ว เกษตรกร จะสามารถพัฒนา ยกระดับ คุณภาพของตัวเอง ได้เลย ตามวัตถุประสงค์ของโครงการหรือไม่ เราก็คงต้องติดตามกันต่อไป เปิดโผทหารปี63 4 ผบ.เหล่าทัพ เกษียณหมด![]() 5 กรกฎาคม 2563 - 19:30 น.
10.8k
เปิดโผแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารช่วงปลายปี2563 พบผู้นำทั้ง 4 ผบ.เหล่าทัพ เกษียณหมด แม้แต่"บิ๊กแดง" เหลือเพียง "ปลัดกลาโหม" รายงานแจ้งว่า "พล.อ.ประยุทธ์" เรียกบัญชีรายชื่อมาดูบ้างแล้ว คาดถกระดับ 5 เสือให้ลงตัวก่อนการโยกย้ายครั้งนี้เปลี่ยนผู้บัญชาการเหล่าทัพ พร้อมกันถึง 4 คน เนื่องจากเกษียณอายุราชการ มีทั้ง พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทอ.) และ พลอากาศเอก มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บิ๊กบี้ ว่าที่ ผบ.ทบ.ลูกผสม วงเทวัญ-บูรพาพยัคฆ์
เริ่มที่กองทัพไทย แคนดิเดทขณะนี้มีเพียง พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร ที่ พลเอก อภิรัชต์ ให้การสนับสนุนเเละส่งข้ามห้วยจากกองทัพบก ให้มาเตรียมตัวรอตั้งแต่ปี 2562 ส่วนกองทัพบก แน่ชัดอยู่เเล้วว่าเป็น "บิ๊กบี้" พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และเป็น รองผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (รองฉก.ทม.รอ.904) ด้วย โดยชื่อของ พลเอก ณรงค์พันธ์ ถูกจับตามาตั้งแต่ก่อนขึ้นเป็นแม่ทัพภาค 1 แล้ว กองทัพเรือ ขณะนี้มี 2 แคนดิเดท คือ พลเรือเอก ช่อฉัตร กระเทศ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งมีความอาวุโสสูงสุด และ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ
ปิดท้ายที่กองทัพอากาศ มี 2 ชื่อเช่นกัน คือ พลอากาศเอก ธรินทร์ ปุณศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พลอากาศเอก สุทธิพันธุ์ ต่ายทอง เสนาธิการทหารอากาศ อีกคนที่ต้องจับตา ก็คือ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ที่ขณะนี้เข้ามาช่วยงาน ศบค. ชุดเล็ก ให้กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเรียกได้ว่าเป็นที่ไว้วางใจ เป็นมือไม้ช่วยงานรัฐบาลมาหลายครั้งหลายคราแล้ว โดย พลเอก ณัฐพล รั้งตำแหน่ง รอง ผบ.ทบ. มา 2 ปีแล้ว ถึงเวลาต้องขยับ แต่สุดท้ายอาจจะอยู่ที่เดิม ซึ่งจะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่อยู่มาถึง 3 ปีซ้อน แต่ก่อนหน้านี้ก็มีกระเเสข่าวจะข้ามไปเป็น ผบ.ทสส. 1 ปี ก่อน พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ที่สามารถรอได้ เพราะเหลืออายุราชการถึงปี 2566 ส่วนอีกกระเเสก็ว่าจะข้ามมาเป็น เลขาธิการ สมช. แทน พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิทธิ์ตา ที่จะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนกันยายน 2563นี้
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมผู้บัญชาการ เหล่าทัพ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตามปกติแล้วจะมีการพูดคุยหารือวงเล็กกันก่อน หรือที่เรียกว่า คณะผู้บัญชาการทหาร ก็คาดว่าจะมีคุยเรื่องโผทหารกัน ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าทุกเหล่าทัพจะส่งโผแรกให้กับ พลเอก พรพอพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทสส. วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 และเร็วๆ นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็น่าจะขอคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ เพื่อหารือการทำโผทหาร ในระดับ 5 เสือให้ลงตัวก่อน แล้วจึงดำเนินการตำแหน่งอื่นต่อไป "บิ๊กบี้" พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ลูกผสม "วงเทวัญ-บูรพาพยัคฆ์ "
.......................................................... 6 กรกฎาคม 2563
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |