
พระผู้มีพระภาคตรัสสอนว่า
เพียงแค่คิดในกุศลธรรม ก็ยังมีอุปการะมาก
จึงไม่ต้องกล่าวถึงการลงมือทำด้วยวาจา
.
.
อ่านรายละเอียดใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
๘. สัลเลขสูตร

ทรงแสดงว่า พระตถาคตจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ทำนองคลองธรรม
ก็คงมีอยู่แล้ว คือข้อที่สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง, สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์,
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ( ไม่ใช่ตัวตน ) เป็นแต่พระตถาคตเป็นผู้ตรัสรู้ บอกเล่า แสดง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่าย
.
.
รายละเอียดในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
อุปปาทสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_name.php?name=%CA%D1%C5%E0%C5%A2%CA%D9%B5%C3&book=9&bookZ=33&original=1

"เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคคติเป็นอันหวังได้..... เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้....."
ทรงแสดงอุปกิเลส (เครื่องเศร้าหมองจิต ) ๑๖ ประการ คือ ๑. โลภ ๒. พยาบาท ๓. โกรธ ๔. ผูกโกรธ ๕. ลบหลู่บุญคุณท่าน ๖. ตีเสมอ ๗. ริษยา ๘. ตระหนี่ ๙. ม ายา ๑๐. โอ้อวด ๑๑. กระด้าง ๑๒. แข่งดี ๑๓. ถือตัว ๑๔. ดูหมิ่น ๑๕. มัวเมา ๑๖. ประมาท.
.
.
อ่านรายละเอียดใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
๗. วัตถูปมสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=12&A=1136&Z=1236

ตรัสว่าทรงเจริญเมตตาจิต 7 ปี ไม่ต้องเสด็จมาโลกนี้ถึง 7 สังวัฏฏวิวัฏฏกัปป์(กัปป์เสื่อมกัปป์เจริญ 7 สมัย)
ในสังวัฏฏโลก(โลกเสื่อม) ทรงเกิดในอาภัสสรพรหม
ในวิวัฏฏโลก(โลกเจริญ) ทรงเกิดในพรหมวิมานอันว่าง เป็นท้าวมหาพรหม
ทรงเคยเกิดเป็นท้าวสักกะ 36 ครั้ง
เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ตั้งอยู่ในธรรมหลายร้อยครั้ง
.
.
อ่านรายละอียดในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
ปุญญวิปากสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php…
****************************
|