
ท่ามกลางกระแสข่าวต่างๆเกี่ยวกับโรคติดต่ออุบัติใหม่จาก “สัตว์สู่คน” มีแนวโน้มสูงขึ้นรวมถึงโรคระบาดในสัตว์เช่นหมูไก่ซึ่งเป็นเนื้อสัตว์ในลำดับต้นๆที่คนทั่วไปเลือกมาใช้ในการประกอบอาหารหลายคนจึงอาจมีความกังวลและสงสัยว่าเนื้อสัตว์ที่ตนเองซื้อมานั้นปลอดภัยหรือไม่
นอกจากนี้หัวใจสำคัญของการประกอบอาหารคือการเลือกวัตถุดิบอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพปลอดภัยซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคล้วนให้ความใส่ใจมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำวิธีเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีสีแดงธรรมชาติให้ใช้นิ้วกดดูเนื้อจะยืดหยุ่นไม่มีรอยบุ๋มรวมทั้งต้องไม่มีเม็ดสีขาวใสคล้ายเม็ดสาคูด้วยโดยสามารถเลือกซื้อจากแหล่งที่มีการรับรองมาตรฐานตลาดสดน่าซื้อหรือจากตราประทับบนหนังสัตว์ที่ชำแหละจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์
โดยการเลือกซื้อเนื้อสัตว์แช่แข็งสามารถทำได้ดังนี้ 1) เลือกเนื้อสัตว์ที่เก็บในตู้หรือห้องแช่แข็งที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส 2) ต้องมีฉลากแสดงชื่อ-ชนิดของอาหารวันที่ผลิต/บรรจุวันหมดอายุและสถานที่ผลิต/บรรจุ 3) ก่อนนำเนื้อสัตว์แช่แข็งมาปรุงประกอบอาหารให้นำออกมาวางไว้ในช่องธรรมดาก่อนเพื่อให้มีการคลายความเย็นไม่ควรนำอาหารที่แช่แข็งไปแช่น้ำร้อนจะทำให้คุณค่าลดลง
ทั้งนี้ผู้บริโภคควรสังเกตเนื้อหมูที่เก็บในความเย็นตลอดเวลาต้องมีสีแดงธรรมชาติไม่ช้ำเลือดไม่มีกลิ่นเหม็นบูดที่สำคัญต้องไม่มีเม็ดสีขาวใสคล้ายเม็ดสาคูเพราะเป็นตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดหรือมีลักษณะผิดปกติอื่นๆเช่นตุ่มก้อนผิวไม่แห้งหรือแฉะเกินไปมีน้ำเยิ้มและที่สำคัญต้องเลือกซื้อเนื้อหมูหรือผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่มีการรับรองมาตรฐานตลาดสดน่าซื้อหรือแหล่งที่เชื่อถือได้หรือสังเกตจากตราประทับบนหนังที่ชำแหละจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” เมื่อนำไปปรุงต้องล้างให้สะอาดโดยเฉพาะสิ่งสกปรกที่ติดมากับไขมันถ้าสกปรกมากควรล้างด้วยน้ำอุ่นแล้วจึงนำมาชำแหละอวัยวะต่างๆและนำมาปรุงให้สุกทั่วถึงด้วยความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียสไม่น้อยกว่า 2 นาทีเพื่อทำลายเชื้อโรคและตัวอ่อนพยาธิ
นายแพทย์ดนัยธีวันดา
รองอธิบดีกรมอนามัยสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
|