ดิฉันกลับมาบ้านก็มาพลิกอ่านดูไปหน้าสองหน้า...แล้วก็กลายเป็นสามสี่หน้า...
สรุปว่าอ่านจบในสองวันค่ะ แหะๆ นี่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์คงตะลุยอ่านทั้งคืนแล้ว
สรุปเนื้อเรื่องย่อๆก็คือ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นอเมริกันสี่คนที่เพิ่งเรียนจบแล้วชวนกันไปเที่ยวชายทะเลที่เม็กซิโก ผู้หญิงสองคนคือเอมี่กับสเตซี่เป็นรูมเมทกัน ส่วนชายหนุ่มอีกสองชื่อเอริคกับเจฟก็เป็นแฟนของพวกเธอที่ติดสอยห้อยตามกันไปด้วย
เริ่มเรื่องมาก็เดอะบีชมากค่ะ มีปาร์ตี้ชายหาดเฮฮากันไปตามเรื่องตามราว แต่แล้ว...(เสียงเพลงหลอนโหยหวนเริ่มดัง) ทั้งสี่คนก็ไปเจอหนุ่มเยอรมันชื่อแมทเทียสที่พักอยู่หาดเดียวกัน เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ได้มาเที่ยวสนุกๆแต่มาตามหาน้องชายที่หายตัวไป โดยน้องชายตัวดีทิ้งจดหมายไว้ให้พี่บอกว่าไปปิ๊งสาวนักโบราณคดีที่มาขุดค้นโบราณสถานในป่า น้องจะขอบุกป่าดงพงเพชรพระอุมาเพื่อไปตามจีบ แล้วก็ทิ้งแผนที่ไว้ให้หนึ่งใบ
อ่านถึงตรงนี้ดิฉันอยากจะตีอกชกหัวแล้วโผล่หน้าเข้าไปไหนหนังสือเพื่อตะโกนด่าเหล่าวัยรุ่นตัวเอกว่า น้องๆ เคยดูหนังสยองขวัญกันรึเปล่า อย่าริตามเข้าป่าไปนาเฟ้ยยย
แต่ยีนขี้สงสัยของวัยรุ่นอเมริกันที่แม้จะผ่านหนังฆาตกรรมสยองขวัญมาหลายทศวรรษก็ยังไม่มีการวิวัฒนาการเปลี่ยนพันธุกรรม ตัวเอกทั้งสี่ของเราก็เลยชนแก้วปาร์ตี้กันต่อพร้อมกับวางแผนเดินทางตามหาน้องชายของแมทเทียสในวันรุ่งขึ้น
ตอนเช้าทุกคนก็แบกเป้ไปกันเองดื้อๆโดยมีแค่แผนที่วาดไว้ลวกๆนำทาง (น้องจ๋า น่าจะจ้างรพินทร์ไว้หน่อยนะ) พอไปถึงทางเข้าป่าที่มีซากโบราณสถาน ชาวบ้านแถวนั้นก็รีบออกมาส่งเสียงโล้งเล้งห้ามไม่ให้เข้าไป แต่มีหรือที่น้องๆจะเชื่อ ทุกคนก็มุ่งหน้าเข้าป่าไปหวังว่าจะได้ผจญภัย
และแล้วเมื่อเดินลึกเข้าไปในป่า เอมี่ก็เดินไปสะดุดเถาวัลย์รูปร่างแปลกๆเข้า แล้วเถาวัลย์นั้นก็รัดเท้าเธอไว้...
เล่าต่อไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวไม่สนุก ต้องไปหามาอ่านเอง
เนื้อเรื่องจริงๆดูเหมือนจะเดาได้ตามแบบฉบับหนังสยองขวัญวัยรุ่นทั่วไป แต่คนเขียนเขามีวิธีบรรยายบรรยากาศได้น่ากลัวจริงๆ แถมนอกจากจะต้องลุ้นกับ...(ไม่บอกว่าเป็นอะไร)...ที่ออกมาตามฆ่าน้องๆในเรื่องแล้ว พออ่านไปเรื่อยๆตัวละครแต่ละตัวก็จะเผยธาตุแท้ออกมา จากตอนแรกที่เป็นเพื่อนสนิทดื่มเหล้าสาบานกันมากลับเปลี่ยนโฉมหน้าเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้ กว่าจะอ่านจบก็ลุ้นกันจนเหงื่อแตกพลั่กค่ะ
สตีเฟ่น คิงการันตีแล้ว ชิบูกิขอการันตีต่ออีกรอบ
แต่ที่ดิฉันชอบมากๆคืออ่านแล้วเข้าถึงความสยองขวัญแบบฝรั่ง(อเมริกัน)จริงๆ ช่วงหลังๆนี่ฮอลลีวู้ดเริ่มหมดมุกต้องยืมหนังสยองขวัญแถบบ้านเราไปรีเมคมาหลายเรื่องตั้งแต่เดอะริงจนได้ข่าวว่าชัตเตอร์ก็กำลังสร้างอยู่ หรือฝรั่งจะลืมรากเหง้าความสยองกลิ่นนมเนยแล้วมาติดใจกลิ่นกิมจิกลิ่นปลาร้าเสียแล้ว
ใน The ruin นี้ ความน่ากลัวอีกอย่างที่น้องๆประสบคือ ความแปลกถิ่น ที่ไม่คุ้นเคย พอออกนอกอเมริกาไปแล้ว ที่อื่นก็ดูเหมือนจะน่ากลัวไปหมด ตอนที่สาวๆในเรื่องกำลังวิ่งหนี...(อุบอิบไม่บอก)... เธอก็ยังอุตส่าห์คิดไปว่าลืมนาฬิกาไว้ที่หัวเตียงในโรงแรม กลัวแม่บ้านชาวพื้นเมืองจะมาขโมยเอา ดู๊ดู หนูขา... ตอนแรกที่เจอชาวพื้นเมืองออกมาเตือนภัย ก็พาลไปคิดว่าเขาจะมาดักปล้นเอาซะอีก
นอกจากนี้ดิฉันมีความรู้สึกว่ายังไงฝรั่งก็มีปมว่าแม้จะเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติก็ต้องควบคุมมันให้ได้ ดูจากผีฝรั่งสิคะ แดร๊กคิวล่าเอาไม้ตอกหัวใจก็ฆ่าได้ ซอมบี้ก็ยิงที่หัวให้ตายได้ ต่างจากผีเอเชียที่ควบคุมหรือฆ่ามันไม่ได้ ต้องทำใจให้มันหลอกอย่างเดียวอย่าคิดจะไปสู้ อย่างดีก็แค่ช่วยให้ไปผุดไปเกิดเท่านั้น เหมือนเป็นวัฒนธรรมการคิดการอ่านที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ... ไปไงมาไงจากเรื่องผีมาเข้าเรื่องนี้ได้ แฮ่
พอมาเจอ...(จุ๊ๆไม่บอก)...ในหนังสือเรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้ควบคุมไม่ได้ ฝรั่งทั้งหลายรวมทั้งสตีเฟ่น คิงเลยได้แต่นอนก่ายหน้าผากสยองไปตามๆกัน
ฝากลิงค์หนังสือเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ ทำได้สวยดีอยากชวนให้คลิ๊กไปดูกัน http://www.randomhouse.com/kvpa/ruins/
ถ้าอยู่คนเดียวอย่าเปิดเสียงดังมากนะคะ อิๆ เดี๋ยวจะหลอน