********* ...... .......................... ..... คนไข้ริมหน้าต่าง
ชายสองคนกำลังป่วยหนักด้วยกันทั้งคู่ และพักอยู่ห้องเดียวกัน ชายคนหนึ่งได้รับอนุญาตให้ลุกนั่งบนเตียง เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกบ่าย เพื่อช่วยให้ของเสียไหลออกจากปอดได้สะดวกขึ้น เตียงของผู้ป่วยคนนี้ ตั้งอยู่ข้างหน้าต่างบานเดียวของห้องนั้น ส่วนชายที่อยู่อีกมุมหนึ่งต้องนอน จมอยู่บนเตียงตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าเขาเริ่มหมดกำลังใจ และท้อใจกับสุขภาพที่เขาต้องเผชิญ เขาทั้งสองมักจะมีเรื่องราวพูดคุย แลกเปลี่ยนกันเสมอ ทุก ๆ บ่ายเมื่อชายข้างหน้าต่างลุกขึ้น เขาก็จะเล่าให้เพื่อนร่วมห้อง ฟังถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่างบานนั้น ขณะที่ผู้ฟังก็รู้สึกมีความสุขกับห้วงเวลาหนึ่งชั่วโมงดังกล่าว เพราะ ไม่เพียงทำให้โลกของเขากว้างขึ้น หากยังช่วยให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา กับกิจกรรมและสีสันของโลกข้างนอกนั้นอีกด้วย ครั้งหนึ่ง เขาได้ฟังการพรรณนาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ที่มีเบ็ดและห่านเริงเล่นน้ำกันอยู่ในทะเลสาบ ขณะเด็ก ๆ สนุกสนาน ไปกับการละเล่นบนเรือ หนุ่มสาวเดินเกี่ยวก้อยพลอดรักอยู่ ท่ามกลางมวลดอกไม้หลากสีและสายรุ้ง โดยมีต้นไม้ชราสูงใหญ่ เพิ่มความสงบงามให้กับสวน อีกทั้งยังพลอยเห็นภาพทิวทัศน์ของเมือง ที่ตัดกับเส้นขอบฟ้าไกลโพ้น เนื่องจากผู้อยู่ใกล้หน้าต่างได้บรรยาย ทุกสิ่งอย่างละเอียดลออถี่ถ้วน ชายอีกมุมหนึ่งจึงจินตนาการตามไปได้อย่างรื่นรมย์ ในบ่ายที่อากาศสบาย ๆ วันหนึ่ง.. ชายคนนั้นได้เล่าว่ามีขบวนพาเหรดกำลังเดิน ผ่านไป แม้ชายอีกคนจะไม่ได้ยินเสียงดนตรีจากวงดุริยางค์ก็ตาม เขาก็สามารถสัมผัสมันได้ด้วยใจ จากถ้อยบรรยายของเพื่อนร่วมห้อง ข้างหน้าต่างเป็นอย่างดี ...เวลาเคลื่อนคล้อยจากวันเป็นหลายสัปดาห์... เช้าวันหนึ่ง.. พยาบาลประจำวันได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของเธอ เพื่อดูแลทำความสะอาดร่างกายให้ชายทั้งสอง เธอได้พบว่าคนไข้ใกล้หน้าต่าง ได้สิ้นลมไปแล้ว เขาจากไปอย่างสงบในขณะกำลังหลับ... นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจแก่เธออย่างมาก จากนั้นเธอก็เรียกผู้ช่วยให้นำศพออกไปจากห้อง เมื่อเวลาผ่านไปพอสมควร ชายที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้องจึงขออนุญาต ย้ายไปพักเตียงใกล้หน้าต่าง พยาบาลยินดีจัดการให้ตามความประสงค์ของเขา และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็ขอตัวออกไปจากห้อง ปล่อยเขาไว้เพียงลำพัง แล้วเขาก็ค่อย ๆ ยันตัวเองด้วยข้อศอกข้างเดียว เพื่อจะมองดูโลกข้างนอก ด้วยสายตาของตนเองเป็นครั้งแรก แน่ละ...เขาควรจะมีความสุขที่มีโอกาส สัมผัสมันด้วยตนเอง เขาชะเง้อคออย่างช้าๆ เพื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่แล้ว !! ภาพที่เขาพบกลับเป็นเพียงกำแพงโล่ง ๆ ชายผู้นี้จึงสอบถามพยาบาล ในเวลาต่อมา อะไรกันเล่าที่ทำให้เพื่อนผู้จากไปของเขาเที่ยวได้พรรณนาเป็นคุ้ง เป็นแควถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่นอกหน้าต่างบานนี้ให้เขาฟัง พยาบาลคนเดิมแจ้งให้เขาทราบว่า... แท้แล้วชายคนนั้นตาบอด เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย แม้แต่กำแพง "บางทีเขาอาจอยากให้กำลังใจคุณก็ได้" "หมั่นหยิบยื่นสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน หมั่นให้กำลังใจกัน เมื่อเรามีโอกาส" "ทำดีด้วยใจดี มีแต่ได้ แม้ประสบสิ่งร้าย มองด้วยใจดี ไม่มีเสีย ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~. .................................... .......................................... ***..ที่มาจาก...Fw.Mail.. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~...* 
|