ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยคิดว่าผมจะทำขนมเค้กเป็น เพราะไม่ชอบทำขนมเอาเสียเลย แต่มาวันหนึ่งผมผมก็ค้นพบสูตรโดยบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน ถึงวันนี้ผมก็ยังสามารถจำทั้งสูตรและผู้ให้สูตรขนมนี้แก่ผมได้เป็นอย่างดี
เมื่อ 10 ปีที่แล้วช่วงที่ผมได้ทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นช่วงหนึ่งที่ผมเจอทั้งประสบการณ์ที่ขมชื่นและสวยงาม ในปีนั้นเป็นปีที่ต้มยำกุ้งแตกระเบิด เศรษฐกิจตกทั่วเอเชีย และผมก็โดนผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ครอบครัวของผมล้มละลาย พ่อแม่ของผมสิ้นเนื้อประดาตัว ในเวลานั้นผมกลุ้มใจเหลือเกิน ไม่รู้จะทำอย่างไร กลุ้มเรื่องพ่อแม่ยังไม่พอ อาการป่วยโรคไตของผมก็ดันมากำเริบเสียอีก ชีวิตของผมในปีนั้นมันตกอับสิ้นดี จะกลับก็ไม่มีเงินกลับบ้าน จะอยู่ต่อก็ไม่มีเงินรักษาตัวเอง หันไปหาใครก็ไม่สักคน เพราะไม่มีญาติพี่น้องสักคน แต่ในช่วงที่แย่ที่สุดในตอนนั้น ผมได้รู้จักครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเป็นใครก็ไม่รุ้ ไม่เคยรู้จัก แต่สุดท้ายผมเรียกท่านทั้งสองว่า พ่อ แม่ (บุญธรรม) อย่างภาคภูมิใจ
ในวันนั้นช่วงที่ผมป่วย ตัวผมบวมมาก และผมก็ไม่กล้าไปหาหมอเพราะไม่มีเงินและไม่อยากให้ใครรุ้ ยิ่งปกปิดร่างกายก็ยิ่งทรุดลง วันหนึ่งเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น มีครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวนี้อยู่ๆๆก็โทรศัพท์มาหาผมที่หอพัก และอยากจะเข้ามาเยี่ยมเยียนเพราะได้ข่าวว่ามีนักเรียนไทยอยู่ที่นี่ และรู้ว่าผมเป็นคริสเตียน(นับถือพระเยซู) อยากจะมาทำความรู้จักและอธิฐานร่วมกัน ทันทีที่ครอบครัวนี้มาถึงหอพัก ทั้งสองสามีภรรยาตกใจกับอาการป่วยของผม และก็มองหน้ากันอย่างเวทนามาที่ผม ทั้งสองท่านบอกว่า ครอบครัวของเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เราจะขออาสาเรื่องการนำตัวผมเข้าโรงพยาบาล ทั้งสองท่านจะออกเงินให้ หากมันเยอะเกินไป เงินไม่พอ ทั้งสองท่านจะช่วยเรี่ยไรเงินของพี่น้องคริสเตียนในคริสจักรเพื่อกันอีกแรง วันนั้นผมไม่มีทางเลือก ผมตัดสินใจรับความช่วยเหลือทันที (แต่ในใจของผมตอนนั้นก็กลัวๆๆกล้าๆๆ เพราะผมสงสัยเหลือเกิน มาช่วยผมเพราะอะไรกัน)
ผมนอนโรงพยาบาล 8 วัน หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาล ครอบครัวนี้ก็ขออาสาดูแลผมอีกเพราะคุณหมอกำชับให้ระวังเรื่องเลือดที่อาจจะไหลไม่หยุดเนื่องจากผลข้างเคียงของยาละลายลิ่มเลือด ครอบครัวนี้อาสารับผมให้ไปอยู่ที่บ้านหนึ่งอาทิตย์เพราะที่หอพักกลัวไม่มีใครดูแล ระหว่างที่ผมอยู่บ้านท่านทั้งสอง ผมก็พบว่า ครอบครัวนี้ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนอย่างที่ผมเข้าใจ แต่ทำไมครอบครัวนี้ถึงช่วยผมแบบนี้นะ
ทุกๆๆเช้าภรรยาของท่านจะคั้นน้ำผลไม้ทิ้งไว้ที่ห้องครัวก่อนที่ท่านจะต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรุ่ ตกเย็นก็จะทำอาหารไทย เพื่อที่ผมจะได้ทานอาหารเยอะๆๆ ผมจะได้หายป่วยไวๆๆ
วันแล้ววันเล่า ผมอดไม่ได้ อดสงสัยครอบคัวนี้ไม่ได้ ผมก็เลยตัดสินใจถามภรรยาของท่านว่า “คุณป้าครับ คุณป้าและคุณลุงมีบุญคุณกับผมเหลือเกิน ครอบครัวยากจนอย่างผม ไม่รู้ว่าจะชดใช้อย่างไรดี คุณป้าทำไมถึงใจดีกับผมจัง คุณป้าทำเพื่ออะไรเหรอครับ” คุณป้ามองหน้าผม และยิ้มอย่างเมตตาและบอกผมว่า “จงรักคนอื่นเหมือนรักตนเอง เหมือนที่พระเยซูบอก พระเจ้าอยากจะบอกพวกเราว่า รักของพระเจ้ากำลังสำแดงผ่านคุณป้าและคุณลุงมาถึงหนูไงล่ะ” หลังจากพูดจบ คุณป้าลูบหัวผมเบาๆๆ และบอกผมว่า “ ป้าขอเป็นแม่ของหนูได้ไหมจ๊ะ เออออออออ.....เรียก แม่ซิจ๊ะ..........................”
หลังจากพูดจบ คุณแม่บุญธรรมของผม ก็จูงมือผมไปที่ครัว และบอกผมว่า เรามาทำแครอทเค้กไปเลี้ยงเด็กๆๆที่โบสถ์พรุ่งนี้กันเถอะ และผมก็ได้รู้จักการทำแครอทแค้กตั้งแต่นั้นมา และผมก็ได้มีโอกาสทำอยู่เป็นประจำ เพราะผมจะช่วยคุณแม่บุญธรรมของผมทำแครอทเค้กแจกเพื่อนบ้านและเด็กๆๆที่โบสถ์อยู่เป็นประจำ
แม้จะผ่านมาหลายปี ผมก็ยังจดจำสูตรขนมเค้กนี้ได้เป็นอย่างดี และทุกๆๆครั้งที่ได้เห็น ได้ทาน หรือได้ยินเพียงคนพูดถึงแครอทเค้ก ก็จะทำให้ผมคิดถึงคุณแม่บุญธรรมของผมทุกครั้งครับ
แครอทเค้กครีมชี้ส
สูตรนี้ผมได้ดัดแปลงหลายครั้ง และพยามดัดแปลงโดยใช้ผลไม้ไทยหรือเครื่องปรุงไทยที่หาง่ายเป็นส่วนประกอบ
เครื่องปรุง
น้ำตาลทรายแดง 2 ถ้วย แป้งสาลี 3 ถ้วย เบ้กกิ้ง โซดา 1 ชช. อบเชยป่น 2 ชช. เกลือ 1 ชช. แครอทหั่นฝอย 2 ถ้วย น้ำมันพืช 1 1/2 ถ้วย ไข่ไก่ 4 ฟอง ถั่วหิมมะพานบด 1 1/2 ถ้วย กล้วยตากหั่นเต๋า 1 1/2 ถ้วย ผลไม้สีเขียวสีแดง 1 ถ้วย(หาซื้อได้ที่บิ๊กซีหรือ่โลตัส วนิลา 3 ช้อน เปลือกมะนาวหั่นละเอียด 1 ชต.
(หากไม่ชอบกล้วย ก็เปลี่ยนเป็นผลไม้แห้งอื่นๆๆก็ได้นะครับ)
เครื่องแต่งหน้า 1. ครีมชิส 1 กล่อง 2. น้ำตามไอซิ่ง 2 ถ้วย 3. น้ำมะนาว 1 ชต.(ถ้าชอบเปรี้ยวก็เติมได้นะจ๊ะ) 4. เปลือกมะนาวหั่นละเอียด 5. วนิลา 1 ชช.
วิธีทำ
1. นำส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นเครื่องแต่งหน้า ลงในชาม แล้วคนให้เข้ากัน ง่ายเหลือเกินครับ
ทำตามภาพเลยครับ






2. ระหว่างที่คนส่วนผสม ก็ให้เปิดเตาอบ ไฟล่าง ที่อุณหภูมิ 350 องศา เพื่อเตรียมตัวให้ร้อนครับ

3. ทาเนยที่ถาดขนม ด้วยนิ้วให้ทั่วแบบนี้ครับ

4. เทส่วนผสมขนมลงในถาดแล้วอบประมาณ 1 ชั่วโมง

5. เมื่ออบเสร็จ ก็ปาดหน้าด้านบนออก แล้วตั้งบนตระแกรงเพื่อให้หายร้อนไวๆๆ เพื่อที่จะเตียมตัวแต่งหน้าไงจ๊ะ

6. นำเครื่องแต่งหน้าที่เตรียมไว้ นำมาคนให้เข้ากันแบบนี้ครับ

คนให้เหลวแบบนี้ครับ ชิมรสให้ได้หวาน เปรี้ยวครับ

ใช้มีดปาดครีมให้ทั่วหน้าเค้กแบบนี้ครับ ใครอยากจะแต่งแบบอื่นก็ตามสบาย ไม่ผิดกะติกา

แต่งหน้าอีกรอบด้วย แครอทหั่นลูกเต๋า และถั่วแบบนี้ครับ ใครอยากจะแกะสลักก็ตามใจเลยครับ

เป็นไงครับน่าทานไหมครับ

เคล็ดลับให้อร่อย
หลังจากทาครีมเสร็จ ให้แช่ไว้ในตู้เย็นสัก 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ขนมและเครีมเซ็ดตัวดีขึ้น หลังจากนั้น ค่อนหั่นแครอทมาแต่งหน้า

เห็นสูตรและภาพการทำแล้ว ง่ายไหมครับ ใครๆๆก็ทำได้
เวลาผมทำเค้กนี้ทีไร ผมมีความสุขมากๆๆครับ เพราะได้ทานแครอทเค้กทีไร ผมก็รู้สึกว่า แม่บุญธรรมของผมอยู่ใกล้ๆๆกับผมทุกทีเลยครับ และผมหวังว่า วันหนึ่ง ผมจะมีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินไปทำแครอทแค้กและเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่บุญธรรมของผมนะครับ
( เขียนเรื่องนี้เสร็จ น้ำตามันซึมๆๆครับ คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ครับ ครอบครัว Payne )
สูตรขนมและเรื่องราว(ส่วนตั๊วส่วนตัว)การได้มาของสูตรขนมของผมก็มีเพียงเท่านี้ครับ ว่างๆๆ อย่าลืมทำแครอทเค้กกันนะจ๊ะ ทำแล้วอย่าลืมส่งมาให้ลุงกิ๊ทานบ้างนะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ /
|