
ทันทีที่หมัดซ้ายของ แมนนี่ ปาเกียว อัดเข้าไปเต็มกรามนักชกจากอังกฤษ และกระชากเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นไลท์เวลเตอร์เวทของ IBO มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
.. วินาทีนั้น .. คงไม่ได้มีแค่เพียงนักชกร่างเล็กที่เพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ผู้นี้แต่เพียงผู้เดียวที่ดีกรีความสุขจะพุ่งปรี๊ดขึ้นไปจนทะลักจุดเดือด หากแต่ยังมีพี่น้องร่วมชาติของเขาอีกกว่า 80 ล้านคน ที่ชูกำปั้นแหกปากประหนึ่งหมัดนั้นถูกปล่อยออกไปด้วยตัวของพวกเขาเอง . 
.. ห้วงเวลาดังกล่าว .. ความสุขจะท่วมท้นล้นหัวใจคนฟิลิปปินส์จนทะลักเข้าท่วมประเทศที่เป็นหมู่เกาะแห่งนี้ขนาดไหน รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าของชาวตากาล็อกคือสิ่งที่แสดงให้เห็นแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี ความสุขของคนทั้งประเทศจากกำปั้นของชาย .. เพียงคนเดียว . 
เหลียวกลับมามองหาบุคคลเช่นนั้นในเมืองไทยกันบ้าง บุคคลซึ่งพอจะเป็น วีรบุรษ ที่จะนำความสุขมาให้กับคนไทยทั้งประเทศ เพ่งตามองไปข้างหน้า หันซ้าย หันขวา เงยหน้า มองดิน ขยี้ตาแล้วหันไปมองด้านหลังอีกซักครั้ง .. ไร้วี่แวว ..
จะเห็นก็แค่เพียงคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังวิ่งกันฝุ่นตลบ เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพวกเขาบอกว่า
นี่ล่ะคือการสร้างความปรองดองที่จะนำความสงบสุขมาสู่ประเทศไทย
.. ผมว่ามันน่าขำ ..
ที่พวกเขาคิดตื้นๆ ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้ผมเลิกเกลียดนายทักษิณ และหันไปชื่นชมแนวคิดและวิถีปฏิบัติของคนเสื้อแดงได้ คงจะมีก็แค่ประเทศนี้ประเทศเดียวในโลกล่ะกระมังครับ ที่รัฐธรรมนูญไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นกฎหมายแม่บทในการปกครองประเทศ แต่มีไว้เพื่อสร้างความปรองดองของคนในชาติ แถมยังเป็นการ บังคับ ให้คนโกงกับคนดีมาปรองดองกันอีกต่างหาก
แบบนี้ต้องแก้กฎหมายอาญาให้ตำรวจมาปรองดองกับผู้ร้ายเพื่อสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นด้วยหรือไม่ครับ ???
.. ผมว่ามันบ้องตื้น .. ที่ได้ยินลุงไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่งบอกว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 237 ว่าด้วยการยุบพรรคการเมือง เป็นบทกฎหมายที่ไม่ยุติธรรมกับนักการเมือง ทำให้พรรคการเมืองไม่เข้มแข็ง และประชาธิปไตยอ่อนแอ คน 100 คน ที่ได้ผลพลอยได้จากการกระทำผิดของคนหนึ่งคน กลับยินดีที่จะรับเฉพาะแต่ ประโยชน์ โดยปฎิเสธความรับผิดชอบใดๆ ทั้งปวงจากการกระทำของพวกตนเอง ที่เป็นแค่ ผีตายแทน ถามจริงๆ เถอะครับลุงแบบนี้มันยุติธรรมกับประชาชนตรงไหน ตกลงว่าท่านเป็นตัวแทนของประชาชน หรือเป็นตัวแทนของนักการเมืองครับจึงกล้าพูดเช่นนี้ออกมา
พรรคการเมืองที่เข้มแข็งซึ่งได้อำนาจมาด้วยวิธีสกปรก ผมว่าไม่มีเสียจะดีกว่ากระมังครับ และถ้าการขาดพรรคการเมืองที่ไร้จริยธรรมเช่นนี้ทำให้ประชาธิปไตยอ่อนแอจริงล่ะก็ หลายประเทศคงไม่เจริญรุ่งเรืองจนน่าอิจฉาอย่างทุกวันนี้หรอกครับ
.. ผมว่ามันน่าเบื่อ .. ที่ป้าคนหนึ่งแนะนำมาว่าการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคการเมืองตามมาตรา 237 แห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็ทำได้แค่ผลักให้คนเหล่านั้นไปยืนชักใยอยู่เบื้องหลังตัวแทนที่ส่งมา อย่างยี้แล้วสู้ปล่อยให้พวกเขามายืนอยู่เบื้องหน้าไม่ดีกว่าหรือ โถ โถ โถ .. ป้าครับ !!
ประเด็นในเรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ตรงที่ใครจะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลังครับ แต่มันอยู่ที่ข้อพิสูจน์ทางกฎหมายว่าคนในพรรคของพวกเขาเหล่านั้นใช้วิธีโกงการเลือกตั้งเข้ามาหรือเปล่า และพวกเขามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่
หน้าหลัง กับ ผิดถูก มันคนละเรื่องกันนะครับป้า นี่ป้าไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ครับเนี่ย
.. แต่ที่เป็นตลกร้ายที่สุดสำหรับผม .. คือคนที่ผมตั้งความหวังเอาไว้อย่างสูง ว่าจะสามารถมอบสุขให้กับผมและคนไทยได้อย่างนายกรัฐมนตรีหนุ่มท่านนี้ กลับเห็นดีเห็นงามกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้กับเขาด้วย เข้าใจครับว่า .. ท่านต้องการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เข้าใจอีกครับว่า .. แรงกดดันจากพรรคร่วมบางพรรคทำให้ท่านทำอะไรได้ไม่มาก
และยิ่งเข้าใจด้วยครับว่า .. การมีท่านเป็นนายกฯ ย่อมดีกว่าปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งได้อำนาจในการบริหารไป
.. แต่อย่างไรก็ตาม ..
ผมก็อดที่จะผิดหวังในตัวท่านด้วยไม่ได้เช่นกัน เพราะอย่างนั้นผมถึงบอกว่ามันเป็นตลกร้ายอย่างไรล่ะครับ
ขำตัวเอง .. ที่ไปฝากความหวังไว้กับท่านเสียมากมาย และอยากจะร้องไห้กับความจริงที่ว่า .. นอกจากท่านแล้วผมก็ไม่รู้จะฝากความหวังไว้กับใครได้อีก
. 
.. ความสุขที่ผมมองหาก็คงจะคล้ายกับป่าในภาพถ่ายใบนี้ .. ป่า ตัวแทนแห่งความสงบสุข ที่ตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะได้รับ ที่ถูกกีดกั้นไว้ด้วย ลวดหนาม ที่เป็นเสมือนตัวแทนแห่ง 'อำนาจ'
ทำให้ ท้องฟ้า ที่สมควรกระจ่างและสวยงามกลับปกคลุมไปด้วยเมฆดำ
เช่นเดียวกับ อารมณ์ ของผมในตอนนี้ ที่รู้สึกหว้าเหว่เสียเหลือเกิน
บทความโดย พรายพิลาศ 
จันทร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๕๕๒
ขอขอบคุณภาพต้นฉบับจาก Manager Online และขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับ Blogger PukPik กับภาพถ่ายที่ให้ความหมายได้อย่างโดนใจผู้เขียน จนทำให้เกิดบทความในวันนี้ขึ้นมา
|