จากเสียงกระหึ่มของเนื้อเพลง "Stand up if you hate Man.U (ที่แปลงมาจากเพลง Go West ของ Pet Shop Boy) ที่ดังขึ้นปานฟ้าถล่มภายหลังจากความพ่ายแพ้อย่างยับเยินคาบ้านต่อคู่ปรับตลอดกาล (สำหรับคอบอลชาวสยามประเทศ) ลิเวอร์พูล ที่ทำให้ เด็กผี หลายคนออกอาการปานดรุณีแรกรุ่นที่สะท้านเขินจากการถูกผิวปากแซว
(รวมถึงตัวผมเองที่เกิดอาการเช่นนี้ภายหลังจากเปิดอ่านข้อความในจดหมายอิเล็คโทรนิคของมิตรรักท่านหนึ่งที่ถามมาว่า .. อะไรเอ่ย 4-1 ??? ..)
แต่จากเหตุการณ์ 'No Score ณ โรงละครแห่งความฝันเมื่อค่ำวันวานที่ผ่านมา (16 พ.ค.) เนื้อเพลงที่ชวนให้แสบกลีบมะเฟืองทุกครั้งที่ได้ยิน ก็ได้รับการเปลี่ยนเนื้อร้องในทันที
'Stand up if you love Man.U'
ในราตรีเด็กผีเริงร่า .. กับการฉลองแชมป์ลีคสมัยที่ 18
(เท่ากับลิเวอร์พูล)
.
.
.
.
.. แน่นอนว่า ..
ในฐานะเด็กผีคนหนึ่ง ผมเองย่อมต้องยินดีในความสำเร็จของทีมรักในครั้งนี้อยู่แล้ว แต่มันก็เหมือน อาหารจานโปรดที่คุ้นเคย ซึ่งแม้จะรู้สึกเอร็ดอร่อยทุกครั้งที่ได้กิน หากทว่าดีกรีความความ ดื่มด่ำ กับอรรถรสย่อมเทียบไม่ได้เลยกับเมื่อครั้งที่สัมผัสรสชาติของมันเป็นครั้งแรก
.. ย้อนกลับไป 20 กว่าปีก่อน ในวันที่ชีวิตเด็กผีของผมเริ่มต้นขึ้น ..
ในค่ำคืนที่เด็กชายคนหนึ่งถูกปลุกขึ้นมาจากนิทรารมย์อันแสนสุขด้วยเสียงของเครื่องรับโทรทัศน์ที่กำลังถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล F.A.Cup รอบชิงชนะเลิศ ภาพของผู้เล่นที่ใส่เสื้อสีน้ำเงินกับเสื้อสีแดง (ตอนนั้นยังไม่รู้จักเลยซักทีม) วิ่งพล่านอยู่ในสนามสี่เหลี่ยมพร้อมกับเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่ม ทำให้ผมลุกขึ้นมานั่งชมอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าที่ว่า ไหนๆ ก็ตื่นมาแล้ว
.. จนกระทั่งในนาทีนั้น ..
ทันทีที่ใบแดงถูกกระชากออกมาจากกระเป๋าของผู้ตัดสินหยิบยื่นเข้าใส่ใบหน้าของ Kevin Moran ผู้เล่นเสื้อสีแดงที่ผู้บรรยายเรียกว่าทีม 'Man.U สิ่งที่ซ่อนอยู่ในสายเลือดคนไทยอย่างหนึ่งของผมก็ถูกปลุกขึ้นมาในทันที พร้อมกับการ เลือกข้าง ซึ่งส่งผลกับตัวเองมาจนถึงปัจจุบัน
Man.Utd. 1 - 0 Everton (FA. Cup Final 1984-1985)
คือผลของการแข่งขันในคืนนั้น ซึ่งถูกตัดสินด้วยการทำประตูของหนุ่มน้อย (ในตอนนั้น) ที่มีชื่อว่า Norman Whiteside ทำให้กองเชียร์บอลรองอย่างผมกลับเข้าไปนอนอย่างสมหวัง โดยที่มีสิ่งหนึ่งแอบฝังตัวลงไปในสมองเพื่อรอคอยเช้าวันใหม่ที่กำลังจะมาถึง
.. รุ่งอรุณที่ ..
เด็กผีตัวใหม่ลืมตาขึ้นมาดูโลก
.
.
.
.
.. แต่ก็อีกนั่นล่ะครับ ..
Man.U ในยุคนั้น ยังไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนในยุคนี้ ทำให้เด็กผีตัวน้อยอย่างผมหนีไม่พ้นเสียงแซวจากเพื่อนร่วมก๊วนคอบอล ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแฟน Liverpool กับ Everton เกือบทั้งนั้น
"เมิงนี่คิดสั้นว่ะที่เลือกเป็นแฟน Man.U
...................
คือถ้อยคำปรามาสจากเพื่อคนหนึ่งที่ยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ไม่สามารถสั่นคลอนจิตใจ หรือทำให้ผมคิดอยากจะโยน สามง่าม ในมือของตนเองทิ้งไปได้
.
.
.
.
เงินค่าขนมวันละ 10 บาท ถูกเจียดเอาไว้เป็นค่านิตยสารฟุตบอลรายสัปดาห์ ที่ตอนนั้นราคาเล่มละ 12 บาท เพื่อติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของทีมรักที่มักจะถูกยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้อยู่เป็นประจำ
.. ความหวังทอแสงสว่างขึ้นแล้วดับอยู่ปีแล้วปีเล่า ..
เปิดฤดูกาลด้วยชัยชนะ 10 นัดรวด (85-86) แต่สุดท้ายก็นั่งกินแห้วเอาในตอนจบ
นำโด่งมาค่อนฤดูกาล (91-92) แต่ดันมาแพ้รวด 3 นัดสุดท้ายอย่างไม่เกรงใจแฟนบอล ได้แค่รองแชมป์
จนกระทั่งในปีที่ 9 ของชีวิตเด็กผีอย่างผม แห้วรสเฝื่อนที่เคยกินจนเบื่อก็ได้ถูกส่งต่อไปให้กับแฟนบอลทีมอื่นได้ลองลิ้มชิมรสบ้างเป็นครั้งแรก
การลงเล่นถึง 4 เกมส์ในรอบ 8 วัน กับประตูของ Steve Bruce ที่โหม่งเข้าไปเป็นประตูที่ 2 ในเกมส์กับ Sheffield Wednesday ที่ส่งให้ Man.U ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน
.
.
.
.
ด้วยฟอร์มที่สุดยอดของตำนานเบอร์ 7 คนใหม่อย่าง Eric Cantona ที่เพิ่งย้ายมา และ Ryan Giggs เด็กหนุ่มจากเวลล์ซึ่งได้รับฉายาต่อมาในภายหลังว่า ปีกพ่อมด รวมถึง ยักษ์เดนส์ Peter Schmeicle สุดยอดผู้รักษาประตู
ทำให้ในฤดูกาล 1992-1993 Man.U กลับมาเถลิงแชมป์ลีคได้อีกครั้งในรอบ 26 ปี ภายใต้การคุมทีมของ Alex Ferguson
.
.
.
.
จำได้ว่าตอนนั้นตัวเองดีใจจนถึงกับนอนไม่หลับ วันๆ คุยฟุ้งอยู่แต่เรื่องของทีมรักกับเพื่อนๆ อย่างไม่รู้จักเบื่อ
.
.
.
.
ตรูเคยเห็น Brian Robson ตัวเป็นๆ ด้วยนะเว้ย .. !!
.
.
.
.
"Brian McClair เคยจับมือกับตรูมาแล้วนะว๊อย .. !!
บลา บลา บลา .......................
.
.
.
.
.. ถึงเวลาจะผ่านมาแล้ว 16 ปี ..
กับ แชมป์ลีคครั้งแรก ของทีมรักนับแต่ปวารณาตนเองเป็น เด็กผี
เด็กผีที่ทุกวันนี้ยังไม่เคยมีเสื้อ Man.U ซักตัวในตู้เสื้อผ้า จะมีก็แต่เพียงผ้าปัก Cross Stitch สัญลักษณ์ตราสโมสรที่เธออันเป็นที่รักลงแรงปักให้ด้วยตนเองแขวนอยู่บนผนังของบ้านเท่านั้น
.
.
.
.
หากทว่าอารมณ์และความรู้สึกของตนเองในวันนั้น ยังคงชัดเจนมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไม่เคยเลือนลางหล่นหายไปพร้อมกับเวลาที่ผ่านมาเลย
นี่คงเป็นข้อดีของการรอคอยที่ทำให้สิ่งที่ได้มาทรงคุณค่าอยู่เสมอล่ะกระมัง
บทความโดย
พรายพิลาศ
อาทิตย์ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๖
พ.ศ. ๒๕๕๒
Glory Glory Man. Utd !!!
ขอขอบคุณภาพประกอบบทความจาก
Manager Online
www.manuclub.com
.
.