พระพุทธเจ้าในห้วงคำนึง วิทยากร โสวัตร กลิ่นหอมของดอกไม้
มาลาดวงดอกไม้ มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา ........................

ได้ยินเพียงคำร่ำลือว่าแม่เป็นหนึ่งในสามของคณะสะระภัญญ์ที่ได้รับเลือกให้เดินเท้าไปสวดบูชาองค์พระธาตุพนมเมื่อ ๕๐ กว่าปีที่แล้ว เวลาแห่งการเดินทางนั้นเก้าวันเก้าคืน... บางค่ำคืนลำนำสะระภัญญ์บทนี้จะล่องลอยมาพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกสะเลเตที่แม่ประจงใส่แทนต่างหู และบางค่ำคืนมันยังล่องลอยมาในฝัน เพราะแม่ตายไปกว่าสามปีแล้ว...
ในฝัน... แม่นั่งตะหมอบตอบขาพนมมือไว้กลางอกเพ่งดวงตาสำรวมจิตไปยังองค์พระปฏิมาสีทองสุกปลั่งเบื้องหน้า ตั้งจิตแน่วแน่เปล่งพลังทั้งมวลออกมาเป็นเสียงขับลำนำอัญเชิญดวงดอกไม้มาบูชาพระรัตนตรัย- - เป็นลำนำจากปางบรรพ์... พระวิปัสสนาจารย์ท่านนั้นยิ้มที่มุมปากเพียงแต่น้อยเมื่อท่านปิดคัมภีร์โบราณเล่มหนาลง กลิ่นหอมของดวงดอกไม้กำจายออกมาจากทุกอักขระที่บันทึกเรื่องราวนั้นไว้ กระจายออกไปตามช่องไฟและอาณาบริเวณรอบ ๆ พระผู้ปฏิบัติดีแล้วหลับตาลง ...บานประตูกุฎีหลังหนึ่งแง้มออก ความแผ่วเบาของจังหวะทำให้รู้ได้ถึงอาการสำรวมระวังและจิตที่มั่นคงของผู้เปิด สักพักองค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ก้าวออกมา ทอดสายพระเนตรไปยังเบื้องหน้าอันเป็นต้นธารแห่งกลิ่นหอมงามที่พระองค์ตามออกมานั้น แล้วทรงแย้มพระโอษฐ์เพียงเล็กน้อยเมื่อทรงเห็นว่าทางเข้ามายังกุฎีที่ประทับนั้นมากมายไปด้วยดอกไม้ที่กองสุมกันอยู่ อันเนื่องมาจากมือของพุทธบริษัทที่มาจากทั่วทุกสารทิศด้วยก้าวเท้าแห่งศรัทธา... แล้วพระผู้ปฏิบัติตรงก็ลืมตาขึ้นขับลำนำบูชาพระพุทธเจ้าออกมา...
มาลาดวงดอกไม้ มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา บูชาคุณพระพุทธ บูชาคุณพระพุทธ ที่ได้ตรัสรู้มา
พระผู้ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์หลับตาลงกำหนดรู้ลมหายใจหอมเข้า-ออก จับนิมิตเห็นองค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแย้มพระโอษฐ์เพียงเล็กน้อยต่อความหอมของมวลดอกไม้จากมือพุทธบริษัทที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศด้วยก้าวย่างแห่งศรัทธา และความซาบซึ้งในรสพระธรรมเทศนาของพระองค์ แล้วพระผู้ปฏิบัติสมควรแล้วก็ลืมตาขึ้นขับลำนำบูชาพระธรรมออกมา...
มาลาดวงดอกไม้ มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา บูชาคุณพระธรรม บูชาคุณพระธรรม ที่ได้นำคำสอนมา...
พระวิปัสสนาจารย์หลับตาลงกำหนดรู้ลมหายใจหอมเข้า-ออก พิจารณาวิถีแห่งตนแล้วเห็นจริงว่าเป็นสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชาแล้ว เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับแล้ว เป็นผู้ควรรับทักษิณาทานแล้ว เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลีแล้ว เป็นเนื้อนาบุญของโลกแล้ว จากนั้นท่านก็ลืมตาขึ้นด้วยความสำนึกรู้ในการที่จะกราบไหว้ตัวเองได้อย่างสนิทใจ จึงได้ขับลำนำขึ้นบูชา... มาลาดวงดอกไม้ มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา บูชาคุณพระสงฆ์ บูชาคุณพระสงฆ์ ผู้ดำรงธรรมวินัย...
ต่อหน้าองค์พระปฏิมา แม่ตั้งสติมั่น พลันที่บทลำนำสะระภัญญ์ถูกขับออกมาจากดวงใจก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมสะอาดอย่างเดียวกันนั้นของดวงดอกไม้ แล้วแม่ก็ถูกเลือก...
ได้ยินเพียงคำร่ำลือว่าแม่เป็นหนึ่งในสามของคณะสะระภัญญ์ที่ได้รับเลือกให้เดินเท้าไปสวดบูชาองค์พระธาตุพนมเมื่อ ๕๐ กว่าปีที่แล้ว บางค่ำคืนลำนำสะระภัญญ์บทนี้จะล่องลอยมาพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกสะเลเตที่แม่ประจงใส่แทนต่างหู และบางค่ำคืนมันยังล่องลอยมาในฝัน- - แม่ได้ตายไปกว่าสามปีแล้ว... แต่ทุกครั้งที่ท่วงทำนองอันไพเราะของบทสวดสะระภัญญ์ของแม่ล่องลอยผ่านเข้ามาในห้วงคำนึง ภาพของเหล่าผู้จาริกบุญที่มุ่งหน้าไปสู่พุทธเจดีย์ที่บรรจุพระอุรอัฐิของพระพุทธเจ้าก็พลันปรากฏ- - เวลาเดินทางทั้งไปและกลับมากกว่าครึ่งเดือนนั้น พวกท่านเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนในการก้าวข้ามขุนเขา ลำห้วย และป่าใหญ่... ระหว่างเท้าที่ก้าวไปแต่ละก้าว พวกท่านครุ่นคิดถึงสิ่งใด... พวกท่านจะรู้หรือไม่นะ ว่าพระพุทธเจ้าเป็นใคร หรือว่าไม่จำเป็น... แล้วดอกไม้ ธูป เทียนที่ประคองมาในมือที่นบประนมนั้นเล่า กลิ่นหอมจะกำจรกำจายไปถึงไหน และระหว่างที่วางลงบูชาองค์พระธาตุ พวกท่านหยั่งเห็นถึงสิ่งใด... หรือว่าหยั่งรู้พระทัยของพระองค์
ภาพ: สุวรรณภา คำไร
ที่มา: สานแสงอรุณ ปีที่ ๑๓ ฉบับที่ ๑ มกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ *นำไปเผยแพร่ต่อ กรุณาอ้างอิงที่มา*
|