ขับรถกลับออกมาผ่านหน้าโรงเรียน

อ้าว........ลั่นทนต้นโต ๆ หน้าโรงเรียน
ที่ปลูกเป็นแถวข้างสนามฟุตบอล
มีคนมาขุดล้อมเอาขึ้นรถ

ผอ. คนใหม่ ที่เพิ่งย้ายมาไม่ถึงปี
ขายให้กับพ่อค้าที่มาติดต่อในราคา
ห้าต้น สามแสนห้า......

ผอ.จะเอาตังค์ไปซ่อมโฮงเฮียน
กะว่าจะไปซื้อรถตู้ก็บ่าฮู้เน้อ
(จะเอาเงินไปซ่อมแซมโรงเรียน
หรือซื้อรถตู้ไว้ใช้ก็ไม่รู้เหมือนกัน)
ปลูกมากี่ปีล่ะลุง......(ข้าเจ้าเรียกลุงตามลูก)
เอ้อ.....บ่าฮู้เน้อ......ใหญ่มาก็หันมันแล้วหนา
(ไม่รู้ซิ.....โตมาก็เห็นแล้วนะ)
เปิ้นเอาไปแล้ว....ก็จะปลูกแตนหื้ออยู่หนา
(เค้าเอาไปแล้ว....ก็จะปลูกต้นใหม่แทนต้นที่เอาไปด้วยนะ)

(มันแทนกันได้ด้วยเหรอ)
จะขายยะหยัง......แน่ะ(ข้าเจ้าบ่นกับตัวเอง)
เพราะเคยเห็นผู้หญิงแก่ ๆ จะมาเก็บดอกลั่นทมสีขาว ๆ
ทุกเช้า เย็น ยายบอกว่า
เอาไปผึ่งลม รวบรวมไว้ขายกิโลละ 35 40 บาท
เปิ้นเอาไปเข้ายา
(หมายถึงเอาไปเป็นส่วนประกอบของยาแผนโบราณค่ะ)
สำหรับคนแก่ที่ไม่มีอาชีพขายครั้งละ สี่ซ้าห้าโล
ก็ยังเป็นเงินทองที่สามารถหาได้เอง
ไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน

ข้าเจ้าจะเห็นยายบ่อย ๆ
บางทีก็มากับหลาน ก้ม ๆ เงย ๆ เก็บใส่ถุงหิ้ว
พอเรียบร้อย ยายกับหลานก็จะช่วยกันกวาดบริเวณ
ใต้ต้นลั่นทมให้สะอาดเอี่ยมอ่องแล้วจึงกลับบ้าน
เพื่อเป็นการตอบแทนโรงเรียน
ที่ยอมให้ยายมาเก็บดอกไม้
ทั้ง ๆ ที่ หากยายไม่มาเก็บ
ภารโรงก็ต้องกวาดทุกเช้า
เพื่อทำความสะอาดใต้ต้นลั่นทมทุกวันอยู่แล้ว
ตอนข้าเจ้าเดินเก็บรูปตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน
ว่าจะถ่ายไปทำไม.....แต่มันใจหาย....ยังไงก็บอกไม่ถูก
เพราะไม่กี่วันก่อนหน้านี้
ลั่นทมหลังวัดของอีกหมู่บ้านใกล้ ๆ กัน
ซึ่งมีลีลาอ่อนช้อยสวยงาม
กิ่งเอนระนาบไปกับพื้นแล้วแตกกิ่งก้านขึ้นด้านบน
ก็ถูกขุดขายไป.....มีคนบอกว่า
ต้นที่หลังวัดขายไปหกหมื่น.......อืมมมม
ใครนะ.....ขายไป
ข้าเจ้ายังคุยกับลูกสาวว่า.......
แล้วยายจะไปเก็บดอกลั่นทมที่ไหนไปขายอีกล่ะทีนี้
ลุงที่เราคุยด้วยตอนแรกได้ยินเข้า
ก็ชี้ไปที่ลั่นทมอีกต้นที่ไม่ถูกขายอยู่ขอบสนามด้านโน้น
......ปู้น....ดุ๊....(โน่น...แน่ะ)
มันบ่างาม.....เปิ้นบ่าเอา
(มันไม่สวย.....พ่อค้าเลยไม่ซื้อ)
อ้าว......รอดไปได้เพราะความไม่สวยเหรอเนี่ย