ชีพ แก้วบุญส่ง : จากปัญหาทะเลสาบสู่เกษตรกรรมปลอดสารพิษ 
ในแวดวงบุคคลที่ทำงานเกี่ยวพันกับทะเลสาบสงขลา คงไม่มีใครไม่รู้จัก ลุงชีพ แก้วบุญส่ง ชาวประมงทะเลสาบแห่งอำเภอ ควนขนุน จังหวัดพัทลุง แม้จะเจอหน้าเจอตาน้อยลงในเวทีที่เกี่ยวกับปัญหาประมง แต่พบหน้ากันล่าสุด ในงาน ตามรอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง รวมพลคนรักษ์ลุ่มน้ำเลสาบ ที่หาดแสนสุข ลำปำ จ.พัทลุง ลุงชีพยังกล้ายืนยันอย่างหนักแน่น ว่าทุกวันนี้ยังสนใจในปัญหา ทะเลสาบสงขลาอยู่ ได้ยินแค่นี้ก็ทำให้ใครต่อใครชื่นอกชื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ย้อนหลังไปหลายปีก่อน ลุงชีพเริ่มเข้ามาทำงานในแวดวงประมงพื้นบ้านประมาณปี 2534-35 ซึ่งถือได้ว่าเป็นแกนนำชาวบ้านรุ่นแรกๆ ที่เข้ามาทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทะเลสาบ สงขลา แม้แรกเริ่มเดิมที ลุงชีพ จะเข้ามาในฐานะช่วยขับรถส่งแกนนำอีกคนในหมู่บ้าน เพื่อเข้าร่วมประชุมแต่เมื่อได้ร่วมฟังในเวทีต่างๆ ที่ได้เข้าร่วม จึงเกิดความสนใจ คิดว่าตัวเองก็เป็น คนเลสาบคนหนึ่งที่รับรู้ ปัญหาทะเลสาบอย่างดี เพราะครอบครัว ตัวเองตั้งแต่ปู่ ทำมาหากินโดยการทำประมงเลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัวในทะเลสาบ มาโดยตลอด ยิ่งร่วมเวทีมากเข้า รับรู้ปัญหาที่เพิ่มขึ้น ในที่สุดก็กลายเป็นแกนนำสมาพันธ์ประมงพื้นบ้าน ทะเลสาบสงขลาโซนของทะเลน้อยไปโดยปริยาย เกือบยี่สิบปีที่เข้าทำงานด้านนี้ ลุงชีพเล่าให้ฟังว่า มีกิจกรรมมากมายที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาทะเลสาบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมผลักดันนโยบาย ร่วมกับนักพัฒนาเอกชนที่ทำงานในพื้นที่ บางอย่างเห็นรูปธรรม บางอย่างต้องรอเนื่องจากปัญหาทะเลสาบสงขลาเป็นปัญหาใหญ่ และเรื้อรังมานาน ท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่ยังไงๆ ลุงชีพก็บอกว่า ก็คงต้องหาวิธีการแก้ไขปัญหาทะเลสาบสงขลา กันต่อไป เพราะยังอยากจะเห็นทะเลสาบกลับมีความสมบูรณ์อีกครั้ง ไม่ต้องถึงขนาดนุ่งผ้าถุงอาบน้ำแล้วกุ้งก้ามกรามติดขึ้นมาเป็นกิโลๆเหมือนอย่างในอดีต ขอแค่พอกินพออยู่ เท่านี้ ลุงชีพก็บอกว่าเป็นสุขแล้ว ******** นอกจากจะยังคงสนใจปัญหาทะเลสาบ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา ลุงชีพได้มีโอกาส ทำงานร่วมกับกลุ่มเกษตรกรรมทางเลือกอีกบทบาทหนึ่งด้วย สมัยช่วงที่ ตลาดเขียว ในอำเภอหาดใหญ่กำลังบูมสุดขีด ใครๆต่างก็รู้จักลุงชีพเป็นอย่างดี เพราะคุณลุงนี่แหละที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญคนหนึ่งที่ทำให้ตลาดแห่งนั้นดกดื่นไปพืชผัก ปลอดสารพิษที่นำมาบริการขายถึงใจกลางเมืองหาดใหญ่ แม้ทุกวันนี้ตลาดดังกล่าวจะยุติบทบาทไปนานแล้วหลายปี แต่คุณูปการจากตลาดดังกล่าว ก็สามารถทำให้ลุงชีพสามารถนำพืชผักปลอดสารพิษเข้าบุกถึงโรงครัวโรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้สำเร็จ อธิบายอย่างง่ายก็คือ หลังจากตลาดเขียวยุติบทบาท ลุงชีพ ก็นำพืชผักปลอดสารพิษต่างๆ ที่ชาวบ้านในชุมชนปลูก ไม่ว่าจะเป็น ผักเหมียง ผักกูด ถั่วพลู เป็นต้น นำไปขายที่โรงพยาบาล หาดใหญ่แทน สัปดาห์ละสอง-สามครั้ง...ดำเนินการมากระทั่งถึงทุกวันนี้ นี่คือแกนนำชาวบ้านอีกคนหนึ่ง ที่ ฅนปากใต้ ยินดีอย่างยิ่งที่นำมาบันทึกเอาไว้ในบัญชร แวดวงชุมชน แห่งนี้
|