"เราจะตายเพื่อความฝัน หรือเราจะตายเพื่อความจริง"
เสียงจากความมืดในจิตใจ ถามก้องกังวานในภวังค์อุดมการณ์อันอัตคัด! แต่ความรู้สึกที่ชอบรวบรัดตัดความ สรุปตัดบทสวนขึ้น..
"ความฝันสิ เจ้าโง่"
แสงสว่างวาบหนึ่งผ่านเข้ามาในชีวิต จึงทักทายเพียงอึดใจนั้นว่า..
"ช้าก่อน เจ้าทึ่ม"
"ความจริงสิ เป็นสิ่งที่ไม่ตาย"
"ความงมงาย คือทางเสื่อม"
หากตัดเจ้า, เทวาและพันธบรรพบุรุษออกไป ใช้ความเงียบสยบความหยาบด้านในจิตใจ ใช้ทิวาอันนิ่งงันนี้ทบทวนความอื่นอันหมื่นแสนกลับพบผกผัน..
"ความจริงอยู่ปลายความฝัน" หรือ "ความฝันอยู่ปลายความจริง" กันแน่?
อะไรเล่าที่เราจำเจ อะไรเล่าที่เราติดอยู่ในบ่วงวัฎจักรเก่าๆ เราคิดว่าหลุดพ้นเพื่อติดกับความหลุดโลก เกินความเป็นคนเพื่อโสดาบันและศาสดาหรือ?
"ใช่ นั่นอาจเป็นทางออก"
นั่นเสียงสวดแห่งหนทางของศาสดาดังขึ้น "ใช่ ผิดจากนี้ไม่ใช่ทางแห่งการหลุดพ้น"..
...
พลันจังหวะนั้น.. ตื่นจากฝัน ความไม่แน่นอนเป็นตัวแปรที่แน่นอนได้เข้าความควบคุมทั้งความฝันและความจริงในโลกลวงให้ดำเนินผ่านไปเพียงพลัดวัน!!
|