ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว |
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว

น้ำมันรำข้าวที่ได้จากกระบวนการพิเศษ ในการสกัดเอาสาระสำคัญที่มี
ประโยชน์นานาชนิด ซึ่งมีอยู่ในเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว (Seed Membrane Layer) และจมูกข้าว (Rice Germ) จึงอุดมด้วยสารสำคัญทางธรรมชาติ และมีคุณค่าสูงต่อร่างกายหลายชนิด เช่น กลุ่มสารฟอสโฟไลฟิด (Phospholipids) เช่น เลซิติน (Lecithin) เซฟฟาลิน (Cephalin) ไลโซเลซิติน (Lysolecithin) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์โดยเฉพาะเซลล์เยื่อหุ้มสมอง และเยื่อหุ้มประสาท ซึ่งมีความสำคัญในการนำไปสร้าง และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ประสาทสมอง และช่วยป้องกันเซลล์ประสาท จากสารที่เป็นพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids) ทำให้การสื่อกระแสประสาทสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วทำให้ระบบความทรงจำดีขึ้นและลดความเสี่ยงของการเกิดโรงความจำเสื่อมรวมทั้งยังช่วยลอความเครียดได้ด้วย กลุ่มเซราไมด์ (Ceramide) เป็นไขมันที่มีความจำเป็นของผนังเซลล์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของชั้นใต้ผิวหนัง ช่วยให้เซลล์สามารถเก็บกักน้ำ และความชุ่มชื้นไว้ได้ยาวนาน และช่วยป้องกันในการสูญเสียน้ำออกจากผิว ช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น การเสริมสร้างเซราไมด์ให้เพียงพอ หรือการได้รับเซราไมด์เพิ่มจากการรับประทานจึงช่วยให้ผิวมีความนุ่มนวล และยืดหยุ่นได้ดี อีกทั้งการให้ทางผิวหนังในรูปของการทาครีม หรือโลชั่น จะช่วยรักษาผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ปราศจากริ้วรอยย่น ก่อนเวลาอันควร นอกจากนี้เซราไมด์ ยังมีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนเนอร์ (Whitener) ซึ่งสามารถยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน อันเป็นสาเหตุให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนผิวพรรณได้ดี และยังเป็นมอยเจอไรเซอร์ (Moisturizer) ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวอีกด้วย วิตามิน อี (Vitamin E) วิตามินอี ธรรมชาติในน้ำมันรำข้าว จัดเป็นกลุ่มวิตามิน อี ที่เรียกว่า โทคอลกรุ๊ป (Tocols) ที่อยู่ในรูปของโทโคเฟอรอล(Tocopherol) และโทโคไตรอีนอล (Tocotrienol) มีประโยชน์ต่อร่างกายในการสร้าง และซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย และยังช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ป้องกันการแก่ก่อนวัย และลดความเสี่ยงในการเกิดโรงมะเร็งที่มีเหตุมาจากอนุมูลอิสระ
กลุ่มกรดไขมันไลโนเลอิค (Linoleic Acid) หรือโอเมก้า 6 และกรดไลโนเลอิค (Linoleic Acid) หรือโอเมก้า 3 ที่เป็นกรดไขมันจำเป็น โดยมีอยู่ประมาณ33% ที่จำเป็นที่ร่างการต้องได้รับจากอาหาร ช่วยลดระดับคอลเลสเตอรอลในเลือดได้เช่นกัน
กลุ่มแกมมา ออไรซานอล มีฤทธิ์ในการลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ลดการตีบตันของหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังมีฤทธิ์ในการลดความเครียด และรักษาอาการผิดปกติของสตรีวัยทอง นอกจากนี้ยังเป็นสารอนุมูลอิสระ และยังป้องกันแสงยูวีได้ เมื่อใช้กินหรือใช้ทา ทำให้ผิวหนังชุ่มชื่นและต้านการอักเสบ สารชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงมาก (พบได้เฉพาะในน้ำมันที่สกัดจากรำข้าวเท่านั้น มีผลงานวิจัยมากมายกว่า 40 ปีที่ยืนยันประสิทธิภาพของแกรมมา ออริซานอล ว่าสามารถช่วยในการดูแลสุขภาพของเราได้อย่างมาก)
กรดโอเลอิก (Oleic Acid) เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว จัดอยู่ในกลุ่มกรดไขมัน โอเมก้า-9 ที่มีฤทธิ์ลดระดับไขมันในเลือดได้จึงสามารถลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดได้ดี
โฟโตสเตอรอล(Phytosterol) เป็นสารสำคัญที่มีรายงานการวิจัยจากหลายสถาบันว่า ช่วยยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก และเซลล์มะเร็งช่วยป้องกันโรงมะเร็งลำใส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมทั้งช่วยลดคลอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และลดความเสี่ยงของโรคหลอเลือดและหัวใจ
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
เป็นอาหารเสริมที่ผลิตจาก รำข้าวและจมูกข้าว มีคุณสมบัติพิเศษ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพ
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ว่าเป็นอาหารเสริมที่ให้ความพอใจอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจาก น้ำมันรำข้าวเป็นอาหารเสริมที่ให้คุณประโยชน์มากที่สุด เพราะเป็นอาหารเสริมที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ในร่างกายให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกครั้ง ในแง่ของการใช้ประโยชน์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้สึกพึงพอใจเมื่อได้รับประทานน้ำมันรำข้าวแล้วทำให้ร่างกายของผู้บริโภคแข็งแรงขึ้น หายจากโรคที่เป็นอยู่ หรือบรรเทาลงอย่างเห็นได้ชัดเจน จนเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย และเป็นที่น่าสนใจว่าน้ำมันรำข้าวนี้ สามารถยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง และลดเซลล์มะเร็งที่เป็นอยู่ให้ลดลง และถึงขั้นแทบไม่พบเซลล์มะเร็งอีกเลย ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าว ต่อระบบต่างๆของร่างกาย
1.ระบบผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณมีความอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น กระชับและยืดหยุ่นตัวดี อีทั้งยังช่วยลดปริมาณการสร้างเม็ดสีผิวอีกด้วยทำให้พบว่าเมื่อรับประทานน้ำมันรำข้าวสมำเสมอ ผิวจะดูกระจ่างใส ลดริ้วรอยหมองคล้ำจุดด่างดำบนใบหน้าก็ลดลงชัดเจน นอกจากนี้ยังมีผลต่อความแข็งแรงของผิว ลดการอักเสบของผิวได้จึงพบว่าคนที่มีปัญหาเรื่องสิว หรือผิวหนังอักเสบมรปัญหาเรื้อรัง เมื่อได้รับประทานน้ำมันรำข้าวอย่างต่อเนื่องจะทำให้อาการต่างๆเหล่านี้ดีขึ้น 2.ระบบหลอดเลือดและการใหลเวียนของเลือด ช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลและลดปริมาณของ แอลดีแอล ซึ่งเป็นไขมันชนิดไม่ดี และช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง การรับประทานน้ำมันรำข้อวอย่างสม่ำเสมอจะสามารถลดอัตรการเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้
3.ระบบฮอร์โมน และการนอนหลับ ช่วยให้สามารถนอนหลับได้สบายและหลับสนิดร่างกายจะได้รับการพักผ่อนเต็มที่ทำให้มีการหลั่งสารของ โกรทฮอร์โมน ทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้นรวมทั้งยังช่วยให้มีการฟื้นตัวดีขึ้น เห็นได้จากผู้ป่วยบางคนที่ได้รับประทานน้ำมันรำข้าวจะฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็ว ผลต่อการช่วยปรับสภาพสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย จึงทำให้ช่วยลดอาการแปรปรวนต่างๆในคนวัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือนได้รวมไปจนถึงคนที่มีอาการปวดท้องขณะมีประจำเดือน ก็ยังสามารถช่วยอาการปวดท้องลงได้อย่างชัดเจน
4.ระบบประสาท ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ และช่วยให้ความจำดีขึ้นและยังช่วยเพิ่มการทำงานของระบบสื่อประสาททำให้ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ หรืออัมพาตแขนขาอ่อนแรงกลับมีการฟื้นตัวขยับแขนขาได้มากขึ้น หรือในบางคนที่มีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองมากพอก็สามารถกลับมาเดินได้ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้เหมือนคนปกติอีกครั้งหนึ่ง
5.ระบบกระดูกและข้อ ช่วยลดอาการอักเสบของข้อ และช่วยเพิ่มการหล่อลื่นภานในข้อให้ดีขึ้นจึงทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่างๆดีขึ้นอีกทั้งยังสามารถช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมออกไปจากร่างกสย จึงลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคงกระดูกพรุนได้อีกด้วย
6.ระบบภูมิคุ้มกัน และการต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพช้าลง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเสื่อมต่างๆ เช่น เบาหวาน ดความดันโลหิตสูง โรงหัวใจ และโรงมะเร็ง เป็นต้น นอกจากนี้ผลของการช่วยเพิ่มภูมิคุมกันของร่างกายจึงช่วยลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งในคนไข้ที่เป็นมะเร็ง และช่วยให้ร่างกายมีการฟื้นตัวหลังการรักษาได้เร็วขึ้น
ซึ่งถือว่า น้ำมันรำข้าวจและมูกข้าว เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สามารถดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดย รศ.ดร. สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณะบดีคณะแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และ 1 ใน 12 ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของสหประชาชาติ ผู้วิจัยน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวจนโด่งดังขายดีมากใน U.S.A. และยุโรป โดยสรุปน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวดูแลสุขภาพ 4 เรื่อง ดังนี้ 1. เรื่องเกี่ยวกับสมอง ช่วยลดอาการเครียด ปวดหัว ไมเกรน นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม เสริมสร้างเซลล์สอง โดยรับประทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล,เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหาร ภายใน 1-2 วันจะเห็นผลชัดเจนในเรื่องของความเครียด นอนไม่หลับ *หากใครทาน 4 แคปซูลต่อวันแล้วมีอาการมืนงง ให้ลดเหลือ 2 แคปซูล เนื่องจากคนๆนั้นตอบสนองต่อน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวดีมากจนเส้นเลือดในสมองขยายตัวมากเกินไป จนเลือดไปเลี้ยงสมองมากเกินไป (แต่จำนวนน้อยมากๆที่มีอาการเช่นนี้) 2. โรคเสื่อม เช่น ไขมันในเส้นเลือด ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ เก๊า อัมพฤต มือเท้าชา อาการวัยทอง ให้ทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล, เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหารใน 7 วันแรก หากยังไม่เห็นผล ให้เพิ่มเป็น 6 แคปซูลต่อวัน (เช้า,กลางวัน,เย็น)โรคมะเร็งขั้นที่ 1-2 รับประทานเป็น 9 แคปซูลในสัปดาห์ที่ 2 3. โรคอักเสบ เกี่ยวกับข้ออักเสบ ผิวหนังอักเสบ อื่นๆ รับประทานวันละ 4 แคปซูล (เช้า 2 แคปซูล, เย็น 2 แคปซูล) หลังอาหารใน 7 วันแรก หากยังไม่เห็นผล ให้เพิ่มเป็น 6 แคปซูลต่อวัน (เช้า,กลางวัน,เย็น) 4. การต้านอนุมูลอิสระ จะมีความสามารถต้านอนุมูลอิสระดีกว่าพวกน้ำมันตับปลาถึง 60 เท่า ทำให้อาการที่เกิดจากอนุมูลอิสระไปทำลายจนโรคเสื่อมเกิดน้อยลง เช่น หากอนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ตับอ่อน ทำให้การสร้างอินซูลินบกพร่อง จึงเกิดเบาหวาน หากไปทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดรอยแผลที่ผิวหลอดเลือด ทำให้ไขมันไปเกาะง่าย จึงเกิดไขมันอุดตัน
|