วันที่ อังคาร กุมภาพันธ์ 2556

 ตั้งแต่ย้ายไปโรงเรียนแห่งใหม่

มัวยุ่งๆวุ่นๆ กับงาน เลยไม่ค่อยมีเวลาทำกับข้าวซักเท่าไหร่

เมนูอาหารรายวันก็เลยเรียบๆง่ายๆ มีอะไรก็กิน(กันตาย)กันไปก่อน

แต่วันนี้

พอจะมีเวลา เลยขอทำอาหารง่ายๆ สไตล์บ้านฉาน

แต่อยากกินอยู่หลายวันแล้วล่ะ

เห็นว่า พอจะมีวัตถุดิบอยู่ในครัวพร้อม

ก็เลยคิดว่า เมนูนี้น่าจะเหมาะชัวร์

“ผัดฉ่าปลาซาบะ”

พอดี เมื่อเช้าแม่ค้าปลานำปลาซาบะสดๆ มาขายถึงหัวกะไดบ้าน

วันนี้...ก็เลยขอทำ “ผัดฉ่าปลาซาบะ” ซะเลย

ก่อนอื่น มาเตรียมเครื่องปรุงกันก่อน

1. กระเทียม

2. พริกขี้หนูสด

(ทั้ง 2 รายการ นำมาตำเข้าด้วยกัน)

3. หัวกระชาย – ซอยเป็นเส้นๆ

4. กระเพรา – เด็ดใบ-ดอกมาเตรียมไว้

5. ผักขึ้นฉ่าย (อันนี้ซื้อมา 5 บาท) – นำมาหั่นเป็นท่อนๆ

6. พริกไทยสด

เสร็จแล้ว ก็นำปลาไปจัดการ

- บั่นคอ ควักไส้ และหั่นเป็นบ้องๆ

- ล้างน้ำให้สะอาด

- นำไปทอดให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ

(แต่สำหรับชบาตานี ชอบแบบเหี้ยมๆ)

เสร็จวัตถุดิบเสร็จแล้ว อย่ารอช้า..

หิวแล้วอ่ะ!!!

1. นำกระทะตั้งไฟ

2. หยอดน้ำมันลงในกระทะนิดหน่อย ตั้งไฟให้ร้อน

3. โยนกระเทียมและพริกขี้หนูที่ทิ่มไว้แล้วลงไปเจียวให้หอมโฉ

4. เหยาะน้ำปลา –น้ำตาลทรายตามลงไป ผัดให้ดัง “ฉ่า”และ หอม “โฉ”

5. โยนกระชาย กระเพรา พริกไทยสดตามลงไป

6. เหยาะน้ำมันหอยตามลงไปติดๆ แล้วผัดให้หอมโฉ ให้กลิ่นหอมไปแหย่รูจมูกเพื่อนบ้าน

7. เหยาะน้ำลงไปไปนิดหน่อย (ทำท่าแค้นน้ำ)

8. ชิมรสชาติให้ให้รู้สึกถูกปากตัวเอง

9. จัดการโยนปลาซาบะที่ทอดแล้วตามลงไป

10. คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วยกลง

เตรียมตักข้าวสวยร้อนๆมากินกับผัดฉ่า

ให้มันหรอยได้แรงอกไปเลย

ทิ่มน้ำชุบซักถ้วย

กินกับลูกตอดอง..ที่เพื่อนครูให้มาเมื่อวานอีก 1 กระปุก

ยิ่งพาลพาให้ต่อมน้ำลายทำงานหนักขึ้น

ตบท้ายด้วยผลไม้แบบบ้านๆ

“ลูกขลบ”

ผลไม้ชายทุ่งที่มีมาแต่โบราณกาล แต่กำลังจะสูญพันธุ์ลงไปทุกขณะ

เอ...แต่ว่าของหวานซิ ยังไม่มี

จะเอาอะไรล้างคาวคอดี

แต่ก็เหลือบไปเห็น กล้วยไข่ที่ชาวบ้านให้มาตั้งแต่วานซืน

ทำท่าจะงอม..จนง่อมแล้ว

เพราะช่วงนี้มีของกินเยอะแยะ

ผลไม้ก็มีให้กินทุกวัน กินกันจนแทบไม่ทัน

ลองกองบ้าง จำปาดะบ้าง ทุเรียน เงาะ ลูกลูกู ฯลฯ

สรุปแล้ว กินกันไม่ทัน

จะขายเหรอ?

ก็ไม่รู้จะขายใคร ?

เพราะทุกบ้านเขาก็มีกินกันทั้งนั้น

แล้วแถมได้กล้วยมาอีก 2 หวี

ลองปอกดูที ว่า ข้างในมันเน่าหรือเปล่า?

ปอกดู อ้าว ข้างนอกขรุขระ แต่ข้างในยังตะติ้งโหน่งอยู่อีก

งั้นเอาไปเชื่อมดีกว่า

ไม่รอช้า

- นำน้ำสะอาดใส่หม้อ

- ใส่น้ำตาลทรายลงไป เกือบครึ่งโล

- โยนเกลือลงไป ซัก 2-3 เม็ด

- เคี้ยวให้น้ำหวานเป็นยาง

- โยนกล้วยที่ปอกแล้วตามลงไป

- ต้มกล้วยกับน้ำตาลต่อไปด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำหวานเกือบจะแห้ง

- ดูหน้าตาว่าน่าอร่อยก็ยกลง

- ไม่ต้องชิมก็รู้ว่า น่าอร่อย กินข้าวเสร็จ

ก็ตักกล้วยต้มน้ำตาล หรือ จะเรียกให้หรูหน่อย

คือ กล้วยเชื่อม

มากินล้างคอหลังจากกินข้าว

กินข้าวเสร็จ

โอว...มีคนใจดี เอาตะแปมันไม้(ข้าวหมากที่ทำจากมันสำปะหลัง)มาให้อีกถ้วย

ใครยังไม่อิ่มก็มาช่วยกินต่อทีต่ะ!!!