ผมพักอาศัยอยู่ในถนนโชคชัย 4 และพบว่าการจราจรติดขัดภายในถนนโชคชัย 4 ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเวลาค่ำๆ เนื่องจากไม่มีการบังคับใช้กฎจราจรอย่างเค่รงครัด กล่าวคือ การจอดรถในด้านถนนที่มีป้ายห้ามจอด ทำให้ช่องทางจราจรเหลือเพียง 2 ช่องทาง เนื่องจากมีรถจอดเกือบตลอดแนวถนน ตั้งแต่ต้นทางบริเวณถนนลาดพร้าว จนสุดถนนโชคชัย 4 โดยจุดที่น่าจะวิกฤติมากๆ คือบริเวณทางแยกถนนโชคชัย 4 ที่เลี้ยวไปถนนวัดลาดพร้าว-วังหิน ตอนค่ำจะมีรถมาจอดเพื่อรับประทานอาหาร โดยขาดจิตสำนึกว่าบริเวณนั้นเป็นบริเวณใกล้ทางแยก
มารยาทในการใช้ผิวจราจรของบรรดาร้านค้าตึกแถว และประชาชนบริเวณซอย ต.รวมโชค ก็เป็นการกระทำที่น่าละอายมากๆ คือการใช้ผิวจราจรจอดรถด้านละ 2 คัน จนเหลือเพียงช่องกลางถนนให้รถที่สวนกันไปมา ต้องคอยเบี่ยงกันไปมา เพื่อหลีกกันให้พอไปกันได้
นอกจากนั้นบริเวณถนนลาดพร้าวใกล้ๆ กับทางแยกถนนโชคชัย 4 จริงๆ คือบริเวณใกล้ๆ กับสถานีตำรวจโชคชัย มีรถจอดด้านซ้ายฝั่งขาออกไปบางกะปิ หน้าร้านข้าวต้มไม่ทราบชื่อ ทุกคืนรถจะติดมาก เนื่องจากเมื่อได้สัญญาณไฟเขียวแล้ว รถในช่องทางซ้ายสุดจะต้องเบี่ยงออกช่องทางขวา เนื่องจากไม่สามารถขับตรงไปได้ เพราะมีรถที่มาใช้บริการร้านข้าวต้มจอดอยู่ช่องทางซ้ายสุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถเมล์ เลยยิ่งกีดขวางกันเป็นที่วุ่นวายไปหมด และลุกลามไปถึงทางแยกปากซอยภาวนา
เพียงแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขัน และบังคับใช้กฎจราจรให้เคร่งครัด ผมเชื่อว่าปัญหาการจราจรในถนนโชคชัย 4 และถนนลาดพร้าวบริเวณทางแยกถนนโชคชัย 4 คงจะบรรเทาลงอย่างมากทีเดียว โดยเฉพาะหลายๆ พื้นที่อยู่แค่ปลายจมูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจโชคชัย 4 สมชัย
ตอบ พ.ต.ท.ภัควัฒน์ วันสนุก สารวัตรจราจร สน.โชคชัย ชี้แจงว่า ถนนโชคชัย 4 เดิมเป็นเพียงถนนภายในซอย มีชุมชนอยู่อาศัย มีอาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านขายอาหาร ขายข้าว ประชาชนจอดรถแวะซื้ออาหารก่อนเข้าบ้าน ประกอบกับชุมชนขยายตัวมากขึ้น มีรถสัญจรผ่านเพื่อเป็นทางลัดมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด โดยจุดที่มีปัญหาตั้งแต่ถนนลาดพร้าว วังหิน ลาดปลาเค้า โชคชัย 4 ลาดพร้าว 71 ถนนนาคนิวาส ถนนสุคนธสวัสดิ์
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เพิกเฉย กวดขันจับกุมเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งสร้างปัญหาการจราจรให้ถนนสายหลัก คือ ถนนลาดพร้าว และถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จะไม่อนุญาตให้จอดรถบริเวณถนนโชคชัย 4 โดยเด็ดขาด ที่ผ่านมามีการออกใบสั่งให้ผู้กระทำความผิด เฉพาะข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอดและห้ามจอดรถในเวลาที่กำหนด เพียงข้อหาเดียวเดือนละกว่า 1,000 ราย ถึงแม้ตำรวจจะจับปรับเข้มงวด แต่ก็ยังมีผู้กระทำความผิดอยู่ตลอด เนื่องจากกำลังตำรวจมีไม่เพียงพอและต้องอำนวยความสะดวกในเส้นทางอื่นๆ ด้วย ทำให้ยังมีผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิด
สารวัตรจราจร บอกว่า มาตรการเข้มต่อจากนี้คือไม่อนุญาตให้จอดรถบริเวณที่กำหนดเด็ดขาด หากฝ่าฝืนล็อกล้อสถานเดียว ลุงแจ่ม
|