*/
<< | พฤศจิกายน 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
............................................................................................... หลง รัก ลาว .. ย่ำเท้าเที่ยวเชียงราย (1)
............................................................................................................................ ต้นกล้า .. ไกลนา
.............................................................................................................................. ชีวิต .. ไกลบ้าน
................................................................................................................... ลมหายใจ .. บนทางไกล
..... การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นขึ้น โดยมีจุดหมายอยู่ที่ท่าเรือบั๊คใน อ.เชียงของ ซึ่งอยู่ห่างออกไป ๓๐ ก.ม. บน เส้นทางลัดเลาะไปตามไหล่เขาริมลำน้ำโขง ซึ่งถ้าเลือกที่จะนอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านพัก ก็คงจะพลาดบรรยากาศนี้ ไป ...............................................................................................................................................
..... นี่กระมังความหมายของคำว่า .. ‘เดินทางพันลี้ ดีกว่านอนกอดตำราหมื่นเล่ม’ ............................................
..... ‘อัญมณีประดับทาง’ .. เห็นแล้วนึกถึงหนังสือ Small is Beautiful ของ E.F. Schumacher ที่ให้ความสำคัญกับ การทำให้ทุกหน่วยเศรษฐกิจสามารถยืนได้ด้วยตนเอง .. หากชาวสวนชาวนาที่กำลังทำงานอาบแดดต่างน้ำ ซึ่งเห็น เรื่อยมาริมทางสัญจร มีชีวิตที่สดชื่นสดใส เช่นเจ้าคอกหญ้ากลีบบางเบาที่เบ่งบานอยู่เต็มไหล่เขาเหล่านี้ การ เปลี่ยนแปลงของชีวิตเล็กๆ หลายชีวิตจะสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับประเทศนี้มากถึงเพียงใด ..................................
..... ‘ท่าเรือบั๊ค’ จุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว ที่เห็นฝั่งตรงข้ามคือเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ของ สปป.ลาว เพราะ ไม่ได้เตรียมพาสปอร์ตมา จึงต้องฝากบัตรประจำตัวประชาชนให้กับคุณพี่สกายแลปขับไปทำใบขอผ่านทางที่ที่ว่าการ อ.เชียงของมาให้ รอแค่ ๑๕ นาที เอกสารทุกอย่างก็เรียบร้อย จ่ายค่าเดินเรื่องให้กับประชาชนรับจ้างในงานราชการ ไป ๑๐๐ บาท เท่านี้ก็เตรียมข้ามไปฝั่งลาวได้เลย .....................................................................................
..... เมื่อลงเรือหางยาว ที่คนแถวนี้บอกว่ามันคือ ‘สปีดโบ๊ต’ จากตรงนี้ใช้เวลา ๖ ชั่วโมง เครื่องยนต์ท้ายเรือก็จะพานัก ท่องเที่ยวไปถึงหลวงพระบาง หากมีโอกาสก็อยากจะลองนั่งเจ้าสปีดโบ๊ตหางยาวนี่ ไปเที่ยวดูสักที แต่วันนี้ขออาศัย มาที่ฝั่งตรงข้ามก็พอ ........................................................................................................................
โอกาสได้ใช้ ก็ต้องควักเงินบาทจ่ายไป ๓๐๐ เป็นค่ารถสองแถวเล็กพาชม และแวะเที่ยวรอบเวียง .........................
..... ตลาดเช้า-เย็น ที่มาเยือนเอาตอนเที่ยง ทำให้แทนที่จะเห็นผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหาร จึงกลายเป็นการมา ชมศิลปะรำพัดสากล ที่เปิดแสดงอยู่ข้างๆ ตลาดเท่านั้นเอง ........................................................................
..... ไฮไลท์ของการมาตลาด จึงอยู่ที่พี่สาวชาวลาวบอกว่าคือ ‘ข้าวซอย’ ชามยักษ์ชามนี้แทน ซึ่งรสชาติคงต้องบอก ว่า .. มันคือก๋วยเตี๋ยวลาบหมูรสจัดจ้าน แม่นแท้ !! ....................................................................................
เรียบร้อยจากมื้อกลางวัน ก็ได้เวลาเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของห้วยทราย
..... วัดพระธาตุตากผ้าคำ หรือวัดพระธาตุตากผ้าทอง ตามคำของไทย วัดเก่าแก่คู่เมืองห้วยทราย ที่คุณอาคนขับ สองแถวเล็กบอกว่ามีอายุกว่า ๙๗๐ ปี ...................................................................................................
..... องค์พระธาตุตากผ้าคำ .. ซึ่งคุณอาท่านเดิมเล่าประวัติความเป็นมาอย่างยืดยาว จนใจที่ตนเองเป็นคนฟัง สำเนียงเสียงภาษาลาวไม่ค่อยจะได้ความมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงจับใจความได้แต่เพียงว่า เมื่อครั้งยังไม่ได้สร้างองค์ พระธาตุ บุคคลสำคัญท่านหนึ่งเดินทางมาถึงตรงจุดนี้ และได้ถอดเสื้อผ้าลงไปอาบน้ำ เมื่อกลับขึ้นมาปรากฎว่า เสื้อผ้าของตนเองกลายเป็นทองคำ จึงได้สร้างพระธาตุขึ้นไว้ และเมื่อบุคคลสำคัญท่านนั้นเสียชีวิตก็ได้นำอัฐิมาบรรจุ ไว้ในองค์พระธาตุด้วย ......................................................................................................................
องค์พระธาตุตากผ้าคำนี้ .. คนลาวล่ำลือกันว่า ทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำ จะมีแสงส่องประกายออกมาจากองค์พระธาตุ (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
วนกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง ถือโอกาสเข้าไปกราบสักการะวัดจอมแก้วมณีรัตน์ ซึ่งตั้งอยู่บนเชิงเขาหน้าท่าเรือ ก่อนเดินทางกลับ
แสดงสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาต่างๆ ในประเทศลาว
อื่นๆ ของลาว ทำให้บรรยากาศในตัวเวียงดูไม่วุ่นวาย ความเจริญจากการท่องเที่ยวจึงดูผสมผสานกับวิถีชีวิตของคนที่ นี่อย่างไม่รู้สึกขัดหูขัดตา วัดวาอารามทั้งสองแห่งที่ได้ไปสักการะ ไม่เห็นตู้ทำบุญสำหรับนักท่องเที่ยวออกมาวาง ระเกะระกะ แสดงถึงวิถีทางวัฒนธรรมของคนที่นี่กับพุทธศาสนา ที่ยังยึดโยงกันไว้อย่างเหนียวแน่น จนการท่องเที่ยวมิ อาจนำผลประโยชน์สอดแทรกเข้ามาได้ .. .............................................................................................
แผ่นดินที่ใครหลายคนภูมิใจในความเจริญของตนเองนักหนา
เขาจะมองความเจริญที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์รายล้อมรอบตัวแบบของเรา ด้วยความรู้สึกอย่างไร ???
บ่าย ๓ แล้ว แต่แดดยังแรงมาก จากที่คิดเอาไว้ว่าจะกลับมาเดินเล่นที่เชียงของ จึงต้องเปลี่ยนแผนหันมาหาที่หลบนั่งพักแทน .. ที่ครัวริมน้ำ
มีผู้แนะนำให้ลองมาชิมอาหารของที่นี่ดู
แกงส้มที่นี่ใส่กระชายด้วย แปลกลิ้น แต่ก็อร่อยดี รสชาติสมราคาคุยของผู้แนะนำ .. ในราคาที่ถือว่าไม่แพง
ประสบการณ์ดีๆ ใน สปป.ลาว วันนี้ .. ถูกเก็บไว้ในความทรงจำเรียบร้อยแล้ว
บนเส้นทางทอดยาวกลางนาข้าว
บรรยากาศเช่นนี้ ทำให้รู้สึกไม่ต่างกับกำลังเดินเล่นเลย
นึกขอบคุณพนักงานในไร่ ที่ช่วยขนสัมภาระไปเก็บไว้ให้แล้ว
ผลคือ .. เดินขึ้นมาเพียง ๕๐ เมตร ก็ต้องหยุดพักซะแล้ว
กัน แต่ก็เปลี่ยนใจ เพราะในเมื่อเราเองยังต้องการความสงบ ความเป็นส่วนตัว ผู้มาเยือนท่านอื่นๆ ก็คงต้องการสิ่งนั้น ด้วยเช่นกัน .. .................................................................................................................................................................
ความสุขในกระท่อมน้อยเชิงเขา
ที่มีระเบียงให้ชมดาว
น้ำพริกหนุ่มผักลวก ผัดดอกกว้างตุ้ง ปลาสลิดทอดส้มตำ ข้าวผัดธัญพืช .. อั้มมมม
เมืองได้เข้าไปเสพรับสัมผัสกับความสวยงาม จึงพากันผุดมาอย่างมากมาย ป่าถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นสวนดอกไม้ ธรรมชาติของส่วนรวมถูกเบียดบังเอามาเป็นของส่วนตนเพื่อแสวงหาประโยชน์ กลายเป็นธรรมชาติถูกเบียดเบียน มากกว่าที่จะรักษาไว้ให้คงอยู่ดังเดิม......................................................................................................
เหล่านี้ทำให้มนุษย์เริ่มกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมของธรรมชาติมากขึ้นไปทุกที .................................................
น้อย สำหรับต้อนรับชาวเมืองที่ต้องการซ่องเสพกับความสงบร่มรื่นของธรรมชาติ พื้นที่ในส่วนที่เหลือยังคงได้รับการ ดูแลสืบทอดตามวิถีดั่งเดิมของการทำเกษตรกรรม ...................................................................................
พรายพิลาศ
One Love : Playing For Change
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |