ในปี 1977 เป็นปีที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล/ที่ใช้งานในบ้าน/ที่ทำงาน
PC Personal Computor 
ในปีนั้น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อน
การทำงานด้วยไมโครโปรเซสเซอร์ microprocessor
ไม่ใช่มีเพียงเจ้าเดียวในโลกในยุคนั้น 
ที่เปิดตัวแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
เพราะมีผู้ผลิตถึง 3 รายที่ลงมาแข่งขันกันในตลาด
ได้แก่ Apple II, Commodore PET และ TRS-80
ทุกบริษัทต่างประสบความสำเร็จกันเป็นอย่างสูง

จนกระทั่ง 5 ปีต่อมาในช่วงต้นทศวรรษ 1980
เครื่องทั้งหมดนี้และเครื่องที่มาหลังจากนี้
ต่างมีเทปคาสเซ็ตสำหรับเก็บข้อมูลขนาดใหญ่
เพราะฮาร์ดดิสก์ hard disk สมัยนั้นยังมีราคาแพงมาก
เพียงช่วงปี 1980  คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลก็เริ่มเสนอ
การเก็บรักษาข้อมูลด้วยฮาร์ดดิสก์ hard disk  เป็นครั้งแรก
โดยเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงด้านนอกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
และต่อมากลายเป็นติดตั้งภายในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

ในยุคนั้น IBM ยังไม่สนใจตลาด PC
เพราะคิดว่าของเด็กเล่นอีกไม่นานคงเลิกกิจการไปหมด
กอปรกับยังทำกำไรจากคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ Mainframe
ที่หน่วยงานบริษัทขนาดใหญ่ยังต้องใช้งานกันอยู่มาก
ก่อนที่จะลงมาแข่งขันใน PC ภายหลัง
และต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ Software Bootable PC
PC-Dos หรือ MS-Dos ให้กับ Bill Gates
ที่คิดเป็นจำนวนแผ่นที่ขายได้
(แต่ก็มีการ Copy แจกจ่ายกันมากกว่าจำนวนแผ่นที่ขายได้จริง) 
ทำให้ในเวลาต่อมา Bill Gates นำรายได้จากการขาย Software ให้ IBM
มาพัฒนาต่อยอดแล้ว Copy and Development
แนวคิดการใช้งานของ Apple บางส่วนจนเป็นของตนเอง

เทปคาสเซ็ตเทปที่ใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรก ๆ เหล่านี้
ที่ใช้บันทึกเป็นเทปเสียงเพลงแบบเดียวกับที่เราเคยฟังเพลง
เคยใช้ในการจัดเก็บโปรแกรมและข้อมูล
ก่อนที่เครื่องเล่นเพลงดิจิตอล เช่น iPod และสมาร์ทโฟน จะได้รับความนิยม
การใช้เทปคาสเซ็ตบันทึกเสียงเป็นที่เก็บข้อมูล
เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่เริ่มต้นนำไปสู่การพัฒนา
และการเติบโตของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
เพราะมันทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลงมาก
สาเหตุจากความประหยัดในด้านขนาดการผลิต/การขาย
(Ecomomic of Scales  แบบผลิตจำนวนมาก ๆ แล้ว
ต้นทุนรวมจะลดลง  เพราะต้นทุนคงที่อย่างไรก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว
แต่ต้นทุนแปรผันขึ้นกับจำนวนสินค้าที่ผลิตออกมา
ยิ่งผลิตมาก ๆ ต้นทุนรวมโดยเฉลี่ยยิ่งลดลง
แบบการถ่ายเอกสาร พิมพ์หนังสือ การผลิตโทรศัพท์มือถือ)

ทำให้ต่อมาในเวลาไม่นานนัก
พวกเด็ก ๆ ก็เปลี่ยนการเล่นโปรแกรม
และเล่นเกมในคาสเซ็ตที่อัดเสียง
เช่นเดียวกับที่พวกเด็ก ๆ เปลี่ยนการฟังเพลง

ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 บรรดาวิศวกร
ที่องค์กรกระจายเสียงชาวดัตช์ Nederlandse Omroep Stichting (NOS)
มีแนวความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก  ที่จะการเผยแพร่รายการคอมพิวเตอร์ผ่านทางวิทยุ
เพราะโปรแกรมและข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในเทปคาสเซ็ตต์เสียงเพลง
ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่เทปคาสเซทข้อมูลเหล่านี้
จะสามารถเล่นบนเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตต์และให้เสียงที่รับฟังได้
ซึ่งฟังเสียงดูคล้ายกับการต่อโมเด็ม dial-up  ผ่านสายโทรศัพท์(ลวดทองแดง)
ด้วยการถ่ายทอดโปรแกรมและเกมส์ต่าง ๆ  ผ่านคลื่นวิทยุ
ผู้ฟังรายการนี้จะสามารถบันทึกเสียงลงบนเทปคาสเซ็ตต์ Cassette
แล้วโหลดโปรแกรมลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ทำให้รายการวิทยุชื่อ  Hobbyscoop  ได้รับความนิยมอย่างมาก
นอกจากนี้  พวกวิศวกรชาวดัตซ์ยังได้พัฒนารูปแบบใหม่ที่เรียกว่า BASICODE
เพื่อให้มั่นใจว่าจะสื่อสาร/เข้ากันได้เป็นอย่างดี
ระหว่างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีการใช้งานกันอยู่ในเวลานั้น

ในฟินแลนด์มีรายการวิทยุที่คล้ายกันออกอากาศ
ทางสถานีวิทยุสาธารณะ YLE ในปี 1985
มีการออกอากาศเป็นรายการนำร่อง
และประสบความสำเร็จในการให้ Download โปรแกรม/เกมส์
ได้ในระยะทาง 600 กิโลเมตรห่างจากสถานี

ในยูโกสลาเวียรายการที่เรียกว่า Ventilator 202 ใน Radio Belgrade
ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
มีการออกอากาศรายการคอมพิวเตอร์ประมาณ 150 รายการ
ในระหว่างช่วงปี 1983 ถึงปี 1986
โปรแกรมดังกล่าว มีทั้ง โปรแกรมการคำนวณทางคณิตศาสตร์
โปรแกรมการศึกษาช่วงเวลาสั้น ๆ โปรแกรมจำลองการบิน ฯลฯ

ครั้งแรกที่มีการออกอากาศรายการวิทยุ
พิธีกร Zoran Modli ยังรำลึกถึงความหลังและได้เล่าให้ฟังว่า
" จะต้องแจ้งช่างเทคนิค Radio Belgrade ที่ปฏิบัติหน้าที่ว่า
ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะมีเพียงเสียงฟู่และคำราม
ทำให้คนฟังบางคนมักจะสับสบคิดว่า
พวกคนบ้ากำลังทำอะไรกันอยู่
แต่สำหรับคนที่ฟังที่เข้าใจจะตื่นเต้นมาก
แล้วติดต่อกลับมาหาเราทางโทรศัพท์
เพื่อบอกว่าพวกเขาโหลดโปรแกรม
ลงในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเรียบร้อยแล้ว "

ฟังเสียงที่ส่งผ่านวิทยุ  KChung Radio ด้วยความตั้งใจ

ในสหราชอาณาจักร Joe Tozer จาก Radio West
เกิดความคิดเสรีขึ้นมาอย่างอิสระในเวลาเดียวกัน
รายการแรกที่ออกอากาศคือ ภาพขนาด 40 พิกเซล x 80 พิกเซล
ในรูปเทเลเท็กซ์ภาพขาวดำของดารา Cheryl Ladd ในเรื่อง Charlie's Angels นางฟ้าชาร์ลี
ต่อมารายการวิทยุที่ชื่อว่า  Datarama 
ก็เริ่มส่งรายการภาพทุกชนิดที่เขียนขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรายการ
รวมถึงโปรแกรม minigames และแอพพลิเคชั่น
ที่แปลคีย์บอร์ดอินพุต เป็น รหัสมอร์ส

เพราะ microprocessor ที่เคยทำงานคำนวณแบบ 8 บิต
ได้เปลี่ยนแปลงการคำนวณเป็นแบบ 16 บิต
เพราะ microprocessor  มีความเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก
แต่ผู้คนและนักเล่นคอมพิวเตอร์ต่างยังหิวโหยข้อมูลและเกมส์ต่าง ๆ
เพราะต้องใช้เวลามากกว่า 250 เท่าในการบันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์
ที่ทำงานด้วย microprocessor แบบ 8 บิต
ทำให้เทปคาสเซ็ตไม่สามารถเก็บข้อมูลจำนวนมากได้
ดังนั้นที่เทปคาสเซ็ตจึงกลายเป็นอดีตไปแล้ว
ฟล็อปปี้ดิสก์และฮาร์ดดิสก์ จึงกลายเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
ที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่และที่เป็นที่ต้องการมาก
จนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 21
การดาวน์โหลดโปรแกรมไร้สาย
ก็สามารถทำได้โดยผ่าน Wi-Fi

เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/2VucoKb
https://bit.ly/2G545iG

กดเพื่อรับฟัง