จากการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกครั้งล่าสุดของนิตยสารฟอร์บส์ ซึ่งสรุปว่าปีนี้โลกเรามีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลกคือ 946 คน หรือมากกว่าปีที่แล้ว 150 คน

ปรากฏว่าในกลุ่มนี้เป็นมหาเศรษฐีรัสเซีย ที่ถือหนังสือเดินทางรัสเซียมากถึง 53 คน ซึ่งมากกว่าปีก่อน 19 คน ทั้งๆที่เมื่อ 10 กว่าปีก่อนนี้ ตอนที่ที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย ประเทศนี้ไม่มีมหาเศรษฐี หรือแม้กระทั่งเศรษฐีเลยแม้แต่คนเดียว และหลายคนก็เชื่อว่าประเทศนี้ล่มจมเพราะน้ำมันหมดประเทศ และฟื้นได้ยาก

ในบรรดาประเทศที่มีเศรษฐีหน้าใหม่มากที่สุดก็คือรัสเซีย 19 คน ตามมาด้วย อินเดีย 14 คน จีน 13 คน และสเปน 10 คน มหาเศรษฐีอเมริกัน กำลังถูกมหาเศรษฐีรัสเซีย จีน และอินเดีย เบียดเข้ามาเรื่อยๆ  อย่างมหาเศรษฐีเบอร์ 3 ของโลกก็เป็นเม็กซิโก ส่วนเบอร์ 5 ก็เป็นอินเดีย ตอนนี้ แม้กระทั่งโรมาเนีย และเซอร์เบีย ก็ยังมีมหาเศรษฐีเป็นครั้งแรก รวมแล้ว 53 ประเทศทั่วโลก ต่างก็มีมหาเศรษฐีเป็นของตนเอง

โรมาน อับราโมวิช

มือวางอันดับ 1 ของมหาเศรษฐีรัสเซียยังคงเป็นคนหน้าเดิมจากปีก่อนๆ นั่นคือ โรมาน อับราโมวิช  วัย 40 ปี ที่รั้งอันดับที่ 16 ของโลก ด้วยสินทรัพย์ 1 หมื่น 8 พัน 700 ล้านดอลล่าร์  สำหรับมหาเศรษฐีรัสเซียที่รั้งท้ายที่สุด อยู่   ในอันดับ 891 ของโลก มีทรัพย์สิน 1 พันล้านดอลล่าร์

อังเดร เมลนิเชนโก้

มหาเศรษฐีรัสเซียที่อายุน้อยที่สุด มีอายุแค่ 35 ปีเท่านั้น และมีถึง 2 คน มิหน้ำซ้ำ ยังร่ำรวยใกล้เคียงกันอีกด้วย คนแรกชื่อ อังเดร เมลนิเชนโก้ อีกคนชื่อ เซรเกย์ ( เซอร์เกย์ ) ปาปอฟ ทั้งสองคนรั้งอันดับที่  172 ร่วมกัน โดยมีทรัพย์สินคนละ 4 พัน 600 ล้านดอลล่าร์  ส่วนมหาเศรษฐีรัสเซียที่แก่ที่สุด ก็มีอายุแค่เพียง 58 ปี แต่ในกลุ่ม มีมหาเศรษฐีหญิงแค่คนเดียว อยู่ที่อันดับ279 ของโลก มีทรัพย์สิน 3 พัน 10 ล้านดอลล่าร์ มหาเศรษฐีรัสเซียส่วนใหญ่ร่ำรวยจากการทำเงินจากทรัพย์ยากรธรรมชาติ เช่นน้ำมัน , แร่ธาตุ และถ่านหิน

เซรเกย์ ปาปอฟ

ทั้ง 53 คนมีสินทรัพย์รวมกัน 2 แสน 8 หมื่น 2 พันล้านดอลล่าร์ ซึ่งมากกว่างบประมาณประจำปีของประเทศ

โดยรวมแล้ว อายุเฉลี่ยของมหาเศรษฐีรัสเซียคือ 46 ปี ซึ่งน้อยกว่าอายุเฉลี่ยของมหาเศรษฐีโลกถึง 16 ปี

สำหรับเหตุผลที่ปีนี้ เศรษฐีรัสเซียตบเท้าเข้ามามากเป็นพิเศษ นักวิเคราะห์ก็บอกว่า อาจจะเป็นเพราะปีนี้มีผู้เปิดเผยทรัพย์สินของตัวเองมากขึ้น หรือหากไม่ต้องการเปิดเผยตัว ก็ให้คนอื่นที่ถือครองทรัพย์แทน เป็นคนเปิดตัว นอกจากนั้น การที่ช่วงนี้ในรัสเซียมีการบูมเรื่องการบริโภค ธุรกิจการธนาคารและการค้าปลีกค้าส่ง มีการขยายตัวมาก ก็จึงมีมหาเศรษฐีในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นด้วย

แต่ในอีกมุมหนึ่งของสังคม ชาวรัสเซียอีก 13 เปอร์เซ็นต์ มีชีวิตความเป็นอยู่ในขั้นยากจน ขณะที่รายได้ระหว่างคนรวยกับคนจน ห่างกันถึง 15 เท่า