*/
คอลเลคชั่นหนังรัสเซีย | ||
![]() |
||
หนังรัสเซียที่เก็บไว้ |
||
View All ![]() |
แอนิเมชั่น 103 ปี | ||
![]() |
||
แอนิเมชั่นเรื่องแรกของรัสเซีย อายุ 103 ปี เพิ่งค้นพบฟิล์มเมื่อไม่นานมานี้ |
||
View All ![]() |
<< | พฤษภาคม 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
โซเวียตมีผู้นำจอมโหดอยู่คนหนึ่ง โลกรู้จักเขาดี เขาคนนั้นก็คือสตาลิน ผู้นำหนวดเฟิ้มจากจอร์เจีย แต่ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ สตาลินคนนี้นี่เองที่เป็นคนที่ทำให้โซเวียตพลิกกลับมาเอาชนะเยอรมันได้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสงครามครั้งนั้น โซเวียตเสียทหารและพลเรือนไปมากกว่า 20 ล้านคน และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือลูกชายแท้ๆของท่านผู้นำเอง ลูกชายท่านผู้นำคนนี้มีชื่อว่า ยาคอฟ โยซิโฟวิช จูกัชวิลลี่ เกิดเมื่อ 18 มีนาคม 1907 หรือก่อนการปฏิวัติของเลนิน 10 ปี ![]() ท่านผู้นำยังมีลูกอีก 2 คน ชื่อสเวียตลาน่า ซึ่งผมเคยเขียนถึงเรื่องราวของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนอีกคนก็คือ วาสิลี่ ยาคอฟ ถือได้ว่าเป็นพี่ชายคนโต เขาเป็นลูกที่เกิดกับภรรยาคนแรกของสตาลิน ชื่อเยคาเตริน่า ที่ป่วยตายในปลายปี 1907 หรือหลังจากที่คลอดยาคอฟไม่กี่เดือน สตาลิน เคยบอกเอาไว้ว่า นอกจากแม่ของเขาแล้ว ผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่เขารักจริง แต่ชะตากรรมการตายของยาคอฟนั้นเป็นอะไรที่ผมรู้สึกกลืนไม่เข้า คายไม่ออก หลังจากที่ได้รู้เรื่องราว และรู้สึกเห็นใจสตาลินอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าอยู่ในสถานะเดียวกับสตาลิน ก็คงต้องทำเช่น เดียวกับเขา ![]() ยาคอฟเกิดที่จอร์เจีย ซึ่งสมัยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และเขาก็อยู่ที่จอร์เจียจนอายุ 14 ก่อนจะถูกส่งมาเรียนต่อที่มอสโกเพื่อเรียนต่อ และที่นี่ เขาก็ต้องมาเริ่มต้นด้วยการเรียนภาษารัสเซียเพราะพูดภาษาหลักของประเทศไม่ได้เลย ยาคอฟกับสตาลิน เข้ากันไม่ได้สักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่า สตาลินมัวแต่ง่วนอยู่กับการปฏิวัติ มีอยู่ครั้งหนึ่งยาคอฟพยายามยิงตัวตาย แต่ไม่ตาย เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บ ปรากฏว่าผู้เป็นพ่อ ไม่สนใจที่จะดูแลอาการบาดเจ็บของลูก แต่กลับบ่นกับภรรยาใหม่ของเขา ซึ่งก็คือแม่เลี้ยงของยาคอฟว่า “ แค่ยิงให้ถูก มันยังทำไม่ได้ “ ![]() โดยอาชีพแล้ว ยาคอฟเป็นทหาร เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 มาถึงสหภาพโซเวียต ยาคอฟ ซึ่งเป็นทหารปืนใหญ่ และมีครอบครัวแล้ว โดยมีลูก 2 คน ได้นำทหารออกสู้รบเช่นเดียวกับทหารของโซเวียตทั้งหลาย แม้จะเป็นถึงลูกของท่านผู้นำก็ตามที แต่ยาคอฟโชคร้าย เขาถูกข้าศึกจับเป็นเชลย ![]() ยาคอฟ ถูกจับเป็นเชลยเมื่อ 16 กรกฎาคม 1941 ในการสู้รบที่เมืองสมาเลนส์ค ซึ่งเป็นในช่วงต้นๆของสงคราม ระหว่างการบัญชาการรบของหน่วยรถถังหน่วยหนึ่ง ว่ากันว่าเขารบได้แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นก็ถูกจับเสียแล้ว หลังจากนั้น เยอรมันก็ออกโฆษณาชวนเชื่อ ให้ทหารกองทัพแดงยอมแพ้แต่โดยดี เพราะแม้ลูกชายสตาลินก็ยังยอมแพ้ และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี แต่จริงๆแล้วมีรายงานว่ายาคอฟ ก็ไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีประการใด สภาพของเขาก็โทรมตามสไตล์ของเชลยศึกทั่วไปแหละครับ และที่สำคัญ เขาไม่ได้ให้ความร่วมมือกับฝ่ายศัตรูแต่อย่างใด ก็จึงไม่มีการออกมาพูดทางวิทยุ เรียกร้องให้ทหารกองทัพแดงยอมจำนนแต่อย่างใด ยาคอฟ ถูกเยอรมันย่ายไปโน่นมานี่อยู่เป็นระยะ เพื่อป้องกันการชิงตัว โดยระหว่างเดือนเมษา ยน – มิถุนายน 1942 เขาถูกส่งไปกักตัวอยู่ที่ค่ายกักกันในเมือง Hommelsburg และพอเดือนมีนาคม 1943 ก็ถูกส่งตัวมาที่ค่าย Sachsenhausen. ![]() และในช่วงต้นปี 1943 จอมพลฟริดริค เปาลุส ของเยอรมัน ก็สร้างประวัติศาสตร์ กลายเป็นนายทหารยศจอมพลคนแรกของเยอรมัน ที่ยอมจำนนต่อฝ่ายศัตรู ในการสู้รบที่เมืองสตาลิน กราด ทางเยอรมันก็จึงเสนอแลกตัวยาคอฟกับเปาลุส แต่สตาลินปฏิเสธ โดยบอกว่า “ ฉันจะไม่แลกร้อยโทกับจอมพล “ นอกจากนั้นก็ยังมีข้อมูลว่าฮิตเลอร์เสนอแลกตัวยาคอฟ กับ ลีโอ เราบัล หลานของ ฮิตเลอร์ ที่ถูกโซเวียตจับได้ในการรบที่สตาลินกราด แต่เรื่องนี้ก็ไม่มีการตกลงกันเช่นกัน โดยสตาลินบอกว่า “ สงครามต้องเป็นสงคราม “ บางคนบอกว่าที่ท่าทีของสตาลินเป็นเช่นนี้ ก็เป็นเพราะยาคอฟไม่ใช่ลูกคนโปรดของเขา แต่ในฐานะผู้นำประเทศ เรื่องแบบนี้ ผมก็ว่าตัดสินใจได้ยากมากอยู่เหมือนกัน ทหารโซเวียตที่ตกเป็นเชลยศึกมากมายก็ตกอยู่ในชะตากรรมเหมือนตายทั้งเป็นหลังจากที่ได้รับอิสรภาพกลับมา เพราะสตาลินมองว่าพวกเขาเป็นคนทรยศต่อชาติ แล้วเขาจะทำอย่างไรกับยาคอฟ อดีตเชลยศึก หากว่าได้ตัวกลับมา หลังสงคราม ทั้งเปาลุสและเราบัล ต่างก็ได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน แตกต่างจากยาคอฟ ที่ไม่มีข่าวคราวยืนยันใดๆเกี่ยวกับเขาออกมาอีกเลย แต่มีการสรุปตรงกันว่า เขาตายแล้วในค่ายกักกันเยอรมัน และก็มีการนำภาพศพของเขาออกเผยแพร่ด้วย แต่ก็ไม่มีการระบุว่าเขาตายเมื่อใด และอย่างไร บ้างก็ว่าเขาเดินไปเหยียบรั้วไฟฟ้าของค่ายกักกัน Sachsenhausen บ้างก็ว่าเขาฆ่าตัวตาย บ้างก็ว่าเขาถูกฆ่า บ้างก็ว่าเขาตายระหว่างการรบช่วงปลายสงคราม โดยผู้ที่เชื่อในทฤษฎีสุดท้ายนี้บอกว่า ที่ผิดสังเกตก็คือ ภาพของเขาที่เยอรมันนำออกเผยแพร่นั้นมีน้อยมาก ซึ่งผิดธรรมดาของคนที่จับลูกชายของฝ่ายศัตรูได้ ที่จะต้องโหมการโฆษณาชวนเชื่ออย่างหนัก ![]() แต่ล่าสุดเมื่อเร็วนี้ รัสเซียก็เปิดเผยเอกสารชั้นความลับ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับยาคอฟ หลังจากที่ถูกจับตัวไป เอกสารบอกว่า ยาคอฟถูกยามยิงตายเมื่อปลายปี 1943 ที่ค่ายกักกัน Sachsenhausen หลังไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง นักประวัติศาสตร์ระบุว่า แม้จะถูกจับ แต่ยาคอฟ ก็เป็นคนที่ไม่เกรงใจใคร เขาทำตัวเป็นอิสระ และดูถูกฝ่ายผู้บริหารค่ายกักกันอย่างเปิดเผย ในวันเกิดเหตุ ยาคอฟเดินไปรอบๆค่าย และยามสั่งให้เขากลับเข้าที่พัก แต่ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ เขายิ่งเดินเข้าไปใกล้รั้วมากขึ้นไปอีก รวมทั้งตะโกนให้ยามยิงเขาด้วย และยามก็ทำจริงๆ โดยยิงไปที่หัว บางคนบอกว่าที่เขาออกอาการเพี้ยนก็เพราะเครียดกับคำพูดของสตาลิน “ ฉันจะไม่แลกร้อยโทกับจอมพล “ เท่ากับปิดตำนานลูกชายคนโตของผู้นำประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ( ที่พ่อไม่รัก ) |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |