สายลมชายทะเลยามเช้าตรู่ ทักทายสรรพสิ่งอย่างอ่อนโยน เสียงใบมะพร้าวเสียดส่ายคล้ายเสียงกระซิบของภูตผีขี้เล่น เจ้าไก่โต้งหนุ่มใหญ่โก่งคอขัน เอ้ก อี เอ้ก ซ้ำๆหลายครั้ง ที่หน้าบ้านหลังน้อยของตัวเอง ก่อนจะกระพือปีกบินมาเกาะที่หัวบันไดกระท่อม เพื่อปลุกเจ้านายให้ตื่นเหมือนทุกวัน แต่วันนี้มันอาจผิดหวัง ดูแลตัวเอง ดูแลบ้านให้ดีนะเจ้าโต้ง ระวังไอ้เหลือมจะมากินเจ้าล่ะ เธอเอ่ยกับมันเบาๆ แทนการเอ่ยลาคนที่ยังนอนหลับอยู่ หญิงสาวก็รู้ตัวดีว่าว่าความรักความห่วงใยไม่ได้หายไปไหน มันยังนอนสงบนิ่งอยู่ในหัวใจ แม้เธอจะอยากกำจัดออกไป แต่ยิ่งดิ้นรนบังคับยิ่งเจ็บปวด คล้ายปลุกให้มันตื่นขึ้นมา เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ของความรัก รักที่มีความเห็นแก่ตัวเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงอย่างไม่ยอมอ่อนแอ เพราะรู้ว่านั่นคือความฉ้อฉลของหัวใจ เธอจึงต้องจากลา เหลียวหันไปมองร่างบางๆนั้นอีกครั้ง ดูทีรึ ทำเหมือนไม่รู้สึกตัว นอนนิ่งเหมือนหลับลึกออกอย่างนั้น ดีแล้วล่ะ ไม่ต้องร่ำลากันอีก แค่คำพูดเมื่อคืนก็เพียงพอแล้วสำหรับความเข้าใจ เขาคงรู้แล้วว่าครั้งนี้เธอตัดสินจากไปแล้วจริงๆ ก้าวลงบันไดอย่างมึนชาในหัวใจ กระท่อมหลังเล็กๆในดงมะพร้าว คงเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ที่เธอจะได้เห็นมัน ผ้าม่านประตูสีขาวหม่นเพยิบไหว คล้ายมือใครโบกลา...ลาที ลาก่อน เถาตำลึงที่เลื้อยคลุมซุ้มกิ่งไม้หน้าบ้าน ท่าทางจะเริ่มเหี่ยวเฉา เพราะขาดน้ำ ฤดูแล้งมาถึงแล้ว เมื่อไม่มีเธอมันอาจจะตาย แต่นั่นเป็นเรื่องของเขาแล้วล่ะ คนที่อยู่เท่านั้นที่จะรู้ว่าควรทำอะไรกับบ้านและชีวิตตัวเอง ลาที..ขอให้มีความสุขกับจังหวะชีวิตที่คุณเลือก เธอรำพึง แล้วหันหลังเดินจากมา บนไหล่มีกระเป๋าสะพายหลังสีน้ำเงินใบเล็กๆที่แทบไม่มีอะไรในนั้น นอกจากหนังสือที่รักหวงสองสามเล่ม รีบจ้ำเท้าให้เร็วที่สุด เพื่อเขาจะได้ไม่ตื่นขึ้นมาแล้วรั้งเธอไว้ น้ำตาที่ไหลอาบแก้มเหมือนดูดซับเอาเรี่ยวแรงไปจนหมดสิ้น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมต้องเสียใจกับการจากลา ทั้งที่รู้ว่ายามที่เธอไม่อยู่ เขาไม่ได้อยู่คนเดียว กว่าจะถึงท่าเรือต้องใช้เวลาเดินขึ้นเนินลงเนิน นานเกือบชั่วโมง แต่ความยาวนานของเวลาไม่ได้ทำให้เธอลังเลสับสนจนคิดหวนกลับสักนิด เพียงแต่เหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรง คล้ายยิ่งเร่งรีบยิ่งช้าลง ช้าลง ที่ตลาดท่าเรือ ผู้คนเริ่มจอแจ เสียงพูดคุยกันดังลั่นของกลุ่มหนุ่มๆ นักเลงชาวเกาะ ที่มีภาษาเฉพาะ ตอนมาอยู่ใหม่ๆไม่ค่อยชิน อยู่ไปนานๆเริ่มซึมซาบภาษาแบบนี้ จึงทำใจรับฟังได้ เสียงบางคนตะโกนถามเพื่อนข้ามหัวเธอไป ด.........อ!! มึงจะไปไหน ไอ้ฉุย ยังไม่ทันจะหันไปดูหน้าคนถาม ก็พบกับใบหน้าของพฤกษา นักเลงรูปหล่อประจำเกาะ ที่เข้ามาขวางทางเดิน พร้อมกับรอยยิ้มโชว์ฟันขาว ตัดกับสีผิวเม็ดมะขามคั่ว จะไปไหน พี่สาว ไม่มีคำนำหน้าประโยคคำนั้น กลับไปข้างบน ข้างบน คือแผ่นดินใหญ่ที่คนที่นี่เขาเรียกกัน สำหรับเธอข้างบนมันจะต้องไกลกว่าของพวกเขามากมายนัก กี่วันจึงกลับมา เขาถามต่อ ไม่รู้สิ ไม่มาอีกแล้วมั้ง เธออดที่จะระบายอารมณ์ลงในคำตอบไม่ได้ เพราะอย่างน้อยเขาคือเพื่อนชาวเกาะคนแรก ตอนที่อพยพมาอยู่เมื่อสองปีก่อน อ้าว แล้วพี่ชาญล่ะ พี่สาวจะทิ้งพี่ชาญเหรอ แค่ไปๆมาๆก็ได้นี่นา สงสารพี่เขานะ เวลาพี่ไม่อยู่พี่ชาญเหงามากรู้ไหม น้ำเสียงที่จริงจัง ท่าทางที่จริงใจจากคนที่ดูเหมือนกะล่อนเป็นอาชีพ และเที่ยวเล่นไปวันๆของพฤกษา ทำให้เธออึ้ง ไม่ละมั้ง เห็นมีคนอื่นแวะเวียนมาหา มาคุยอยู่เรื่อยๆนี่ เธอว่า แล้วหลบสายตาเขา เพราะรู้ว่าเขาจับความผิดปกติของเธอได้แล้ว นั่นมันลูกค้าของพี่เขานี่ ไม่จริงหรอก เขามีคนอื่น ตอนที่พี่ไม่อยู่ จริงเหรอพี่ พี่ชาญว่าอย่างนั้นเหรอ น้ำเสียงตกใจ มีเสื้อชั้นในอยู่ในห้องนอน ผู้ชายเขาคงไม่ใช้กันหรอก จริงไหม เธอชักฉุนขึ้นมาตะหงิด สีอะไร ขนาดเท่าไหร่ พี่สาวบอกผมได้ไหม เขาซักอย่างร้อนรน จนผิดสังเกต เธอไม่ได้ตอบคำถามนั้น เพราะคิดว่าป่วยการจะพูดถึง แต่อีกฝ่ายกลับลากแขนเธอไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คืองี้นะพี่นะ ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง พี่ไปนั่งกินน้ำชากาแฟกับผมที่ร้านนั้นก่อนดีกว่า เชาชี้ไปที่ร้านประจำของฉัน ยามมานั่งรอรับคนที่มากับเรือ มันเป็นร้านเล็กๆริมชายหาด ที่ไม่พลุ่กพล่านนัก พี่สาว เสื้อชั้นในตัวนั้นสีชมพูใช่ไหม ใช่ไหม เขาถามย้ำ เธอพยักหน้า คืองี้นะพี่ มันเป็นของผู้หญิงจริงๆ แต่ไม่เกี่ยวกับพี่ชาญ มันเป็นของผู้หญิงของผม เออ..ไม่ใช่สิ ไม่ใช่ผู้หญิงของผม เป็นของผู้หญิงคนหนึ่ง ของยายเจนน่ะ พี่ก็รู้จักนี่ ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ชาญ ท่าทีละล่ำละลั่กของเขาทำให้เธอยิ่งอยากรู้ แล้วมาอยู่ในห้องนอนพี่ได้ยังไง อืมม ก็ ด.......อ เอ๊ยยยยย เขาสบถลากเสียงยาว พลางเอากำปั้นเคาะหัวตัวเองถี่ๆ ก็เพราะว่า แหม..มันพูดยากนะ เอาเป็นว่าไม่เกี่ยวกับพี่ชาญก็แล้วกัน เธอเริ่มเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรเป็นบ้างแล้ว นี่หากไม่เจอเขา เธอคงต้องเสียใจที่เข้าใจชาญผิดไปตลอดชีวิต เส้นทางเดินกลับบ้านดูรื่นรมย์ยิ่งกว่าตอนไหนๆ แต่หัวใจร้อนรนเพราะอยากกลับไปขอโทษเขาเร็วๆ ค่าที่อาละวาดใส่เขาอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ความโกรธที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะหึงหวง แต่เป็นเพราะความเงียบสนิทที่ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากเขาเลย เธอต้องการเพียงแค่คำเดียว ว่าใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง เท่านั้นเอง แม้ในที่สุดเขาจะเอ่ยออกมาว่า พูดไปแล้วจะเชื่อไหมเล่า นั่นซี เธอว่า พูดมาสิ อธิบายมาสิ แล้วจะบอกว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ...เงียบ ...ไม่มีคำพูดเพิ่มเติม นั่นคือชนวนความโกรธที่ทำให้เธอระเบิดอารมณ์ ประกาศว่า เช้าตรู่ จะไปจากเขาทันที ผมขอร้องพี่ชาญเองแหละครับพี่สาว ว่าอย่าบอกใคร ขืนหลุดไปถึงหูเมียผม ผมตายแน่ๆ เรื่องเมียดุของเขาเป็นที่เล่าลือกันทั้งเกาะ เพราะเธอเป็นลูกเจ้าพ่อตัวจริง เสียงหัวเราะร่วนแว่วมา เมื่อสาวเท้าไต่ขึ้นสู่ที่สูงเพื่อไปยังที่ตั้งของกระท่อม เสียงหนึ่งนั้นคือเสียงของเขา แต่อีกเสียงหนึ่งล่ะ เช้าๆอย่างนี้ จะมีลูกค้าตั้งแต่เช้าเชียวหรือ และนั่นก็เป็นเสียงของผู้หญิงนี่นา หัวใจคนฟังกระตุกวูบ คราวนี้แหละ ยอมรับว่ารู้สึกหึงหวงจี๊ดขึ้นมาทันที ทั้งที่ไม่ได้เห็นหน้าว่าเป็นใครกัน ไม่แน่จริงก็อย่ารักใครอีกเลย บอกกับตัวเองอย่างหดหู่ ที่ไม่สามารถทำใจได้อย่างที่ตั้งใจ จริงอย่างที่คิด ภาพข้างหน้าที่เห็น เป็นผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เธอมาร่วมดื่มกาแฟกับผู้ชายของคนอื่นตั้งแต่เช้า แม้จะเป็นยามสาย แต่ก็เป็นเวลาเช้าเกินไปสำหรับนักท่องเที่ยวฝรั่งที่นิยมนอนดึก ฮาโหล เจน เธอแสร้งทักทายเสียงใส เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ทำทีเหมือนไม่เห็นอาการตกใจของอีกฝ่าย ปลดกระเป๋าออกวางไว้ แล้วนั่งลงบนท่อนไม้เดียวกันกับชาญ ที่ใช้ต่างเก้าอี้ มีโต๊ะเล็กๆ ที่ใช้ไม้แผ่นสี่เหลี่ยมตอกติดไว้บนไม้อีกท่อนหนึ่ง ขอกาแฟถ้วยสิคะชาญ แล้วแกล้งซบไหล่เขา เพื่อประกาศความเป็นเจ้าของให้อีกฝ่ายรู้ ยังไงก็ตามการชงกาแฟ เคยเป็นสิ่งที่เขาเต็มใจทำให้เธอเสมอ ในความเงียบของคนสามคน เธอรู้สึกว่ากลิ่นกาแฟไม่หอม รสชาดไม่อร่อยเหมือนที่เคยเป็น เสียงของพฤกษาแว่วตามมาตอกย้ำ ถ้าพี่สาวคิดว่าตัวเองรักพี่ชาญ ทำไมไม่มั่นใจว่าพี่ชาญก็รักพี่ คิดมากไปทำไม ผู้ชายไม่ได้เสียหายอะไรนี่ บางทีก็แค่เรื่องนั้น ไม่ใช่เพราะรัก เขาทำทีเหมือนจะสั่งสอน เธอจึงสวนกลับไปว่า สำหรับพี่ รักก็คือรัก รักแล้วต้องซื่อสัตย์ต่อกัน อยู่ไกลกันแค่ไหนก็ต้องไว้ใจกันได้ ถ้าจะมีอะไรกับใคร ต้องเป็นความรัก ไม่ใช่สำส่อน ผู้ชายของพี่ ถ้าจะมีอะไรกับใครพี่ไม่ห้ามหรอก ขอแต่ให้บอกคำเดียวว่ารักเขา แล้วพี่จะจากไปเอง แล้วที่พี่ทิ้งพี่ชาญไปบ่อยๆ พี่ชาญเขาจะเชื่อเหรอว่าพี่ไม่ไปมีคนอื่น พี่ไปทำงานนี่ เขาต้องรู้จักพี่สิ ถ้าเขาไม่เชื่อใจพี่ เราก็ไม่ต้องรักกัน เป๊ะเลย พี่ต้องเชื่อใจพี่ชาญสิ ถ้าพี่รักเขาน่ะ อืม หมัดนี้เสยคางเธอจนมึน ก็ได้ แล้วจะพยามเชื่อใจกัน ด้วยคำนี้ของตัวเอง..ทำให้ต้องนั่งนิ่งเงียบสงบอารมณ์ แต่เขาทั้งคู่ดูเหมือนจะอึดอัดอยู่ลึกๆ ความเชื่อใจ ต้องสร้างร่วมกันจึงจะสำเร็จ จริงไหมชาญ เธอถามเขาในใจ แต่มันคือการตอบตัวเองไปแล้วอย่างหมดจด เมื่อสร้างไม่ได้ ฉันก็แค่ตัดใจไม่คาดหวังอะไรอีกต่อไป เท่านั้นเองค่ะชาญ หัวใจมันบอกกับเธออย่างนั้น ความรู้สึกที่มีจึงเบาบางว่างโล่ง รอเพียงวันที่มันจะไม่เหลืออะไรอีกเลย ไม่เหลืออย่างแท้จริง การอยู่ร่วมบ้านในวันต่อๆมา จึงคล้ายคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย มีผู้หญิงหลายคนแวะเวียนมาหา มาเป็นลูกค้าให้เขาวาดรูปให้ ไม่มีใครที่เธอจะต้องสนใจ หรือรู้สึกอะไรอีกต่อไป เมื่อไหร่ที่ฉันไม่เหลือความรู้สึกใดๆอีกแล้ว ฉันก็จะไปจริงๆ เธออยากบอกกับเขาอย่างนั้น แต่ความเงียบงันที่ครอบคลุมไปทั้งบ้าน ทำให้จำต้องปิดปากเอาไว้ ทำไมทิ้งผมไป สิบปีต่อมา เมื่อเธอกลับไปที่นั่นอีกครั้ง เขาถามคำนี้ เธอได้แต่ยิ้ม ขอขอบคุณศิลปิน (ที่ไม่ทราบนาม) ผู้รังสรรค์ภาพประกอบ
Dave Koz
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
ไร่มงคล | ||
![]() |
||
บ้านไร่ |
||
View All ![]() |
Dewa Che | ||
![]() |
||
เพลงที่ 8 |
||
View All ![]() |
<< | ธันวาคม 2007 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |