"ปันหยีสวย น้ำใส ชุมชนก้าวไกล ห่างไกลยาเสพติด ชีวิตมีคุณภาพ" โอกาสช่างเป็นใจให้ชาวสวนเศรษฐกิจพอเพียงจากตำบลราไวย์และผองเพื่อนได้ไปเยี่ยมเพื่อน (น้องรัก) MBA PKRU 52 ถึงบ้านที่เกาะปันหยี ความจริงแล้วเกาะปันหยีที่ตั้งอยู่ที่อ่าวพังงาก็ไม่ไกลจากภูเก็ตนัก แต่ด้วยเวลาไม่อำนวยจึงเป็นเหตุให้ไม่ได้ไปเที่ยวเสียที มารู้ประวัติของชุมชนชาวเกาะปันหยีสักนิดก่อนจะพาไปเหวนรอบๆ เกาะค่ะ เป็นเวลากว่า 200 ปีมาแล้ว ครอบครัวของ โต๊ะบาบู และอีก 2 ครอบครัวได้อพยพถิ่นฐานมาจากประเทศอินโดนีเซียเพื่อหาที่อยู่ที่ทำกินใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ได้ล่องเรือมาจนพบเห็นเกาะที่มีหาดทรายขาวสวยงาม มีป่าไม้บริเวณกว้าง ทิวทัศน์สวยงาม มีอากาศดีตลอดวัน และมีปลาที่สามารถจับเป็นอาหารได้อยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้นำธงไปปักเพื่อแสดงการจับจองเป็นเจ้าของ การปักธงนี้ เรียกว่า ปันหยี (Raised a flag atop its soaring cliff) ต่อมาจึงมีผู้คนอพยพเข้ามาอยู่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นชุมชนที่มีฐานะเป็นหมู่บ้านประมาณ 300 หลังคาเรือน ชุนชนจึงดูกว้างมากขึ้นจนไม่สามารถมองเห็นหาดทรายอีกต่อไป รวมถึงผู้คนนิยมไปเที่ยวที่เกาะปันหยีมากขึ้น จึงทำให้สภาพของชุมชนแตกต่างไปจากเดิมมาก และเกาะปันหยีเป็นชุมชนชาวมุสลิมที่มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย (a simple life) มีความเป็นมิตรมาก จริงใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี การเดินทางไปเกาะปันหยี ลงเรือได้ที่ท่าเทียบเรือ บ้านท่าด่าน มีท่าเทียบเรือ 4 แห่ง ระยะทาง 7 กิโลเมตร เดินทางโดยเรือหางยาวใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าเรือประมาณคนละ 170 บาทต่อคน การโทรคมนาคมสะดวกสบาย สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ มีไฟฟ้า / น้ำประปาใช้ทุกครัวเรือน คนที่อาศัยอยู่ที่เกาะส่วนใหญ่ผู้ชายจะมีอาชีพเป็นชาวประมง ผู้หญิงประกอบอาชีพค้าขายประเภทของที่ระลึก (ขายสินค้าในราคาที่ยุติธรรม) และชาวเกาะปันหยีบางส่วจะประกอบอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น ทำทัวร์ เปิดร้านอาหาร เป็นต้น เด็กๆ ที่เกาะปันหยีมีที่เรียนในเกาะ เรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนที่แปลก ห้ามเตะฟุตบอลออกนอกสนามนะ...เพราะต้องกระโดดลงน้ำตามไปเอาลูกบอลเป็นแน่ แล้วที่นี่ก็มีสถานีอนามัยที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย คือมีวิวทะเลแบบพานอรามาอยู่ประมาณ 300 องศา และมีลมทะเลพัดเย็นสบายตลอดวัน เกาะปันหยี มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ บ้านเกาะปันหยี ถ้ำลอด(พายเรือแคนนูลอดอุโมงค์) เขาเขียน เขาหมาจู(เกาะกลางน้ำที่มีลักษณะคล้ายรูปสุนัขกำลังหมอบ) เขาพิงกันและเขาตะปูที่เป็นสัญญลักษณ์ของจังหวัดพังงา ที่ได้ชื่อว่าเป็นฉากถ่ายภาพยนตร์มากแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ไฮไลท์ของการเที่ยวเกาะปันหยี ได้แก่ การรับประทานอาหารทะเลที่สดใหม่ อร่อย และสะอาด (ไม่เห็นแก่กินเล้ย) ที่เกาะปันหยีมีร้านอาหารไว้คอยบริหารสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาแวะชมความงามของเกาะปันหยีอยู่หลายร้าน ได้แก่ มูเทียร่าห์ซีฟู๊ด นิวเฟิร์นซีฟู๊ด ซันนี่ซีฟู๊ด อันดามันซีฟู๊ด ปันหยีซีฟู๊ด และร้านอาหารปันหยีบังกะโล และมีร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึกราคาย่อมเยาว์ การเดินเที่ยวรอบชุมชนเกาะปันหยีสามารถทำได้ในเวลา 10 นาที แต่เราทำเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง แฮ่ะๆ ชอปปิ้งนิดหน่อยเองค่ะ ฝากบอกนิดเดียวว่า ไฟฟ้า-น้ำประปาต้องดึงมาจากแผ่นดินจึงมีต้นทุนที่สูงมาก หากไปเที่ยวปันหยีแล้วช่วยกันประหยัดพลังงาน เที่ยวอย่างรักษ์ธรรมชาติ เพื่อให้สมบัติที่เราหวงแหนอยู่กับเราไปนานๆ นะค่ะ อย่างไรก็ดี ทริปนี้ เราชาวทีมงานได้เหวนกันอย่างมีความสุข อิ่มอร่อย เสพไออุ่นจากเกาะปันหยีและอ่าวพังงาแบบไม่ต้องจ่ายตังค์ ก็ด้วยความมีอุปการะคุณของทายาท มูเทียร่าห์ซีฟู๊ด ขอบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
|
<< | สิงหาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |