If you are not part of the solution, สำหรับคนไทยแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดพิศดารอะไรเลยครับ ถ้าเราจะเห็นพระฝรั่งออกบิณฑบาต หรือเราจะเห็นคนไทยหอบลูกจูงหลานเข้าโบสถ์คริสต์ในวันอาทิตย์ เหตุผลง่ายๆ คือว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเปิดอิสระและรับรองเสรีภาพในการที่เราจะเลือกนับถือศาสนา ว่ากันว่ามนุษย์เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด พูดภาษาอะไร จะอยู่ในโลกตะวันตกหรือโลกตะวันออก ทุกคนล้วนเหมือนกันและเท่าเทียมกันในฐานะของความเป็น มนุษย์ มนุษย์ที่ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ ๒ ส่วนคือมีร่างกายและจิตใจเหมือนกัน แต่หากเราจะลงลึกกว่านั้นในมุมของ ลักษณะเฉพาะ แน่นอนครับว่ามนุษย์เราย่อมมีความแตกต่างกันในด้านภูมิหลังทางวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมไปถึงความแตกต่างกันในด้านความคิด ปรัชญา ความเชื่อทางศาสนา ซึ่งถือเป็นรากฐานแห่งวิถีชีวิตของผู้คน
๖๒๙ กิโลเมตรจากกรุงเทพถึงจังหวัดอุบลราชธานีและห่างจากตัวจังหวัดอุบลราชธานี ไปทางอำเภอกันทรลักษณ์ ตามถนนทางหลวงหมายเลข ๒๑๗๘ ประมาณ ๘ กิโลเมตร มีพื้นที่ป่าหลายร้อยไร่อยู่ภายในเขตกำแพงนี้ ด้านหลังกำแพงแห่งนี้มีพระภิกษุสงฆ์และสามเณรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งตะวันตกและตะวันออก กำลังมุ่งหน้าหาหนทางปลดเปลื้องตัวตนให้พ้นจากความทุกข์ตามวิถีพุทธ คือการใช้ปัญญาและเหตุผลพิจารณาไตร่ตรองดูให้ดีเสียก่อนที่จะเชื่อถือในเรื่องอะไร คำถามมีอยู่ว่าเพราะสาเหตุใด ชาวต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศที่ได้ชื่อว่าเจริญและศิวิไลซ์ อย่างเช่น อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ซึ่งมีวิถีความเชื่อในเรื่องอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าหรือเชื่อในลักษณะของการใช้ศรัทธานำหน้าเหนือปัญญาและเหตุผล ต่างปฏิเสธวัฒนธรรมเฉพาะของตนเองและหันมาศึกษาแนวทางวิถีพุทธ บางคนถึงกับออกบวชเพื่อค้นหาสัจธรรมของชีวิต คำตอบของคำถามนี้ในเบื้องต้นคงต้องยกประโยชน์ให้กับหลวงพ่อองค์หนึ่ง ที่ตลอดชีวิตของท่านไม่เคยสัมผัสหรือรู้จักสูตรเคมีชีวภาพอะไรเลย แต่ท่านได้ใช้ปัญญาและการสอนแบบแยบยล น้อมนำให้บรรดาเลือดไม่ต่างสีแต่ดีเอ็นเอต่างเผ่าพันธุ์นั้นผสมกลายมาเป็นพวกเดียวกันได้ จิตของชาวเอเชียและชาวตะวันตกโดยพื้นฐานแล้วไม่แตกต่างกัน ดูจากภายนอก ขนบธรรมเนียมประเพณีและภาษาที่ใช้อาจดูต่างกัน แต่จิตมนุษย์นั้นเป็นธรรมชาติซึ่งเหมือนกันหมดไม่ว่าชาติใดภาษาใด ความโลภและความเกลียดก็มีเหมือนกันทั้งในจิตของชาวตะวันออกหรือชาวตะวันตก ความทุกข์และความดับแห่งทุกข์ก็เหมือนๆ กันในทุกๆ คนก่อนที่จะตกผลึกคำพูดนี้ออกมาจากท่าน ย้อนหลังไปในปี ๒๔๙๐ กับคำกล่าวของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพธรรม ที่ว่าการประพฤติปฏิบัตินั้น ถ้าถือเอาพระธรรมวินัยเป็นหลักแล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยในนิกายทั้งสองประโยคข้างต้นเพียงประโยคเดียวเท่านี้เองครับ ทำให้พระภิกษุองค์นี้ได้คลายความสงสัยในเรื่องของนิกายทั้งสอง คือ ธรรมยุติและมหานิกาย และได้หันมามุ่งมั่นปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงตรัสว่าทำตนให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมสมควรเสียก่อน แล้วจึงสอนคนอื่นทีหลัง จึงจะไม่เป็นบัณฑิตสกปรก"ดังนั้นการอบรมสั่งสอนบรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อจึงอยู่ในหลักการที่ว่าสอนคนด้วยการทำให้ดู ทำเหมือนที่พูด พูดเหมือนที่ทำซึ่งเรื่องนี้หลวงพ่อเคยเปรียบเปรยให้ฟังว่า"การให้ธรรมะนี่ก็เหมือนกับให้ยารักษาคนไข้ นายแพทย์รักษาคนไข้ก็ต้องรู้ว่ายาชนิดไหนเหมาะแก่ใคร ต้องรู้จักคนไข้ รู้สมุฏฐานของโรค เหมือนกับเราทอดแห ไปเหวี่ยงแหสะเปะสะปะคร่อมแม่น้ำเลย ไม่ได้หรอก ต้องคอยเวลาเห็นปลาบ้อน(ผุด)นั่นแหละ มันบ้อนตรงไหนก็เหวี่ยงลงตรงนั้นเลย ถึงจะได้ การสอนก็ต้องดูว่าเขาจะรับได้แค่ไหน ดูความพอดีของเขา เพราะความพอดีนั้นแหละคือธรรมะ ถ้าไม่พอดีไม่เป็นธรรมะ" เมื่อประมาณปี ๒๕๕๒ โรงเรียนทอสี ซอยปรีดีพนมยงค์ ๔๑ สุขุมวิท ๗๑ กทม.ได้มีการเปิดตัวเข้าโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ คือการที่นำหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาใช้หรือประยุกต์ใช้ในการบริหารและการพัฒนาผู้เรียน โดยเน้นกรอบการพัฒนาตามหลักไตรสิกขาอย่างบูรณาการ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ ได้พัฒนาการกิน การอยู่ การดู การฟังให้เป็น โดยผ่านกระบวนการทางวัฒนธรรมแสวงปัญญาและมีวัฒนธรรมเมตตา เป็นฐานการดำเนินชีวิต ในวาระและวันดังกล่าว องค์ประธานที่ปรึกษาของโรงเรียนได้กล่าวเปิดงานว่า พุทธศาสนาเป็นเรื่องของปัญญา เป็นเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์ที่ถูกต้องระหว่างมนุษย์กับผู้อื่น เราไม่เชื่อว่าสิ่งที่ถูกต้องอยู่ในคัมภีร์ใดคัมภีร์หนึ่งแต่เราจะให้เกียรติในความเชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์ ว่ามนุษย์สามารถเข้าสู่ความดีงามด้วยตัวมนุษย์เอง คำสอนในพระพุทธศาสนาจะเป็นระดับการปฏิบัติส่วนใหญ่ เกี่ยวกับทุกวันนี้เราอยู่อย่างไรเรามีความทุกข์ความสุขอย่างไร ทำอย่างไรความทุกข์จะน้อยลง ทำอย่างไรความสุขจะมากขึ้น ความสุขที่มีโทษน้อยมีไหม ความสุขที่ไม่มีโทษเลยมีหรือเปล่า ความสุขแต่ละระดับเป็นอย่างไร จะเอาธรรมชาติของมนุษย์มาบอก เอาธรรมชาติเป็นที่ตั้งของศาสนา ไม่เอาอุดมการณ์หรือคัมภีร์เป็นตัวตั้งการศึกษาในพุทธศาสนา ถือว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในโลกมนุษย์ เพราะว่ามีความมุ่งหมายที่จะนำมนุษย์ออกจากความมืดไปสู่ความสว่าง นำมนุษย์ไปสู่สิ่งที่สูงสุดที่มนุษย์พึงจะได้ คือการพ้นจากความทุกข์โดยสิ้นเชิงความถึงพร้อมด้วยความกรุณาและปัญญา ปัญญาคือคุณธรรมที่สูงสุด ในทางพุทธศาสนาเรามีอุดมการณ์การดำเนินชีวิตด้วยปัญญา คำว่าพุทธะแปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เราจึงต้องการระบบการศึกษาที่ทำให้คนตื่นและนี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เห็นว่า การศึกษาพุทธศาสนานั้น ทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยไม่สามารถวัดเป็นหน่วยหรือวัดเป็นเกรดนั้นมีความหมายลึกซึ้งเพียงใด หากสิ่งที่สำคัญในการศึกษาพุทธศาสนานั้นคือการปฏิบัติ ไม่ใช่การเชื่อหรือการท่องจำบางส่วนของคำกล่าวเปิดตัวโรงเรียนมัธยมฯ วิถีพุทธ โดยองค์ประธานที่ปรึกษาโรงเรียนปัญญาประทีป ถึงผมจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น แต่เมื่อได้มาอ่านคำพูดของท่านผ่านทางตัวอักษร ต้องยอมรับครับว่ารู้สึกประทับใจในหลายๆ คำพูดที่ได้อ่าน เช่น
พุทธศาสนาเป็นเรื่องของปัญญา เป็นเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์ที่ถูกต้องระหว่างมนุษย์กับผู้อื่น หรือ เพราะพระพุทธศาสนานั้นคือการปฏิบัติ ไม่ใช่การเชื่อหรือการท่องจำ
แต่เมื่อเห็นชื่อของท่านองค์ประธานที่ปรึกษาผู้กล่าวแล้วก็อดที่จะภาคภูมิใจไม่ได้ว่า นี่คืออีกบทบาทหนึ่งของพระภิกษุสงฆ์ชาวตะวันตกที่ได้ก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพจิตใจของเด็กๆ ชาวไทยให้เป็นผู้ที่เติบโตขึ้นมาอย่างมีอุดมการณ์และเป็นทรัพยากรอันมีค่าของประเทศไทยในอนาคต
ซึ่งองค์ประธานที่ปรึกษานั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลครับ ท่านคือไม้งามต้นหนึ่งที่หลวงพ่อได้หว่านเมล็ดพันธุ์ลงไว้ ดังคำกล่าวของท่านที่ว่า ช่างไม้ที่ฉลาดรู้จักพืชพันธุ์และคุณภาพของไม้แต่ละต้น ย่อมสามารถนำไม้จากป่า มาทำให้เกิดประโยชน์ใช้สอยได้ตามความเหมาะสม เมล็ดพันธุ์ไม้งามต้นนี้เดิมมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ฌอน ชิเวอร์ตัน ส่งตรงมาจากประเทศอังกฤษ หลวงพ่อได้นำมาปลูกและตั้งชื่อให้ใหม่ว่า พระชยสาโรภิกขุ
พระชยสาโรภิกขุ หรือพระอาจารย์ชยสาโร ท่านเป็นพระฝรั่งผู้เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จนสามารถฝึกฝนและถ่ายทอดความลึกซึ้งในธรรมะออกมาเป็นภาษาไทยได้อย่างแตกฉาน ทั้งการพูดและคำสอนที่สะกดใจและกินใจพุทธศาสนิกชนทั่วไป
อาตมาคิดว่าเรื่องภาษาไม่ใช่อุปสรรค เพราะเชื่อว่าภาษาพื้นฐานคือบาลีสันสกฤต ซึ่งทั้งคนไทยและคนต่างชาติก็ต้องเริ่มมาเรียนรู้เหมือนกัน
ภาษามีความยากพอกัน แต่คนไทยอาจจะง่ายกว่าที่ศัพท์ไทยมีบาลีสันสกฤต แต่ในเมื่ออาตมาเป็นฝรั่ง ก็ต้องพยายามและขยันมากหน่อย ก็ไม่นาน
ที่อาตมารู้สึกได้ผล คือการท่องตัวอักษรจนกระทั่งสามารถอ่านได้ จากนั้นก็อยู่คนเดียว ค่อยๆ อ่าน ดูศัพท์ในดิกชั่นนารี อีกทั้งอยู่กับครูบาอาจารย์ ไม่ได้เรียนทฤษฏีอะไรมากมาย ก็ปฏิบัติไปด้วย มีการพิสูจน์ไปด้วย ได้ปรึกษาหารือกับครูบาอาจารย์ ได้อ่าน ได้ฟัง พูดคุยกับพระด้วยกัน ทั้งหมดนี้เป็นชีวิตของเรา เราก็ต้องคลุกคลีกับสิ่งนี้อยู่แล้วจึงไม่ยากเท่าไร
พระอาจารย์ชยสาโร เกิดที่ประเทศอังกฤษ เมื่อพ.ศ. ๒๕๐๑ ท่านเล่าว่าในวัยเยาว์ท่านเป็นเด็กที่มีสุขภาพไม่ค่อยจะดีนัก มีอาการหอบหืด ทำให้ท่านต้องหยุดและขาดเรียนอยู่บ่อยๆ แต่อุปสรรคดังกล่าวก็ไม่ได้ส่งผลให้ท่านย่อท้อหรือเกลียดคร้านแต่อย่างใด ตรงกันข้ามท่านได้ใช้เวลาดังกล่าวศึกษาวิชาการต่างๆ ด้วยตนเอง
นอกจากนี้โดยส่วนตัวแล้วสิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดคือเรื่องที่ว่า อะไรคือสิ่งสูงสุดที่เราจะได้จากการเป็นมนุษย์ ? อะไรคือความจริงสากลที่ไม่ขึ้นอยู่กับสมมุติของแต่ละสังคม ? และ ทำไมคนเราอยากจะอยู่อย่างเป็นมิตรแต่กลับรบราฆ่าฟันกันอยู่เรื่อยไป ?
หลังจากที่ท่านได้ตั้งคำถามดังกล่าวขึ้นมา ท่านว่ามองหาก็ไม่เห็นว่าจะมีผู้ใดสามารถให้คำตอบที่กระจ่างแก่ท่านได้ ท่านจึงได้หันมาศึกษาจากตำราต่างๆ มากมาย จนกระทั่งท่านได้มาพบคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ท่านเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในคำสอนว่า นี่เองที่เป็น สัจธรรมความจริง ที่ท่านได้เพียรหามานาน
พระอาจารย์สุเมโธ(พระราชสุเมธาจารย์)
ท่านเล่าว่าในปี ๒๕๒๑ ท่านได้มาฝึกปฏิบัติกับพระอาจารย์สุเมโธ(พระราชสุเมธาจารย์) ซึ่งเป็นชาวต่างชาติรูปแรกที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ที่วิหารแฮมสเตด ประเทศอังกฤษ
ท่านว่า ณ ที่นั้นเองเป็นเสมือนการจุดประกายไฟส่องทางให้ท่านตัดสินใจเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระโพธิญาณเถร(หลวงปู่ชา สุภทฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์
ภายใต้ร่มกาสาวพัตรกับการศึกษาปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อ ทำให้ท่านเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาและความเป็นครู ที่มีทั้งความเมตตาและปัญญา ในการสอนของหลวงพ่อ พระอาจารย์ชยสาโรได้เฝ้าสังเกตุอย่างเอาใจใส่ ด้วยความเป็นผู้มุ่งมั่นและตั้งใจจริง ทำให้ท่านสามารถรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองและสามารถใช้สติปัญญาในการสร้างประโยชน์ให้ตนและประโยชน์ให้กับผู้อื่นไปพร้อมๆ กัน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นความประทับใจและซาบซึ้งใจจนทำให้ท่านมีความผูกพันกับหลวงพ่อผู้เป็นอาจารย์อย่างมาก ท่านว่าในการอยู่ศึกษากับพระอาจารย์สุเมโธถ้านับเวลาแล้วก็ต้องว่าน้อยมาก แต่กับหลวงพ่อท่านรู้สึกถึงความผูกพัน
ท่านเล่าว่าหลวงพ่อจะสอนทุกอย่างโดยใช้ภาษาง่ายๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง สามารถนำไปคิดได้ตลอดชีวิต อย่างเช่นหลวงพ่อสอนว่า ทุกข์เพราะคิดผิด ซึ่งมันเป็นคำง่ายๆ แปลได้ตรงตัวว่า มันไม่ใช่ทุกข์ทางกาย แต่เป็นทุกข์ทางใจ ฯลฯ
ธรรมะเป็นเรื่องความรู้สึกไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาพิศดาร มันก็ขยายออกจากความจริงได้ง่าย แล้วเราก็ปฏิบัติตามคำสอนของท่าน แต่ที่สูงสุดสำหรับอาตมาแล้ว พระพุทธเจ้าเป็นต้นแบบ เพราะเราก็เป็นชาวพุทธและมีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดา เป็นครูที่คุ้มครอง พระอาจารย์ชยสาโรได้เคยให้สัมภาษณ์หนังสือฉบับหนึ่งไว้ว่าท่านได้เข้ามาอยู่ที่วัดหนองป่าพงประมาณปลายปี ๒๕๒๑ โดยก่อนหน้านี้ท่านเคยศึกษาทางพุทธศาสนามาสองสามปีแล้ว ด้วยวิธีการอ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อศึกษาถึง ปรัชญา แนวความคิดและทฤษฎี จนเมื่อท่านได้มาพบและศึกษาอยู่กับหลวงพ่อ ท่านได้เกิดความเชื่อมั่นขึ้นมาทันทีว่า หลวงพ่อคือพระอรหันต์ถามว่ารู้ได้อย่างไร เราก็ไม่รู้ เพราะไม่มีเครื่องตัดสินอะไร แต่นี่คือความศรัทธาที่เกิดขึ้นในจิตใจตั้งแต่เจอท่านครั้งแรก แล้วสำหรับนักบวชนี่คือสิ่งที่มีค่ามากที่สุดหลวงพ่อท่านพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ครั้งแรกที่ฟังท่านเทศน์ก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่นั่นก็ไม่ได้ถือว่าเป็นปัญหา เพราะเพียงแค่อยู่ใกล้ชิดท่านก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำมีความหมายและการปฏิบัติมีผลจริง ซึ่งตรงนี้สำคัญมากกว่าคือคนที่มีความรู้มากแต่ขาดศรัทธาก็ไม่ค่อยไปไหน คือสิ่งที่ทำให้เราอดทน ทำให้เราสู้ได้ คือความเชื่อในการกระทำ เพราะมีครูบาอาจารย์ที่ดีเป็นตัวอย่าง ฉะนั้นเรียกได้ว่าสิ่งที่เป็นความสุดยอดก็คือหลวงพ่อชาวตะวันตกมักมีความคิดเชิงวิเคราะห์ มีนิสัยชอบจับผิด ตำหนิติเตียน แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ชาวตะวันตกที่ได้อยู่กับหลวงพ่อรวมถึงอาตมาด้วย มองไม่เห็นว่ามีตรงไหนให้วิพากษ์วิจารณ์หรือจับผิดท่านได้การได้อยู่กับครูบาอาจารย์ระดับนี้แล้ว ท่านทำหรือพูดอะไรมีความหมายกับเราหมด คือเรามีศรัทธาในตัวท่าน เรารู้สึกได้เลยว่ามรรคผลนิพพานมีอยู่จริง และพระอรหันต์ยังมีอยู่ในโลกนี้อย่างที่บอกว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่วิชาความรู้หรือวาทศิลป์ในการสั่งสอน เพราะถ้าไม่ประทับใจหรือไม่ซึมซาบเข้าไปในใจก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่หลวงพ่อพูดแม้จะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เคยได้ฟังมาแล้ว แต่ท่านพูดไม่เหมือนคนอื่นพูด มันกินใจเรา ถึงใจเราพระอาจารย์ชยสาโร มิได้เป็นชาวตะวันตกคนแรกหรือเป็นฝรั่งคนเดียวที่มีความเห็นว่าหลวงพ่อที่อบรมสั่งสอนธรรมะแก่ท่านนั้นคือครูบาอาจารย์ที่ดีที่สุด เพราะก่อนหน้าที่พระอาจารย์ชยสาโรจะมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดแห่งนี้ในปี ๒๕๒๓ นั้นหลวงพ่อเจ้าสำนักท่านได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเป็นพุทธะลงไปในจิตใจของชาวไทยและชาวต่างประเทศมานานแล้ว ซึ่งผลสืบเนื่องจากการหว่านเมล็ดพันธุ์ของท่านได้ก่อให้เกิดทายาทแห่งพุทธะขึ้นมากมายทั้งคนไทยและคนต่างประเทศจากความตั้งใจเชื่อมสายสัมพันธ์และเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ขยายเป็นวงกว้างออกไปโดยไม่กีดกั้นชนชั้นและเชื่อชาติ ทำให้ทุกวันนี้พระภิกษุชาวต่างประเทศที่เป็นลูกศิษย์หรือชั้นหลานศิษย์ของหลวงพ่อ ต่างก็ได้แผ่รากลึกและเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงซึ่งปรากฏการณ์นี้จะว่าไปแล้วช่างตรงและเป็นจริงตามที่ท่านเคยกล่าวไว้ครับว่าช่างไม้ที่ฉลาดรู้จักพืชพันธุ์และคุณภาพของไม้แต่ละต้น ย่อมสามารถนำไม้จากป่า มาทำให้เกิดประโยชน์ใช้สอยได้ตามความเหมาะสม
จะว่าไปแล้วตลอดชีวิตของหลวงพ่อ บนถนนสายพุทธกับคนหลากหลายเชื้อชาติที่ไม่คุ้นเคยและไม่เคยคุ้นหน้า แน่นอนครับว่าอุปสรรคตามรายทางย่อมต้องมีให้พบเจอ ซึ่งองค์หลวงพ่อเองท่านมองว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นธรรมชาติของโลก
ท่านว่าการเผชิญกับปัญหาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ตราบเท่าที่เรายังรู้เท่าทันและรู้ถึงความพอดี เพราะความรู้เท่าทันและความพอดีนั่นแหละคือธรรมะ...สวัสดีครับ ขอขอบคุณภาพถ่ายจาก เวปไซด์ต่างๆ เช่น โรงเรียนทอสี,วัดป่านานาชาติ,ลานธรรมจักร ฯลฯ คุณพรชนก สุขพงษ์ไทย เพื่อนต่อกับคำแนะนำ คุณสมบูรณ์ ร้านนายฮ้อ สระบุรี สำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอครับ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กุมภาพันธ์ 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 |