ถ้าท่านได้มีโอกาสไปต่างประเทศ หรือ มีลูกหลาน ญาติ พี่น้อง
เล่าเรียน อาศัย ฯลฯ อยู่ต่างประเทศกันบ้าง
ก็คงจะเคยได้ยินได้ฟัง รับรู้เกี่ยวกับเรื่องของขนมฝรั่งมีชื่ออยู่ประเภทหนึ่ง
เป็นอาหาร"แดกด่วน" แบบที่เราคุ้นเคย
เช่น Mc Donald, KFC, Mister Donut, Starbucks เหล่านี้
อันนี้ก็เช่นกันเป็นขนม แบรนด์เนม ที่กำลังฮิตกันมาก ๆ
ในกลุ่มคนไทย ไฮโซ เช่นพวกเด็กเรียนเมืองนอก
ซื้อมาฝากทางบ้าน - อาม้า อาซ้อ ก็พลอยปลื้มอกปลื้มใจ ติดอกติดใจ
ที่อาตี๋ อาหมวย อีซื้อของนอกมาฝาก เลยกลายเป็นขนมไฮโซไปแล้วอย่างว่า

ทั้ง ๆ ที่ มันก็ไม่ได้แปลกประหลาด อะไรเกินไป ก็แค่ ขนมโดนัท ธรรมดานี่แหล่ะ
แต่เขามีประวัติความเป็นมาเป็นร้อย ๆ ปี ตอนนี้มาทำเป็นแฟรนไชส์ ขายไปทั่วโลก
พวกบ้าเห่อ ของแบรนด์เนม พวกนี้ก็ไปซื้อเอามาขายในประเทศ
เช่น ญี่ปุ่น (รายนี้เป็นที่แน่นอน ขอให้ชาวโลกเขาเห่อ
แต่ละคนก็จะต้องหาโอกาสเป็นเจ้าของเอาไว้ให้ได้),
ฮ่องกง ตอนนี้มีแล้ว แต่ที่เมืองไทยยังไม่มีใครนำเข้ามาขาย
เลยทำให้เป็นสินค้าที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศอย่างเดียว
ซึ่งทำให้มันกลายเป็นของมีค่า สำหรับคนไทยไป

ยิ่งที่ ออสเตรเลีย นี่ ถ้าใครได้มา หรือลูกหลานใครที่มาเรียนหนังสือที่เมืองนี้
เป็นต้องซื้อกลับไปฝากทางบ้านกัน คนละโหล สองโหล
เคยเห็นครั้งหนึ่ง แม้แต่พระสงฆ์ไทย- หลวงพี่ท่าน
ยังถือกล่องโดนัท พะรุงพะรัง ขึ้นมาบนเครื่องบินเลย

พูดมาตั้งนานยังไม่ได้บอกเลยว่าสินค้าชื่ออะไร แต่บางคนก็คงจะนึกออกแล้ว
ด้วยเคยได้มีโอกาส ชิมมาบ้าง โดนัท ยี่ห้อ "KRISPY KREME" ครับ
เป็นของอเมริกาโน่น แต่เขาทำให้แบรนด์นี้มันดังไปทั่วโลก มีร้านสาขาอยู่ทั่วไป
(นอกจากประเทศไทย ซึ่งคงอีกไม่นานคงจะได้เห็นเป็นแน่ เพราะกระแสมาแรงมาก ๆ)

ร้านขายก็ไม่ต่างจาก Mc Donald หรือ Starbucks แต่วิธีการขายหรือโปรโมชั่นเขานี่ค่อนข้างแหวกแนว
คือนโบายเขาจะขายทีละเป็นโหล-ชิ้น 12 อัน โดยตั้งราคาไว้ แบบอันละ 2-3 เหรียญ
แต่ถ้าซื้อ 12 อัน เหลืออันละเหรียญเดียวเป็นต้น

อย่างเช่นที่ไปเจอมาจนอดมาเล่าให้ฟังไว้เป็นเกร็ดความรู้ให้เพื่อน ๆ เราได้เป็นไอเดีย
เผื่อวันหน้าวันหลังต้องไปเจอกับการขายแบบนี้จะได้ไม่งง หรือเสียฟอร์ม
คือเมื่อวานผมผ่านร้าน โดนัทที่ว่านี้แหละ เกิดอยากจะซื้อไว้กิน เช้า ๆ กับกาแฟ
ก็เข้าไปขอซื้อเขา 6 ชิ้น (ขอบอกก่อนว่า ของยี่ห้อนี้ไม่เคยซื้อกินที่ออสเตรเลีย
หรือที่อื่น ๆ มาก่อน นอกจากที่ อเมริกา เพราะที่นั่น
ของแบบนี้วางขาย อยู่ในซุบเปอร์มาร์เก็ต ธรรมดามาก)
คนขาย (ตอนนี้กลับมาที่ออสเตรเลียแล้วนะ) บอกว่า

"คุณซื้อ 6 ชิ้น เราคิดราคา A$16.00 แต่ถ้าคุณซื้อ 12 ชิ้น
เราคิดราคา A$16.95.... "
แล้วจะให้ทำอย่างไรเราต้องการซื้อกินเพียง 6 ชิ้นเท่านั้น
แต่ความที่เห็นว่า มันต่าง กันมาก ๆ น่าสนใจ ล่อใจดี
เลยทำให้เราตกลงไปว่า เอา 12 ชิ้น ก็ 12 ชิ้น
เอาใส่กล่องมาเลย แล้วก็ให้มีปัญหามาให้เราอีกจนได้
ทั้ง ๆ ที่เราก็ยัง งง ๆ อยู่ ไม่หายว่า จะกิน 6 ชิ้น
แต่ต้องชื้อไป 12 ชิ้น มันจะต้องทำอย่างไร
ปัญหาที่ตามมาที่ว่าก็คือ คนขายบอกเราว่า
โดนัทที่เราเลือจะซื้อนั้น มีเหลืออยู่เพียง 11 ชิ้น
ขาดไปหนึ่งชิ้น ไม่ครบ 12 ชิ้น ใส่กล่องไม่ได้ครบจะให้เราทำอย่างไร
เรานึกในใจ ปัญหาแค่นี้ เด็กคนขายคิดไม่ออก ตัดสินใจไม่ได้ เราเลยบอกไปว่า
ก็เอารสอะไรก็ได้ใส่มาอีกหนึ่งอัน ให้ครบ 12 อัน เท่านั้นเองไม่เห็นยาก
แต่ทำไมคนขาย คิดไม่ออก เพราะเขามัวไปคิดว่า จะต้องหักออกหนึ่งอัน
จะคิดราคาอย่างไร ไปคิดแต่เรื่องที่ไม่ตรงประเด็น
( เดี๋ยวนี้เป็นกันมาก กับเด็กลูกจ้าง ที่จ้างกันมาด้วยค่าจ้างรายชั่วโมงราคาถูก
แต่ไม่มีประสบการณ์ หรือพวกที่เรียกว่า out source
ซึ่งจะเป็นการบริหารแรงงานระบบใหม่ ๆ
เพื่อลดต้นทุน แต่พนักเหล่านี้ไม่มีคุณภาพเพียงพอ )

ก็มาจบลงที่ผมได้โดนัท ออกมาจากร้าน 12 ชิ้น
เป็นรส cinnamon ที่ต้องการ 11 ชิ้น และรสอื่นอีก 1 ชิ้น กลับโรงแรม
ด้วยความไม่ประทับใจเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่ได้ของถูก
เกือบจะเรียกว่า ซื้อ 1 แถม 1 เลยทีเดียว จริง ๆ
มาทำความเข้าใจกับนโยบายการขายของเขาคือ
เขาต้องการให้ซื้อไป เพื่อ share กันกิน หลาย ๆ คน
ในหมู่เพื่อน ๆ หรือ ครอบครัว ไม่ต้องซื้อทีละอันสองอัน ก็เท่านั้นเอง

กลับมาถึงก็ต่อสายคุยกับ "พ่อมดไร้สาย" ที่เชียงใหม่ พ่อมดฯ ก็แนะนำกลับมา
เป็นการคำณวนทางคณิตศาสตร์ที่น่าสนใจ รับรองว่าถ้าทำตามที่พ่อมดฯว่า
เด็ก Rookie ที่ขายให้วันนั้นมันต้องบ้าตาย และ Krispy Kreme
ต้องไปทบทวนนโยบายการขายใหม่แน่นอน

"พ่อมดฯ แนะนำไว้อย่างนี้ ถ้าซื้อ 6 ชิ้น ราคา A$16.00
และเมื่อซื้อ 12 ชิ้น ราคา A$16.95.....
ดังนั้น ให้เราซื้อ 12 ชิ้น A$16.95 จ่ายเงิน แล้วขอคืนเขา 6 ชิ้น....
ซึ่งคุณควรจะคืนเงินให้ผม A$16.00 ใช่ไหมครับ ???..."

คลิก...ชมคลิปโฆษณา